อยากสอบถามความแตกต่างระหว่าง BBA กับ Business English/French ค่ะ
แล้วถ้าไม่มีพื้นฐาน French เลยจะพอเรียน Business French ได้ไหมคะ
ตอนนี้เลือกคณะไม่ถูกค่ะ ชอบเรียนภาษามากๆ แต่ไม่ถูกกับคำนวนมากๆ เกรด maths แย่สุดๆ
ถ้าจบ Business English/French ไปทำงานสายอะไร-สายไหนคะ แล้วความรู้ในสายนี้สามารถเอาไปต่อยอดกับธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้วได้ไหมคะ
รบกวนรุ่นพี่ที่จบ/ยังไม่จบ/ผู้มีประสบการณ์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
วันหลังรบกวนน้อง search ข้อมูลก่อนค่อยมาถามนะจ๊ะ เพราะคำถามแนวนี้มีเยอะมากๆในบอร์ด
แต่วันนี้พี่ใจดีจะสรุปให้ก่อน
สองคณะนี้มีความแตกต่างในเรื่องของหลักสูตร
1.BBA : Bachelor of Business Administration ภาษาไทยเรียกว่า "คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี" หรือ " หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต" โดยทั่วไปเรียนวิชาการบริหารเป็นหลัก แล้วบริหารอะไร ก็จะเลือก major หรือสาขากันอีกทีก็ตอนช่วงปีที่ 3 (รายละเอียดขอให้ดูหน้าเว็บไซต์
www.au.edu) แน่นอน เน้นวิชาคำนวณ ตัวเลขต่างๆนี่เจอแน่ เจอเยอะกว่าคณะ Arts Eng หลายเท่าตัว เหมาะกับคนที่ชอบคณิต หรือถนัดพวกวิชาคำนวณ บ้าง หรือมีความอึดสูง เรียนยังไงก็รอด
2.Arts : Bachelor of Arts ภาษาไทยเรียกว่า " คณะศิลปศาสตร์" หรือ "หลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต" ความหมายเดียวกันกับคณะอักษรศาสตร์กับมนุษย์ศาสตร์ เพียงแต่ว่าที่นี่จะค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ มีเรียนวิชาคำนวณและคณิตด้วย (บังคับเรียน) เนื่องจากในหลักสูตรมีวิชาธุรกิจแทรกเข้ามา เลยจำเป็นต้องเรียนวิชาบริหารตัวเลขด้วย แน่นอนว่าเรียนวิชาแนวภาษาเยอะ แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะยากหลุดโลก เพราะการออกข้อสอบของคณะนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา อาจจะมีประยุกต์บ้าง ง่ายบ้างยากบ้าง และที่สำคัญเขียนเยอะจนคนที่บ้านมักถามว่า มือเป็นอะไรอ่ะ ทำไมเรียวกว่าหุ่น 55555
ถามว่าสองตัวนี้เรียนต่างกันยังไง ตัวแรกจะเรียนวิชาคำนวณเยอะและเนื้อหาบางวิชา ยกตัวอย่าง วิชา Account (บัญชี) จะเยอะและแน่นกว่าคณะที่สอง BBA มีเรียน 2 วิชา ในขณะที่ เด็ก Arts เรียนแค่ตัวเดียว ถ้าบอกกันตามตรงตามประสาคนไม่ถนัดคำนวณเลยยยย คือคณะ Arts ง่ายกว่าหลายเท่า เพราะบางวิชาทางหลักสูตรศิลปศาสตร์จะตัดทอนเนื้อหาที่คณะนี้ไม่จำเป็นต้องเรียนออก ซึ่งก็คือวิชา ACT 1601 Fundamental of Financial Accounting (เข้ามาเรียนเดี๋ยวก็รู้จักเอง) แต่ถ้าจะให้ง่ายที่สุด ต้อง คณะ Arts English เท่านั้น (ความคิดเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณ)
ส่วนสาขาของ Arts มี 4 สาขา น้องเลือกได้เลยตั้งแต่เข้ามาสมัครเรียนครั้งแรก โดยดูตามความถนัดและพื้นฐานของตัวเอง อย่างถ้าน้องอยากเรียนฝรั่งเศส อย่างน้อยก็ควรจบศิลป์-ฝรั่งเศสมาตอน ม.ปลายเพื่อที่ว่าน้องจะได้ตามเนื้อหาทัน หรือถ้าทางมหาวิทยาลัยมีคอร์ส Intensive ให้ก็ควรจะมีพื้นฐานมาบ้าง จะได้ไม่เสียเวลามานั่งอ่านหนังสือวนไปวนมาระหว่างสอบ
พิจารณาจากที่น้องเขียนมา ในความคิดเห็นพี่ พี่ขอแนะนำให้เรียน คณะ Arts English จะดีกว่าจ้ะ ถ้าอยากเรียนฝรั่งเศสขำๆ แบบไม่จริงจัง ก็ค่อยเลือกเรียนเป็นวิชาเสรีช่วงปี 2 หรือปีสามจะเหมาะสมกว่า
ส่วนเรื่องชีวิตหลังจบการศึกษา เป็นเรื่องของอนาคตว่าน้องอยากทำอะไร ถ้าที่บ้านมีธุรกิจก็ต่อยอดได้ไม่ยาก เพราะมีเด็กเอแบคหลายคนไม่อยากเป็นลูกจ้างใคร เลือกที่จะเป็นนายตัวเอง ก็เลยเห็นหลายคนไปเป็นติวเตอร์บ้าง ขายสินค้าออนไลน์บ้าง หรือไม่ก็ที่บ้านมีธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว เลยไม่เดือดร้อนกันเท่าไหร่
อีกอย่าง ส่วนมากคนที่เรียนจบคณะนี้ คณะ Arts อาชีพที่มักจะเลือกทำ คือ แอร์ สจ๊วต เห็นเยอะมากๆๆ (คณะอื่นก็มี แต่ปริมาณไม่เยอะเท่าคณะนี้ที่ตรงสายมากกว่าคณะอื่นๆ) เกือบร้อยละ 60 ถ้าไม่ได้ตรงนี้ก็วนลูปสมัครงานตามบริษัททั้งไทยและต่างชาติตำแหน่งงานแปลเอกสารอังกฤษไทย ไทยอังกฤษ เลขา ล่ามฟรีแลนซ์/ประจำ หรือเป็นติวเตอร์ ไม่ก็บินไปเรียนต่อต่างประเทศ
โดยส่วนตัวพี่จบคณะ Arts มา อาจารย์คณะ Arts ส่วนใหญ่ใจดีแทบทุกคน เพื่อนดีบ้างแย่บ้างคลุกเคล้ากันไป กิจกรรมในมหาลัยมีเยอะ ไม่ค่อยน่าเบื่อ มหาลัยสวยงาม เสียอย่างเดียว ค่าเทอมแพงฉิบหาย 55555555 สรุปเรียนแล้วมีความสุขมาก ชีวิตดี พอจบปุ๊บ รู้สึกโลกสวยปั๊บ อิอิ
![:f449b82c:](https://www.abactoday.com/webboard/Smileys/default/f449b82c.gif)
ขอให้โชคดี