Share this:

สุดระทึก! รถตู้นักศึกษาเอแบค น็อตยึดล้อหลังขาด พลิกคว่ำ บนทางยกระดับบูรพาวิถี ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 9 สาหัส 1 โชคดีไม่กระดอนตกไปข้างล่าง…

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 ม.ค. พ.ต.ท.วรพงษ์ ขจรฤทธิ์ สว.เวร สน.ทางด่วน 4 บูรพาวิถี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำบนทางยกระดับบูรพาวิถี กม.21.5 ขาเข้า กทม. ต.ศีรษะจระเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง สมุทรปราการ มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก หลังรับแจ้ง รุดไปสอบสวนพร้อมด้วยกู้ภัยทางด่วนและมูลนิธิร่วมกตัญญู เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน อล 492 กทม.เป็นรถตู้รับ-ส่งนักศึกษามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บางนา (เอแบค) วิ่งระหว่าง เอแบค -อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สภาพรถพลิกตะแคง ติดขอบทางด้านซ้าย ล้อหลังขวาหลุด กระเด็นออกมา และมีผู้บาดเจ็บรอการช่วยเหลือหลาย จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย และ มูลนิธิช่วยกันนำส่ง ร.พ. จุฬารัตน์ 1 จำนวน 8 ราย ประกอบด้วย นายหาญเศรษฐ์ งามดำรงยืนยง 23 ปี นายศุภรชัย ชีรานนท์ 22 ปี นายศิรวุฒิ สิงหเสนี 23 ปี นายอภิชน กมลเศรษฐ์ 23 ปี น.ส.พรทิพย์ ตั้งเทียนชัยชนะ 22 ปี น.ส.ชนนิกานต์ ศิริบัญชาชัย 20 ปี น.ส.กุลภัสสร กิจรักษา 20 ปี น.ส.ศิยา เลาหสุรโยธิน 22 ปี ทั้งหมดเป็นนักศึกษา เอแบค ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังรักษาแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนที่ ร.พ.ปิยมินทร์ ถูกนำส่ง 2 ราย ประกอบด้วย นายธณัฐ กาญจนาแสงกุล 20 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และน.ส.นิชนันท์ วนานุพันธ์ 20 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส

สอบสวน นายสมยงค์ พิ้งเสน อายุ 43 ปี คนขับรถตู้คันเกิดเหตุ ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้รับนักศึกษาออกมาจาก ม.เอแบค มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีนักศึกษาโดยสารมา14 คน รวมทั้งตน เป็น 15 คน โดยเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถได้เกิดพลิกคว่ำ และครูด ไปติดกับขอบกั้นทางด่วน ซึ่งตนมารู้ภายหลังว่าที่เกิดเหตุเป็นเพราะน็อตล้อหลังด้านขวาขาด และ ล้อหลุดออกมา ทำให้เกดเหตุดังกล่าว ด้าน น.ศ.รายหนึ่ง ซึ่งให้การกับพนักงานสอบสวนว่า คนขับรถนั้นขับมาด้วยความเร็วพอสมควร ช่วงนั้นรถมีไม่มาก แต่มาเกิดเหตุเสียก่อน

ด้านพนักงานสอบสวน กล่าวว่า คนขับน่าจะขับมาด้วยความเร็ว เพราะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ขณะนั้นรถที่ใช้เส้นทางยังมีไม่มาก หลังเกิดเหตุ จึงไม่มีเหตุซ้ำซ้อนแต่อย่างใด และเดชะบุญที่รถไม่กระดอนตกลงไปด้านล่าง มิฉะนั้นอาจเกิดเหตุรุนแรงกว่านี้ จึงขอเตือนให้ผู้ที่ขับรถตู้รับส่งนักศึกษา ตรวจสอบสภาพรถ และอย่าขับเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ส่วนการดำเนินคดี ได้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ในข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บดำเนินคดีต่อไป

เครดิต เว็บไทยรัฐ

Share this: