ABACTODAY Webboard | รวมกระทู้มีประโยชน์สำหรับเด็กเอแบค
ABAC Today Community => ABAC Talk => ABACTODAY Library => Topic started by: Iruka on July 30, 2009, 04:14:44 PM
-
อยากทราบว่าการตัด Mean เนี่ยทุกวิชามีมตรฐานในการตัดเหมือนกันปะ
แล้วเวลาตัดเกรดเนี่ย เค้าเอาตาม Mean ของนักเรียนในแต่ละ Section มารวมกัน
หรือว่าแยกกันแบบsec ใคร sec มัน หรือว่าตามอาจารย์คนสอนอ่ะอ่ะ?
เพราะว่าไม่ค่อยเข้าใจเลยว่ามันตัดไงอ่ะ งง
ละถ้าสมมุติว่ามีคน drop ไป เค้าจะคิด Mean ใหม่หรือเปล่า
หรือว่าใช้ Mean เดิม?
มีคำถามเพิ่มเติมคะว่ายังไม่ declare major เอาตัว major มาลงได้ไหมอ่ะ?
อีกอย่างนึงด้วยคะ คือทุนที่ต้องได้ 3.85 ขึ้นเนี่ย
เราต้องไปขอเค้าล่วงหน้าหรือเปล่า หรือว่าเค้าจะให้เราเองอ่ะ
ต้องไปทำเรื่องขอเอกสารอะไรรึเปล่า แล้วค่าเทอมที่เค้าโอนคืนมาให้เนี่ย
เป็นเทอมทีเราเรียนไปแล้วหรือเทอมที่กำลังจะเรียนอ่ะ?
ขอบคุณมากๆคะ
-
-0-
-
โอ้วว เป็นTopicที่คนเข้าดูเยอะนะ แต่ไม่มีคนตอบเลย
คงไม่มีใครชัวแน่ๆซักคน
เอาเปนว่า การตัดMean ในABAC นั้น ขึ้นอยู่ทั้งกับอาจารย์ผู้่สอน และ วิชาครับ
เช่น (สมมตินะ)
1. วิชาFinance เอามีนของทุกSecมาคิด
2. วิชา SaleManagement ขึ้นอยู่กับอาจารย์ เช่น Sec อาจารย์วันเสาร์ คิดแค่Mean ของอาจารย์คนเดียวเท่านั้น
นี่แค่ยกตัวอย่างให้พอเห็นภาพนะคับ แต่ไม่รู้ว่าถูกต้องแค่ไหน
---------------
ส่วนเรื่องทุนคิดว่าต้องติดต่อก่อนครับ ไม่ใช่ว่าเราทำได้เกรดดีๆ แล้วก็จะไปขอเอาง่ายๆ
เรื่องการโอนเงิน ก็จะคืนเฉพาะค่าลงวิชาเท่านั้นครับ คงไม่ใช่ค่าไฟหรือค่าห้อง
**************
คือรู้และได้ยินมาเท่านี้ แต่ถ้าผิดถูกยังไง... ท่านไหนทราบก็บอกด้วยนะครับ
:)
-
แล้วแต่วิชาคับ
ชัวร์สุดคือ ไปถามอาจารย์ที่สอนวิชานั่นๆ เลยคับ
บางที เทอมใหม่ก้อเปลี่ยนการตัดมีน คือ นักเรียนตามไม่ค่อยจะทันคับ
ความเห็นส่วนตัวนะ ถ้าจะตัด ก้อตัดเกณมาตราฐานไปเลยดีกว่า
90+ ได้ A
80+ ได้ B
ไล่ลงไปเรื่อยๆ
มานั่งตัด mean ทำไมให้มันยุ่งยาก คิดเหมือนผมมะ
-
แล้วแต่วิชาคับ
ชัวร์สุดคือ ไปถามอาจารย์ที่สอนวิชานั่นๆ เลยคับ
บางที เทอมใหม่ก้อเปลี่ยนการตัดมีน คือ นักเรียนตามไม่ค่อยจะทันคับ
ความเห็นส่วนตัวนะ ถ้าจะตัด ก้อตัดเกณมาตราฐานไปเลยดีกว่า
90+ ได้ A
80+ ได้ B
ไล่ลงไปเรื่อยๆ
มานั่งตัด mean ทำไมให้มันยุ่งยาก คิดเหมือนผมมะ
ถ้าตัดตามเกณทุกวิชา...เหอะๆ - -" ลองคิดภาพนะครับ
พวกวิชาบางวิชาเนี่ย คะแนนเต็ม 30 mean อยู่ที่ 10 (หรือถ้าหนักๆ ก็เลขตัวเดียว)
ถ้าตัดตามเกณก็มีหวัง abac ได้สร้างตึกเพิ่มแน่ๆครับ
ตัดแบบนี้ดี้แล้วครับ บางวิชา mean บางวิชา standard ;)
-
บางวิชาก็ผสมกันนะครับ
ก็คือตัดเกรดตาม Mean แต่ต้องได้อย่างต่ำ 50 คะแนนเพื่อได้ D
ส่วนวิชาของ Arts ตัด Standard เกือบทุกวิชาครับ
-
ทุน 3.85 ของ 2 เทอมนี่จะคืนให้เองค่ะ เป็น refund ของเทอมที่ผ่านไปแล้ว
-
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะคะ
แต่ในความคิดเรานะเราว่า
เอแบคควรจะมีเกณฑ์ในการตัด A กะ F ไว้น่าจะดีกว่าอ่ะคะ
ส่วน B กะ C ก็ตัดมีนไป เพราะว่า ทำแบบนี้
มันก็เหมือนเสี่ยงดวงอ่ะคะ ว่าเทอมไหนมีนสูงไม่สูง
ละในความคิดเห็นของเรา เราว่าพอเอแบคใช้วิธีตัดมีนเหมือนเป็นการผลักดันให้เด็กไปเรียนพิเศษกันหมด
เพราะว่าเด็กก็อยากได้คะแนนเยอะๆเพื่อทีจะได้เกรดดีๆ
เลยไปเรียนพิเศษกันหมดมีนก็สูงขึ้น สูงขึ้น
ละพวกที่ไม่เรียนพิเศษก็กลัวว่าจะได้คะแนนสู้พวกเรียนพิเศษไม่ได้
เลยไปตามไปเรียนด้วย สรุปเด็กเอแบคไปพึ่งติวเตอร์กันหมด
ละอีกอย่างเหมือนทำให้เด็กแข่งกันเองอ่ะ
ก็ดีที่ว่าให้เด็กแข่งกันเองนะคะ แต่ว่าถ้าแข่งกันเองด้วยความสามารถของตัวเองก็อีกเรื่อง
แต่มันเหมือนเป็นการผลักดันเด็กให้ไปพึ่งติวเตอร์มากกว่า
ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องนี้สักเท่าไร
เพราะเรารู้สึกว่าเรียนมหาลัยกันแล้ว ทำไมต้องพึ่งติวเตอร์กันด้วย
เพราะถ้าไม่พึ่งตัวเองตอนนี้คุณจะไปพึ่งตัวเองตอนไหนละคะ
อีกอย่างหนึ่งติวเตอร์เค้าก็สอนเราแค่ข้อสอบ
แต่เค้าไม่ได้สอนให้เราเข้าใจในเนื้อหานั้นๆละเอามาใช้กับความเป็นจริง
อาจจะจริงที่ว่าเราไปเรียนติวเตอร์เค้าแปลให้เราฟัง
เราเข้าใจมากขึ้น ทำข้อสอบได้คะแนนดีขึ้น ได้เกรดดีขึ้น
แล้วภาษาอังกฤษคุณละคะ ได้พัฒนาขึ้นเท่าที่ควรจะเป็นหรือเปล่า?
สู้เอาเวลาไปเรียนไปนั่งอ่านหนังสือเองไม่ดีกว่าหรอ
จะได้พัฒนาภาษาไปในตัวด้วย แถมไม่ต้องเสียเงินอีกต่างหาก
ถ้าอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องก็ซื้อชีทมาอ่านเพิ่มควบไปด้วยก็ได้
แต่ควรจะฝึกอ่านเองดีกว่าอ่ะคะ เพื่ออนาคตของเราเอง
ละอีกอย่างนึงจบมาได้เกรดสวยๆ แต่ไม่เข้าใจในบทเรียนนั้น
เอาไปปรับใช้กับงานที่ทำไม่ได้ มันจะมีประโยชน์อ่ะไร?
-
อย่างอื่นไม่รูรู้แต่ทุน
ไม่ต้องขอ ถ้าเรียนได้เกรดเกิน
ทุนส่งเป้นจดหมายถึงบ้านคับ
-
เรียนแรกๆ อาจต้องปรับตัว ถามว่า ชีทเรียนพิเศษมีส่วนช่วยไหม?
ตอบว่า "มี" แต่ก็ต้องเข้าใจเนื้อหาจริงๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษด้วย
อ่านภาษาไทย ถ้าสอบเป็นอังกฤษ มันก็ยากอยู่ดี
เรียนไปเรื่อยๆ พอเข้าตัว major/minor จริงๆ จังๆ แล้ว ไม่ค่อยมีชีท จนถึง ไม่มีชีทเลยล่ะค่ะ
เราว่า อ่านหนังสือ อ่าน textbook อ่ะดีสุด
มันเข้าใจจริงๆ แต่มัน "ใช้เวลา" เยอะกว่าด้วย
-
ผมก็อ่านชีทช่วยนะ เวลาใกล้สอบ แต่ก็อ่าน textbook ด้วย อีกอย่างผมไม่อ่านชีทที่เป้นภาษาไทยครับ รังแต่จะทำให้เข้าใจยากขึ้นเปล่า ๆ เพราะต้องมานั่งแปล
แต่ติวเตอร์นี่ ผมว่าคนที่เรียนคือพวกที่หัวไม่ค่อยดีอะครับ บางคนต่อให้ไม่เคยเข้าติวเตอร์ก็ A ฉลุยเกือบวิชาอยู่ดี
-
คห.บน แสดงว่า เบเบ้ หัวไม่ค่อยดีหรอ เค้าก็เรียนพิเศษเกือบทุกวิชาอ่ะ
-
ถ้าคิดแบบนั้นก็ใช่ครับ :D
เพื่อนผมเรียนปีสอง 4.00 ไม่เคยไปเหยียบติวเตอร์หรือแม้แต่ชีทติวซะด้้วย (ผมเคยใช้ชีทแต่ไม่เคยใช้บริการติวเตอร์)
-
นั้นก็ต้องพิจารณาตัวแต่ละคนแล้วละ เพราะเค้าก็จบเอแบคด้วยเกรดเฉลี่ยอันสวยงาม
-
เราเจอมีนOMไป70กว่าๆ แล้วอาจารย์ตัดมีน เกรดเราออกมาก็แบบ C+ ตัวแรกในการเรียนเอแบค นี่แหละข้อเสียของการตัดมีน เพราะโชคร้ายมีนสูงเว่อ :b048a2d2: