[คุณฝ้ายป๋อมแป๋ม]

อิ็งเราตั้งใจมากคราวนี้ เรามีเนื้อหาให้ทุกคนอ่าน จะได้สอบได้กันถ้วนหน้า เย้!

สอบไฟนอลวิชาอิ้งนั้นจะ divided ออกเป็น 3 พาร์ท ด้วยกันนะ ตามมาดูกันเลย
1.   Memo (RESPONSE)      =60
2.   Resume + Letter (30 + 40)   =70
3.   Vocabulary (Cloze Test)   =20
ทั้งหมด 150 คะแนนเต็ม
มีนที่คนทั่วไปได้ ประมาณ 90-95 marks
เริ่มจาก Memo (RESPONSE)ก่อน อันดับแรก

1.   Memo (RESPONSE)
เมมโม่มักใช้โดยทั่วไปในบริษัทเล็กๆไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ข้อความที่อยู่ในเมมโม่จะเป็นการบอกให้คนที่ทำงานในบริษัทนั้นๆรู้ว่าอะไรที่ต้องทำบ้างเมื่อมีสถานการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น บึ้ม!เกิดมีไฟไหม้ตึก อย่างนั้นเมมโม่ก็ช่วยไม่ได้ อาจจะเป็นสถานการณ์ซึ่งเกิดขึ้นมาแบบฉับพลันนะ แต่มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาแล้วเมมโม่จึงเกิด!
   Memo is divided into 2 main parts:
   1. Heading
   2. Message
***MESSAGE*** is divided into 5 parts:
   1. Opening (1 sentence: I would like to inform you about………)
   2. Background (Why you are writing the memo?)
   3. Details (Read from the INSTRUCTIONS part: normally 2-3 details)
   4. Actions (If interested, please submit the response form to ….. Office before …)
   5. Closing (1 sentence: Thank you for ………)
 

ตัวอย่างต่อไปนี้จะทำให้เข้าใจมากขึ้น

Situation 1 : You are the personnel manager of a telemarketing company. Your company has created a rule not to allow employees to use the internet during office hours.
Instructions: Write a memo to all employees informing them of this rule and persuading them to strictly follow this rule. Please provide all the necessary details.
Begin your answer below.

To: All employees
From: Ms. Sarah, Personnel manager
Date: 20 April 2014
Subject: Information about the rule 

Please be informed that company has a computer policy that the company has provided for business purpose. Employees are prohibited to use internet for personal used.
Employee should strictly follow this rule. Person who does not comply with the rule will be reminded and take into disciplinary action. 

Thank you.

เตือนเลยนะ แล้วก็มีผลกับพนักงานทุกคนข้อความจำเป็นต้องชัด พูดแล้วทุกคนเข้าใจ ถ้าเป็นเรื่องกฏหรือข้อบังคับมักจะมีการใช้คำว่า prohibited หรือ strict บ่อย

[คุณฝ้ายป๋อมแป๋ม]

หากจะเริ่มต้นเขียนต้องมี I would like to inform…,Please be inform…, May I inform…

เมื่อจะเขียนอธิบายเนื้อความของกฏ นึกประโยคภาษาอังกฤษให้ได้ซักสี่ถึงห้า แล้วก็เขียนเลย!
เราต้องอ่านว่าเค้าต้องการให้เราบอกอะไรกับลูกจ้าง ถ้าเค้าให้เราออกกฏ เราต้องเขียนอธิบายกฏข้อนั้นที่อย่างน้อยต้องมี เช่น กฏมันเป็นยังไงถ้ามีคนไม่ทำตามจะมี Action ยังไง

เราจะอธิบายเราต้องเอาข้อมูลจากที่โจทย์บอกว่าต้องทำ เช่น company has a ………policy โจทย์บางข้อจะไม่บอก แต่ถ้าเราอ่านดูคำสั่ง แล้วมันบอกว่าเป็นสัมนาวิชาการ1วันไรงี้ ให้จินตนาการว่าเวลาแฟนจะจับผิดเราว่ามีกิ๊กหรือนอกใจป่าว เราก็นึก มันทำไรบ้าง กับใคร นัดที่ไหน เวลากี่โมงบ้าง เราก็ต้องตอบคำถาม เลยต้องเปิดหมด บอกหมดทุกอย่าง นึกอย่างนี้ก็ต้องบอกให้มันละเอียด ไม่งั้นก็จะไม่เข้าใจ เมมโม่ต้องชัดเจน ทุกคนเข้าใจง่ายๆ อย่างที่บอกไปแล้ว

สำหรับคนที่อ่านข้อสอบแล้วงงๆ การช๊อตโน้ตสั้นๆไว้ก่อนเป็นข้อๆแล้วค่อยเขียนเรียบเรียงเป็นประโยคจะดีกว่า หากอ่านนานๆอาจมีผลให้ตาลาย มึนงงได้ ให้เช็คก่อนเดินออกจากห้องสอบด้วยการตรวจทานอีกที เพื่อความชัวร์ เราต้องตรวจทานให้แน่ใจว่าสิ่งที่เราเขียนลงไปในกระดาษข้อสอบนั้นถูกต้อง เสียเวลากับการตรวจทานก่อนไปสู่คำสั่งข้อต่อไป อย่าลืมว่าเวลาเราน้อย เราจะมาต่อที่ข้อที่2และ3

[คุณฝ้ายป๋อมแป๋ม]

2.   Resume + Letter Application
Resume + Letter มันคือไรอ่ะพี่?

Resume ก้คือข้อมูลเกี่ยวกับตัวเราทั้งหมด รวมทั้งตำแหน่งที่เราสนใจจะสมัครงาน Resume ในข้อสอบ อาจารย์จะให้บังคับให้เราเขียนว่าเรียนจบแล้ว! เราก็ต้องสมมุติตัวเองขึ้นมา จบสี่ปีก็ต้องเลี่อนขึ้นไปจากปีที่จะจบปีนึง สมมุติว่า ตอนนี้พี่เรียนปีสามอยู่ ปีหน้าก็จะจบ ก็สมมุติว่าจบไปหนึ่งปีละ ไรงี้ นึก

แล้วResumeก็ต้องเรียงตามฟอร์แมทที่อาจารย์สอนอิ้งให้ ก็ไม่รู้ว่าห้องอื่นเรียงอะไรก่อนอะไรหนังแต่ของพี่ ชื่อ,ที่อยู่,เบอร์โทรศัพท์,อีเมลล์เรามันจะมาก่อน แล้วก็ตามด้วย ตำแหน่งที่เราสมัคร ตามฟอร์แมทนี้

Name Surname(in FULL)
Address
Phone number
E-mail address

Objective:   Position for company’s name

Education:   Assumption University, Bangkok, Thailand
      Bachelor of …… (relevant to the POSITION)
      Major: …………. Minor: ……………
      Time (i.e. June 2007 – March 2011)
      GPA: …………

      High School’s name, Bangkok, Thailand
      …………. Program (i.e. Math-Science/Science-English/English-French)
      Time
      GPA: …………

Work Experience:   Company’s name, Bangkok, Thailand
Position
Time
 …………………………………. (responsibility)
 …………………………………. (responsibility)

Special Experience:   Name of special experience (If you have one)      
(i.e. Work and Travel Program in California, United States of America)
         Position
         Time

Skills:      - Languages:    ……………………………………….…
            (i.e. Proficient/fluent in English)
         - Computer:   ………………………………………….
         - (Other skills – stated in ADVERTISEMENT)…….
Awards/      Name of award/activity (club)/honor
Extracurricular Activities/   Position (for activity i.e. President/Member)
Honors:      Name of school/place/company (for activity)
(at least 1)      Time

i.e. ‘President, English Club, ABC School, May 2009 – May 2010’
i.e. ‘Outstanding Student Award, ABC School, May 2009’   

References:      (title – if) Name Surname of referee
(2 references)      Position
         company’s or school’s name
         Address
         Telephone number
         E-mail (if)

         i.e.  Assistant Professor Adrian Smith
                 Lecturer
                 Language Institute
                 Assumption University, Bangkok. Thailand
                 (02) 123-4567
            
ต้องจำให้หมด แนะนำให้ลองเขียนหลายๆครั้ง แล้วจะซึมซับเข้าไปในหัวสมองเอง

[คุณฝ้ายป๋อมแป๋ม]

ทำResumeเสร็จแล้ว เวลาเราก็น้อยลงนะเนี๊ย ยังไม่ได้ทำ Vocab เลย !

ก็เริ่มทำ Letterได้แล้วนะตัวเธอ เดี๋ยวจะทำไม่ทัน

Job application Letter ก็คือสมัครงานทางจดหมายอิเล็กโทรนิกส์(อีเมลล์นั่นแหละค๊าบ) อย่าลืมฟอร์แมทที่อาจารย์ให้ไว้นั่นนะ เอามาดู มันจะมีแบบที่Tap กับไม่Tap จะเอาแบบไหน ก็จำอันนั้นไป แล้วก็เริ่มเขียน Letter เลยละกันนะ อย่ารอช้า ทำๆ หากจะเขียน แบบSolicited letter ที่บอกกันตรงๆ ก็ประมาณนี้นะ

Letter of Application has 5 parts:
   
   1. Introduction
   2. Education paragraph
   3. Experience paragraph
   4. Skills paragraph
   5. Conclusion
** REMEMBER** There are some extra marks if:
1.   You explain what you have learned from an experience/job/subject/activity/etc
2.   You explain with REASONS to support the QUALIFICATIONS/REQUIREMENTS stated in ADVERTISEMENT


เริ่มก็อาจจะมีข้อความในชีทที่อ่านแล้วทุกคนจำมาได้ เริ่มที่เราต้องแจ้งให้เค้ารู้ก่อนว่าเราไปเห็นข้อความรับสมัครงานนี้จากที่ไหน จากBangkok Post หรือว่า จากเว็บไซต์ไหน ??

แล้วเราก็เขียนแถไปเรื่อย ว่าบริษัทเค้าเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศหรือว่าจะเหตุผลใดก็ตาม เอาที่มันเข้ากับบริษัทเค้าหน่อย อย่างถ้าเป็นบริษัทเกี่ยวกับส่งออกเครื่องดื่มจากประเทศอังกฤษ เราก็อาจจะบอกว่า สินค้าหลายตัวที่บริษัททำส่งออกนั้น เป็นเครื่องดื่มที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ซึ่งเราเคยทำงานให้บริษัทส่งออกชั้นนำอื่นๆของประเทศมาก่อน อาจจะเคยเป็นMarketing ไม่ก็ Sales มา เลยอาจจะเหมาะกับงานๆนี้

แล้วเราก็เริ่มย่อหน้าต่อไป เราก็เอาที่เขียนในเรซูเม่มาต่อๆกัน เรียบเรียงให้เป็นประโยค พูดถึงการศึกษาของตัวเราเองว่าเรียนจบมหาลัยเอแบคแล้ว! เมื่อปีอะไร คศ.อะไร เมเจอร์ ไมเนอร์ จีพีเอ บอกให้หมด แล้วก็อาจจะต่อท้ายบอกว่าเรียนคอร์สเกี่ยวกับอะไรมาบ้างที่นำมาใช้ได้ในงานที่เราจะสมัคร อย่าพึ่งรีบพูดถึงประสบการณ์ทำงาน มันอยู่อีกย่อหน้านึง ถ้าจะเขียนให้ถูก เราต้องแยกไว้

เหนื่อย จริงๆแล้วจะนั่งพิมพ์ให้จบ

[คุณฝ้ายป๋อมแป๋ม]

อาจารย์เลขาบอกพี่มาว่า ในหนึ่งย่อหน้าเขียนปนๆกันได้ไหม
เราจะเขียนแยกไว้ ย่อหน้านึงเป็น EDUCATION อีกอันนึงเป็น WORK EXPERIENCES ได้
เราจะเอา Skill มาใส่ในย่อหน้าแรก,ย่อหน้าที่สอง(EDUCATION)กับย่อหน้าที่สาม(WORK EXPERIENCES)เพิ่มได้
หรือจะเอาSkill ไปใส่แยกอีกย่อหน้านึงก็ได้ ไม่ผิด

แต่ที่ห้ามเลยคือ อย่าเอาย่อหน้าที่สองปนกะสาม หรือ อย่าเอาอินโทรไปปนกับคอนครูชั่นเสียดื้อๆ เสียคะแนน ไม่ดีๆ

คอนครูชั่นก็ พูดขอบคุณและให้เบอร์ติดต่อกลับ จบนะ