ถึง Not Biased จะเตือนใคร ก็เตือนอย่างสั้นๆ ตรงๆดีกว่า ไม่ต้องนำมาเยอะแบบนี้ก็ได้
เรานำข่าวมาให้อ่านนะ:) อ่านหน่อยก็ดี ป้องกันไว้ก่อนก็ดี
เคยมีกรณี เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ดูรายการโทรทัศน์แล้วเลียนแบบผูกคอตาย จนเกิดอุบัติเหตุทำให้เด็กถูกแขวนคอนานกว่า 10 นาทีจนหมดสติ
กว่าพ่อของเด็กจะรู้และนำส่งรพ.ทัน วันนี้อาการเริ่มดีขึ้นแล้ว
นพ.อดิศักดิ์ ได้ออกมาเตือนว่า อยากให้ครอบครัวอย่ามองข้าม สื่อ เด็กมักเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆที่ออกมาตามสื่อ
ควรใส่ใจในคำเตือนของแต่ละรายการ รายการที่เหมาะสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ควรออกอากาศได้เฉพาะหลัง 22.00 น. แล้วเท่านั้น
วันนี้ผมมี เรื่อง “หาสนรก” หรือ “นรกแห่งความสนุกสนาน” ของ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มาเล่า เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติทุกฝ่ายให้รู้จักในเรื่อง “ความสนุกสนานแต่พอดี”
ไม่ทำให้ “สมจริง” เกินไป เช่น ฉากต่อยท้องผู้หญิงเพื่อข่มขืน หรือฉากแขวนคอ เป็นฉากที่เกินความจำเป็น และสอนให้คนทำตามในสิ่งไม่ดี
“เรื่องนี้เมื่อสมัยที่ พระพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์อยู่ ก็มีคนไปถามพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับเรื่องความสนุกสนานประเภทนี้เหมือนกัน
คือคนคนหนึ่งเขาเป็นนักฟ้อน นักรำ นักเต้นนักรำ ทำให้คนอื่นสบายใจ เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วทูลถามว่า
“ข้าพระองค์นี่เป็นศิลปิน มีหน้าที่ทำคนให้เพลิดเพลินเจริญใจ เมื่อข้าพเจ้าตายแล้ว จะไปเกิดที่ไหน”
พระ ผู้มีพระภาคตรัสว่า “เธอไม่ควรถามปัญหานี้กับเรา” เขาก็รบเร้าเซ้าซี้ถามอยู่อย่างนั้นถึง 3 ครั้ง พระองค์ก็เลยตอบว่า “การกระทำของเธอนี่ ตายแล้วจะไปเกิดในนรก
นรกขุมนั้นเรียกว่า หาสนรก” หาสะ ก็แปลว่า สนุกสนาน ไปตกนรกความสนุกสนานเพลิดเพลิน
เขาก็ถามว่า “ทำไมข้าพระองค์ทำคนให้สนุกสนาน จึงต้องไปนรก”
พระ ผู้มีพระภาคตอบว่า “เธอทำให้คนหลง ให้ประมาทมัวเมามนการแสดง เป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมในชีวิต จะมีโทษถึงกับ ตกนรก เรียกว่า หาสนรก”
นายคนนั้นได้ฟังแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ คิดว่าการกระทำของเรานี้ เป็นการไม่สมควร ควรจะเลิกได้แล้ว จึงได้เลิกทำการกระทำนั้น หันไปหาอาชีพอื่นทำต่อ
อันนี้ก็เป็น เครื่องแสดงว่า นรกเกิดจากความสนุกสนาน มันก็มีเหมือนกัน สนุกจนเกินไป เลยเถิดไป แล้วก็สร้างปัญหา คือ ความทุกข์ ความเดือดร้อนให้เกิดแก่ตน แก่ครอบครัว
ตลอดถึงส่วนรวม”
เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านปัญญาฯ จึงสอนว่า ความสนุกสนานประเภทต่างๆ เช่น มีการเต้นรำ มีการเล่นดนตรี มีการดูหนัง มีการฟังเพลงอะไรต่างๆ
ซึ่งแม้จะเป็นศิลปะบางประเภทที่เราควรจะรักษาไว้ แต่ก็ ต้องใช้ให้พอดี อย่าให้เกินพอดีไป จนเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อนแก่ชีวิตจิตใจด้วยประการต่างๆ
พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสไว้ว่า “ความสนุกสนานเฮฮามากไปนั้น เป็นเหตุให้เกิดความเสื่อม เป็นอบายมุขที่จะนำความทุกข์ ความเดือดร้อนมาสู่ตัวผู้แสดงและบุคคลผู้มาดู”
คือ ว่าเสียทั้งนั้น คนแสดงก็เสีย คนมาดูก็เสีย มันเสียกับทุกฝ่าย เป็นเหตุให้เกิดสิ่งไม่ดีไม่งามขึ้นในจิตใจ ให้เกิดปัญหา คือ ความทุกข์ ความเดือดร้อนด้วยประการต่างๆ
เรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ถ้าไม่ได้พิจารณาก็จะมองไม่เห็นตามสภาพที่แท้จริง
ผมก็ได้แต่หวังว่า เทศนาเรื่อง “หาสนรก” ของ ท่านปัญญาฯ ที่นำมาเล่าให้ฟังนี้จะเป็น “เครื่องเตือนสติ” ท่านที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ความสนุกสนานก็ต้องมี
“ความพอดี” เหมือนกัน ไม่เกินพอดีจนเกิดความทุกข์แก่ทุกฝ่าย.
จาก“ลม เปลี่ยนทิศ”
แม้ Not Biased นำเวลามาอ่านพระไตรปิฎกจนอยากมาเตือน นั่นก็เป็นเรื่องดีนะ แต่เราอยากบอกว่า.....
พระธรรมทั้งหลาย ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น
"สัพเพ ธัมมา นาลัง อภิวิเน สายะ"
เคยเป็นแบบนายนี่แหละ แต่พอปฏิบัติและ เห็นของจริงตามจริง เนี่ย ก็รู้ว่าพระธรรมลึกซึ้ง และงดงาม
ขอให้ระลึกคุณพระรัตนตรัย นำมาใช้กับค.จริง