Share this:

ประสบการณ์ครูอาสาสมัคร 5 อาทิตย์ที่เวียดนามกับ AIESEC

สวัสดีคะ เพื่อนๆวันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ที่ไปเป็นครูอาสาสมัครที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนามคะ แต่ขอบอกก่อนว่าการไปเป็นอาสาสมัครครั้งนี้เราไปกับโครงการที่ชื่อว่า Jump Out ของชมรม AIESEC (ไอเซค)
ตอนนี้เราเชื่อว่าเพื่อนๆอาจจะงงว่า เอะ!!! ชมรมAIESEC(ไอเซค)คืออะไร โครงการ Jump out คืออะไร ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่า

AIESEC1

โครงการไอเซค(AIESEC)

ชมรม AIESEC คือชมรมอะไร

ชมรม AIESEC เป็นองค์กรนักศึกษานานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเครือข่ายกว่า 124 ประเทศทั่วโลก มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำของเยาวชนทั่วโลกและส่งเสริม การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างประเทศ และนำสันติภาพมาสู่โลก ผ่านการแลกเปลี่ยนจิตอาสานานาชาติในโครงการพัฒนาสังคม และการฝึกงานในบริษัทจากประเทศในเครือข่าย

Cr.http://www.glurr.com/topic/232

โครงการ JUMP OUT คือโครงการอะไร

โครงการ Jump out เป็นโครงการแลกเปลี่ยนโดยการเป็นจิตอาสาในต่างประเทศ ระยะเวลา 6-8 อาทิตย์ ที่เปิดโอกาสให้บุคคลที่อายุไม่เกิน 30 ปี เข้าร่วมโครงการ แต่สำหรับของเราไปแค่ 5 อาทิตย์ เพราะติดธุระเลยต้องกลับมาไทยก่อน โดยประเภทของงานอาสาสมัคร แบ่งแยกย่อย 5 ประเภท ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านการเป็นผู้ประกอบการ ด้าน สุขภาพ ด้านแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และด้านสิ่งแวดล้อม

AIESEC2

Jump out Booth

ตอนนี้เราคิดว่าเพื่อนๆน่าจะเข้าใจมากขึ้นว่า AIESEC และ Jump out คืออะไร ต่อจากนี้มาดูกันดีกว่าว่าเรารู้จักโครงการนี้ได้ยังไง คือตอนแรกโดยส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบหาประสบการณ์แปลกๆใหม่ๆให้ตัวเองอยู่ แล้วบวกกับอยากไปต่างประเทศ อยากฝึกภาษาให้แกร่งกล้ามากขึ้น อยากเจอเพื่อนใหม่ๆ ตอนนั้นเราอยู่ปีหนึ่ง จำได้ว่าเดินอยู่ในมอ แล้วพอดีเหลือบตาไปเห็นบูทของโครงการ Jump out ตอนแรกก็งงว่าเป็นโครงการอะไร อะไรคือ Jump out อะไรคือไอเซก เลยรวบรวมความกล้าของตัวเองแล้วเดินเข้าไปถามที่บูท ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่าเป็นโครงการเกี่ยวกับไปเป็นอาสาสมัครต่างประเทศ 6 สัปดาห์ ราคาค่าโครงการประมาณ 11000 บาท (ไม่รวมค่ากินอยู่ ค่าที่พัก วีซ่าและตั๋วเครื่องบิน )คือยอมรับว่าตอนนั้นสนใจมากๆเพราะค่าโครงการไม่แพงเลย หลังจากนั้นเลยตัดสินใจสมัครโครงการนี้แบบไม่คิดมากเลย

ป.ล ราคาค่าโครงการประมาณ 11000 บาท (ไม่รวมค่ากินอยู่ ค่าที่พัก วีซ่าและตั๋วเครื่องบิน ) แต่บาง project อาจจะให้ที่พัก และอาหารฟรี ของเรารวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับโครงการนี้ประมาณสามหมื่นบาท

หลังจากนั้นอีกวันก็จะมีให้เราไปนั้งฟังว่าโครงการ Jump out คืออะไร AIESEC ไอเซคคืออะไร กระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบมีกระบวนการอย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น โดยหลังจากวันที่เรามานั้งฟังข้อมูลเสร็จแล้ว ก็จะมีการนัดวันสัมภาษณ์ เพื่อนๆบางคนอาจจะคิดว่าทำไมต้องสัมภาษณ์ด้วย เหตุผลหลักๆคือ ว่าทางโครงการต้องการรู้ว่าเราจะสามารถใช้ชีวิตและเอาตัวรอดระหว่างที่เรา อยู่ต่างประเทศได้หรือเปล่า สัมภาษณ์ครั้งนี้ถือว่าไม่ยากมากเพราะยังสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกับคนไทยใน ประเทศไทย ส่วนใหญ่คำถามจะถามแนวเราสามารถเอาตัวรอดได้ไหม เรามีไหวพริบในการแก้ปัญหามากน้อยเพียงใด และวัดระดับภาษาเราไปในตัวด้วย ซึ่งส่วนตัวคิดว่าถ้าหากพอพูดจาสื่อสารภาษาอังกฤษพอรู้เรื่อง การสัมภาษณ์ครั้งนี้น่าจะผ่านได้ไม่ยาก เพราะเราก็ผ่านมาแล้ว เย้ๆดีใจๆ

พอรู้ว่าตัวเองสัมภาษณ์ผ่านแล้วหลังจากนั้นเค้าก็จะมีวันที่เรียกว่า EP training คืออารมณ์ประมาณว่า สอนวิธีการหาprojectจากในเว็บไซต์ ว่าทำยังไง CV(resume) ที่ดีควรเป็นเช่นไร ถือว่าวันนี้มีประโยชน์มากเลยทีเดียว และหลังจากนั้นก็มีสัมภาษณ์ผ่านทางSkypeโดยตรงกับประเทศที่เราจะไป

บอกตามตรงว่าหลังจากวัน EP training เราก็ห่างหายจากการหาprojectเพราะตอนช่วงนั้นยุ่งมาก เรียนก็หนัก บลาๆๆ จนกระทั่งมีเพื่อนคนนึงโทรศัพท์มาถามว่าจะไป Jump out ด้วยกันไหม ตอนนั้นเราก็เลยบอกไปว่าโอเคเพราะคิดว่าก็ดีเหมือนกัน มีเพื่อนไปน่าจะสนุก แล้วพ่อแม่ก็ไม่เป็นห่วงมาก จนสุดท้ายก็ตัดสินใจสมัคร project ที่ชื่อว่า “Chance Giver ”

”Chance Giver” เป็น project ที่เราต้องไปเป็นอาสาสมัครที่เมือง Ho Chi Minh ประเทศเวียดนาม ซี่งเป็นProject เกี่ยวกับการไปเป็นครูอาสาสมัครสอนนักเรียนและบุคคลทั่วไปที่สนใจ โดยผู้ที่มาเรียนไม่ต้องเสียค่าสมัครเรียน เพียงแค่เสียค่าหนังสือประกอบการเรียนเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น project นี้ยังจัดหาที่พักและอาหารให้ฟรีอีกด้วย ว้าว ซู้ดยอดด+++ ที่น่าสนใจกว่านั้น คือจะต้องไปอยู่ที่วัดแล้วกินอาหารเจทุกมื้อ แค่ได้ยินแค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้ววว

และแล้วก็ถึงวันกำหนดเดินทางสู่เวียดนาม คุณพ่อคุณแม่มาส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

AIESEC3

We’re ready!!!

ป.ล คนตรงกลางคือเพื่อนร่วมproject ส่วนคนขวามือสุด คือเราเอง

AIESEC4

กระเป๋าเดินทางร่วมชะตากรรม(ปัจจุบันเจ๊งเป็นที่เรียบร้อย)

ใช้เวลาประมาณแค่ 1 ชม ก็ถึงเวียดนามแล้ว ตอนออกมาจากสนามบินเหมือนตัวเองเป็น Celebrity สิ่งแรกที่เห็นตอนประตูสนามบินเปิดคือผู้คนมหาศาลที่กำลังรอญาติผู้โดยสาร พร้อมกับเสียงอันอื้ออึ่ง

AIESEC5

ผู้คนรอญาติมิตร

AIESEC6

ภาพแรกที่เห็นตอนประตูสนามบินเปิด

ลืมบอกไปว่าเรามีบัดดี้ด้วยนะ เป็นคนเวียดนามเลย เค้าจะคอยดูแลเราเวลาเรามีปัญหาตลอดระยะเวลาที่เราทำโครงการ

AIESEC7

บัดดี้คนสวยของเราทั้งสองคนมารอรับที่สนามบิน

หลังจากนี้พวกเราก็มุ่งหน้าสู่ที่พักและที่ทำproject ของพวกเรา นั่นก็คือที่ La pagoda โดยรถแท๊กซี่

AIESEC8

Taxi

ภาพบรรยากาศโดยรอบของ La pagoda

AIESEC9

AIESEC10

AIESEC11

ห้องนอนของพวกเรา

ส่วนใหญ่นักเรียนที่สอนเป็นคนที่ทำงานแล้วหรือไม่ก็ระดับมหาวิทยาลัย

ปล.เราสอนวิชาภาษาอังกฤษ เพราะเป็นวิชาที่เราถนัดที่สุด

AIESEC12

ภาพบรรยากาศในห้องเรียน

อาหารที่แต่ละมื้อหน้าตาจะประมาณนี้ บอกตรงๆว่าอร่อยมาก กลับไทยน้ำหนักขึ้นทันตาเห็น

AIESEC13

เพื่อนร่วมproject จากต่างประเทศ มีทั้งมาจากมาเลเซีย อินเดีย และสิงคโปร์

AIESEC14

AIESEC15

นอกจากจะมาสอนหนังสือแล้วเวลาว่างเสาร์อาทิตย์ ก็จะแบกเป้กับเพื่อนๆร่วมproject ไปเที่ยวกัน

AIESEC17

AIESEC18

AIESEC19

เวลาว่างๆก็จะมาช่วยแม่ชีทำอาหารกัน

AIESEC20

ขอบคุณคุณป้าใจดีข้างบ้านที่ให้ยืมชุดอ๋าวใหญ่ถ่ายรูป

AIESEC21

เรื่องราวของเราทั้งหมดที่เราไปเป็นอาสาสมัครก็คงจะมีประมาณนี้ หลังจากเสร็จจาก project บอกได้เลยว่า เราได้ connection ใหม่ขึ้นเยอะเลย ได้เจอเพื่อนและมิตรภาพใหม่ ได้รู้ว่าการให้มันความหมายมากแค่ไหน เรียนรู้การใช้ชีวิตมากขึ้น มากไปกว่านั้นยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างและภาษาอังกฤษที่พัฒนาขึ้น อย่างเห็นได้ชัดหลังจากกลับมาไทย เราพูดได้เลยว่าเราคิดไม่ผิดที่เลือกโครงการJumpout ในการหาประสบการณ์ในครั้งนี้้

และก็ขอขอบคุณเพื่อนร่วมprojectคนนี้ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรามา

AIESEC22

____________________The end   _____________________

Reference: https://yayawordpresscomsite.wordpress.com/2016/01/24/ประสบการณ์ครูอาสาสมัคร-5/

Share this: