[Pai]

ถ้าผมอยากทราบเหตุผลทำไมเอแบคถึงได้เปิดและปิดเทอมไม่เคยตรงกับชาวบ้านคนอื่นๆเลยครับ? เรื่องแบบนี้ผมควรจะไปสอบถามบุคคลใดที่เกี่ยวข้องเหรอครับ? เพราะตั้งแต่เข้ามาก็สี่ปีแล้ว ผมเห็น due date ของโปรเจคก็มาส่งกันตอนช่วง Christmas แล้วก็ตามมาด้วยสอบ midterm ติดๆเลยตั้งแต่วันที่ 3 มกราลากไปทั้งต้นมกราของปีใหม่ ซึ่งผมเรียนโรงเรียนนานาชาติมา ภายใต้ระบบอเมริกา สิ่งที่ทำกันมาตลอดคือเริ่มหยุดกิจกรรมการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 20-25 เป็นต้นไปแล้ว ยิ่งช่วงก่อน 20 ธันวาก็จะมีกิจกรรมเกี่ยวกับ Christmas มากมายพวกผมก็รู้สึกดีที่ได้เข้าร่วมนะครับ แล้วก็พักไปมาเจอกันอีกทีหลังปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเทอมใหม่พอดี ก็จะไม่มีการสอบหรือโปรเจคใดๆ ค้างคามาจากปีก่อนเลยครับ

อันนี้ผมเอาอารมณ์ล้วนๆมาคิดเลยนะครับ ไม่ว่าจะมีเหตุผลใดที่เกิดให้มีความจำเป็นต้องจัดปฏิทินการเรียนการสอนแบบนี้ ผมก็ยังคิดว่าคนเรา โดยทั่วไปแล้ว ช่วงปลายปีน่าจะเป็นช่วงพักผ่อนสังสรรค์กับครอบครัวไม่ใช่เหรอครับผม? เพื่อจะเริ่มต้นปีใหม่อย่างมีความสุข และเรียนรู้สิ่งต่างๆจากปีเก่า ไม่ใช่เหรอครับผม? อย่างน้อยถึงเราจะเรียนหนักมากน้อยเพียงใด ก็ควรจะต้องมีเวลาให้เด็กๆหยุดพักผ่อนให้ถูกช่วง อย่างเช่น "ในเวลาที่ทราบกันอยู่โดยสามัญสำนึกว่าควรจะหยุด" บ้างไม่ใช่เหรอครับ? หรือว่าทางเอแบคยึดคติที่ว่า ในชีวิตจริงทำงานไม่มีวันหยุดครับ? เพราะถ้าเป็นเรื่องจริง และเห็นพ้องกันว่าควรนำมาใช้ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ก็คือ เรียนไม่ต้องพัก ใครหยุดเราก็ไม่ต้องหยุดเช่นนี้หรือเปล่าครับ?

ส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์ และ สิ่งใหม่ๆ ถูกคิดขึ้นมาได้ก็เพราะผู้คิดนั้นมีที่ว่างสำหรับการคิด ยิ่งมหาลัยก็เน้นย้ำอยู่ว่าเป็น "มหาลัยอินเตอร์แห่งแรก" ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมระบบถึงไม่เห็นเหมือนกับปฏิทินจากชาติไหนๆที่ผมเคยเห็นมาก่อนเลยครับ? ทุกครั้งที่ไกล้ถึงช่วงปลายปี ทุกบ้านก็จะพยายามหาเวลามาอยู่ร่วมกัน หรือไปเที่ยวร่วมกัน แต่พอเจอปฏิทินของเอแบค ทางบ้านผมก็ไม่รู้จะวางแผนไปเที่ยวกันอย่างไร เพราะมีโปรเจคติดค้างกัน ต่อให้ทำเสร็จหมดก็ยังมีหลายอย่างที่ต้องคิดข้ามปี เพราะต้นปีมีสอบ Midterm ต่อให้ได้เที่ยว ก็จะต้องเที่ยวแบบรวบรัดรีบไปรีบกลับเพราะมีงานและคลาสรออยู่อีกไม่กี่วันข้างหน้า

สุดท้ายสภาพครอบครัวผมตอนนี้ก็กลายเป็นคนเมืองที่ใช้แต่เงินวิ่งเข้าวิ่งออกอยู่ในกรุงเทพ อยากจะพักผ่อนก็ต้องไปไกล้ๆแค่หัวหิน ประเทศไทยค่อนข้างจะใหญ่นะครับ ไม่มีเวลาพอจะออกไปเที่ยวไหนไกลเนื่องจากไม่เคยมีอะไรแน่นอนในช่วงปลายปีเลยครับ จะต้องผูกมัดตัวเองอยู่กับตารางการเรียนการสอนเพราะว่าเทอมผมไม่จบภายในปลายปี ต้องคิดวางแผนว่าจะทำงาน อ่านหนังสือยังไง ในช่วงวันที่ 30 ธันวาซึ่งในเวลาเดียวกันคนทั้งโลกก็เริ่มฉลองกัน และเริ่มส่งท้ายปีเก่ากันแล้ว แต่ความรู้สึกผมในเอแบคไม่เคยมีอะไรใหม่เลย ถึงแม้ปีจะผ่านไปใหม่ทุกปีก็ตาม เพราะว่าในช่วงเริ่มต้นปี ผมไม่รู้สึกพิเศษเลยครับ รู้สึกว่าทั้งหมดนี้ก็แค่วัน จันทร์ ถึง ศุกร์ เป็นอาทิตย์ๆไป กว่าจะไปหยุดอีกทีก็จะกลางปี ผู้คนก็หายหน้าหายตากลับเข้าไปทำงานทำการกันหมดแล้วครับ อยากเข้าใจมากๆเลยครับ...

[Dots]

อ่านแล้วรู้สึกว่าทุกอย่างที่พิมออกมาเป็นสิ่งที่เราอยากจะพูดมากๆ เหมือนกัน
แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นเราจะพูดอะไรได้ ในเมื่อเค้าก็ไม่คิดจะเปลี่ยนมันอยู่แล้ว-_-
จริงๆการที่มหาลัยจัดต้นคริสมาสใหญ่ๆ เปิดเพลงเหมือนฉลองคริสมาส
แต่ความรู้สึกเราเหมือนมันเป็นแค่ธรรมเนียม
เพราะมันเป็นเทศกาล. เค้าเลยจัด แต่ความรู้สึกมันไม่ได้
อย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย มหาสัยอื่นเค้าพยายามจัดปฏิทิน
เพื่อให้เด็กเคลียงาน, สอบ ให้เสร็จก่อนคริสมาส เพื่อเทศกาลจะได้ไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว-_-
แต่ดูเหมือนเอแบคจะไม่ใช่-___-

[อยากหยุดปีใหม่]

เห็นด้วยค่ะ เซ็งมากกก  ก็เข้าใจว่าการเรียนสำคัญ แต่มันก็คงไม่มากไปกว่าการได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวในช่วงเทศกาลใช่มั้ยคะ. ABAC นะ. .. ทำกันได้ TT

[memild]

เห็นด้วยน๊าาา
เคยเจอเคสที่แบบอยู่มหาลัยอยากจะนัดเจอเพื่อนๆ ประถม มัธยม ไม่ได้เลยยย ไม่มีช่วงไหนตรงกะชาวบ้านเลยจ๊า เซงมาก
แล้วยิ่งเป็นวันที่ควรอยุ่กับครอบครัว ไม่มีเลยค๊าา ล่าสุดจำไม่ได้แล้วว่าเมื่อไหร่ เฮ้ออออออ

[Pai]

ชีวิตเปลี่ยนเลยครับตั้งแต่เข้ามา จะเปลี่ยนยังไง...อย่างที่เกิดขึ้นบ่อยๆก็คือ เพื่อน ญาติ พี่ น้อง มานัด ปีใหม่จะทำอะไรที่ไหน ทุกคนก็ต่างเฝ้ารอหน้าหนาวที่จะได้พักเรื่องต่างๆในชีวิตกันทั้งนั้น ใครต่อใครก็ออกมาทำสิ่งที่เก็บรอมาทั้งปี ในมุมมองของผม การที่จะเป็นคนๆนึงที่มีชีวิตที่เรียกว่า "ชีวิต" มันต้องได้ประสพการณ์ที่ เต็มที่/คุ้มค่า ในทุกๆด้าน รวมทั้งเรื่องเรียน! ถูกต้องครับเราต้องเรียนหนังสือแน่นอน แต่สิ่งอื่นๆรอบตัวผมไม่เคยเห็นว่ามันสำคัญน้อยกว่าการเรียนเลยครับ เพราะฉะนั้นทุกอย่าง เท่ากัน

ยิ่งในช่วงมหาลัยเพราะเด็กมันกำลังโตกำลังค้นหา เพราะนับปียิ่งโตขึ้นอะไรๆมันก็อึดอัดไปหมด ซีเรียสไปหมด เหมือนการนับถอยหลังเข้าสู่ชีวิตจริงที่จะมาลองผิดลองถูกเล่นๆไม่ได้แล้ว ใครจะอยากย่างเข้าไปล่ะครับ คนที่รีบไปทำงานก็...ยินดีด้วยครับสู่ชีวิตจริง เศร้าและสุขไปคู่กัน ส่วนตัวผมเข้าใจแบบนั้นนะครับ บางคนอาจจะมีกรณีที่ชอบพักผ่อนหน้าร้อนกับหน้าฝนเป็นพิเศษผมไม่รู้ แต่หน้าหนาวคือช่วงทิ้งปี คนเราก็น่าจะนับปีครบหนึ่งปีหลังเดือนธันวากันซะส่วนใหญ่

ตอนนี้ทราบว่าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง (กำลังจะ) เกิดขึ้น แต่เนื่องจากผมใช้เวลากับที่นี่มาแล้ว 4 ปีเต็ม แต่กำลังจะย่างเข้าปี 5(และคง 6) + (หวังว่าจะอยู่จนถึงปีที่จะเปลี่ยนปฏิทิน...อย่างน้อยขอเที่ยวในวัยเรียนโดยไม่โดดเลยสักคาบและไร้ซึ่งภาระใดติดค้างอยู่ในมหาลัย) ผมรู้สึก...เสียดายครับ...เสียดายเวลาที่ผ่านไปกับความกดดันในช่วงที่รอบตัวมีกิจกรรมเกิดขึ้นมากมาย อันเนื่องมาจากความฉลาดน้อยของผมเลยไม่สามารถจัดการกับเวลาและหน้าที่ช่วงวันหยุดและช่วงปลายปีของมหาลัยได้ มีจังหวัดอีกหลายจังหวัดให้เที่ยว มีประเทศให้ไปเดินดูและสังเกตความเป็นอยู่ กรุงเทพที่ไม่ได้ใช้รถเดินทาง มากมายครับ ถึงจะโง่ผมก็ยังอยากเรียนนอกห้องครับ แต่ผมโทษตัวเองที่ไม่ตั้งใจเรียนครับ ความเครียดในมหาลัยติดเป็นเงามาตลอดจนวันนี้ ก็ไม่รู้จะบ่นที่ไหนให้คนได้ยินว่า ที่ผ่านมานั้น ไม่รับผิดชอบ เรียนก็ไม่ดี และวันหยุดก็ไม่ค่อยจะมีครับ สุดท้ายแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครถามผมก็ตอบทุกคนให้ปลื้มไปบ่อยครั้งว่า "ทำงาน, ส่งงาน, แล้วไปสอบครับ"

[So bored]

เห็นด้วยครับ ปีใหม่เนี่ย ผมจะไปพักผ่อนไหนๆกะครอบครัวก็ลำบาก เพราะติดสอบทันทีหลังเปิดมาจากปีใหม่ แล้วใครมันจะมีะใจไเที่ยวล่ะฮะ ต่อให้ไปก็ต้องเอาหนังสือไปอ่านสอบด้วย!!! ไม่ใช่การพักผ่อนจิงๆอย่างที่ควรจะเป็นเล้ย เปนชนี้มาสี่ปีละครับ ครอบครัวผมก้เซ็งเหมือนกันพราะวางแผนไปเที่ยวลำบากมากเนื่องจากมหาลัยจัดปฎิทินแบบนี้มาตลอด คนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือนักศึกษาครับ บรรดาผู้บริหาร อาจารย์ พนักงานอื่นๆเค้าจะมาเดิอดร้อนอะไรอ่ะ เค้าก็กลับบ้าน ไปเที่ยว พักผ่อนได้สบายใจ ชาร์ตแบตเพื่อเตรียมกลับมาลุยต่อหลังปีใหม่ แต่นักศึกษาได้อะไรครับ...ได้วันหยุด5-8 วันเพื่อมาอ่านหนังสือสอบเนี่ยนะ เฮ้อ!!! ....

[Movies]

ถ้าคิดแบบเป็นอารมณ์หนังหักมุม ก็คงจะเป็นแนวผู้บริหารของที่นี่สักคนนึง มีปมด้อยหรือภูมิหลังอะไรเกี่ยวกับ วันปีใหม่ ที่เป็นเรื่องไม่ดี

จึงอยากให้ทุกคนไม่มีความสุขในวันปีใหม่ เหมือนๆกับตนเอง....    จริงๆแล้วเรื่องจริงมันก็มาจากหนังนั่นแหละครับ

ไม่เชื่อคุณลองหาเหตุผลที่ดีโดยใช้ Logic จากเรื่องนี้สิ มันจะไม่มีทางได้คำตอบเลยนะเพราะมันไม่มีเหตุผลเลย

และไม่มีมหาลัยไหนเค้าทำกันแบบนี้ด้วยครับ  (a04)

[nothing]

บอกตรงๆ สั้นๆ ได้ใจความว่า "เบื่อมากกกกกค่ะ" กับแนวคิดวันสอบแบบนี้ ไม่เห็นใจนักศึกษาและครอบครัวเขาเลย

[ก็ต้องทนกันต่อไป]

เราอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้กลับบ้านเลย ไม่รู้เคาท์ดาวน์ก็จะได้ไปมั้ย กลุ้มกลัวทำข้อสอบไม่ได้ ไม่รู้ว่าเริ่มสัปดาห์ถัดไปมันจะตายมั้ย สงสัยมันมีปมด้อยจริงๆ นี่คงเป็นปีสุดท้ายแล้วที่เราต้องอดทน จะคิดถึงบรรยากาศมหาลัยเสมอ แต่ผู้บริหารนี่ไม่รู้จะหาอะไรมาบรรยาย

[Pai]

ผมเห็นคนเค้าถามกันบนโลกอินเตอร์เน็ตว่า "เรียนเอแบคได้ข่าวว่าจบยาก...แล้วอย่างนี้จะดีไหม?" แล้วก็จะมีรุ่นพี่พวกเราที่จบไปแล้วมีสัดส่วนมากเลยที่กลับมาตอบว่า "เค้าไม่สนใจเรา ไม่แคร์เรา เพราะเค้ารู้ว่าโลกจริงๆมันเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นทนไปเถอะ เค้าพยายามจะสอนเราให้อดทนต่อโลกที่ช่างโหดร้าย แล้วก็ขอบอกว่าหลังจากจบไปแล้ว ได้ดีแน่นอน" เห็นกลับมาขอบคุณมหาลัยกันทุกคน ผมอยากทราบมากเลยครับ มันเป็นแบบนั้นจริงๆไหม?

ผมเรียนคณะอย่างนิเทศ ไม่เหมือนบริหาร/บัญชี/เศษรฐศาสตร์ ที่ต้องมุ่นอิงกับตัวเลขเป็นส่วนใหญ่ (ไม่ได้ว่าเลยนะแต่ผมก็ไม่รู้คุณเครียดกันบ้างไหม) ตรงๆเลยครับ ผมโง่เลขครับ ผมเลยเลือกมาทางนิเทศ ที่ดูแล้วเหมือนจะเป็นคณะที่เรื่องมาก ตังมันก็หาได้น้อย งานก็แข่งกัน แถมเด็กมันอาร์ทอีก อยากได้ที่ว่างให้มีเวลาคิด และเรียนรู้สิ่งรอบตัว มากกว่าที่จะสนใจทฤษฏีในตำราอย่างเดียว เพราะสิ่งที่เราทำนั้น มันเป็นกลไกที่เราจำเป็นจะต้องเดินตามและสังเกตมัน การทำโฆษณามีความจำเป็นที่จะต้องจดจำสังเกตทุกอย่างที่กำลังเกินขึ้นไปกับประเทศ สามคณะนั้นก็เช่นกัน เพียงแต่ผมต้องมาหาดูเอาจากการใช้ชีวิตจริงเป็นหลัก ได้ออกไปเห็นสิ่งต่างๆแล้วแปลมาเป็นโจทย์ให้ตีให้แตกเล่นๆไปวันๆจะได้ชิน ไม่สามารถไปอิงสังเกตจากตัวเลขที่มีการคำนวน วัดค่า ออกมาแล้วอย่างเดียวได้ ยกตัวอย่างเช่น Nielsen ที่วงการAdvertising ก็ใช้วัดค่า จำเป็นต้องสังเกตให้แม่นยำ แต่คุณก็รู้กันว่าในงานจริง ถ้าจะให้มันเกิดผลที่ดีที่สุด มันอิงจากเลขอย่างเดียวไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องใช้ common sense เป็นตัวพาไปสู่การวัดผลที่มี logic แต่ผมดูทรงแล้ว เด็กนิเทศมหาลัยเรา ไม่มี logic อยู่แล้วครับ มันยังไม่รู้เลยว่าที่เรียนๆนี่อะไร Nielsen มันเป็นใครจะไปรู้ โทษเขาก็ไม่ได้ เพราะมันไม่มีทางออก ในเมื่อพื่้นที่ว่างนอกรั้วมหาลัยมันน้อยนิดขนาดนี้ ผมถามหน่อยว่าโตไปผมจะเอาอะไรไปแข่งกับวงการของโลกครับ? ถ้าเรียนดีมากก็ได้แต่เกรดมาแกะกินกันอยู่ในประเทศ ระบบเดิมๆ มีแต่จะยัดใส่หัวผม ผมไปไม่ถูกจริงๆครับ T T

[LYn]

เข้าใจทุกคน เพราะตัวเองก็โดนมาทุกปี แต่ปีแล้วปีเล่าก็ได้แต่บ่นๆๆ

มาปีหน้านี้ เอแบคจะเปลี่ยนช่วงเวลาเรียนทั้งหมดให้เข้ากับ AEC แล้วนะคะ!!
เพราะฉะนั้น ปัญหานี้จะหมดไปอย่างแน่นอนค่ะ เนื่องจากเทอมแบบใหม่นั้น;
เทอม 1 จะสิ้นสุด ช่วงสิ้นเดือนธันวา
เทอม 2 เริ่มอาทิตย์ที่ 2 ของมกรา = พักผ่านช่วงปีใหม่เต็มที่!!
และเทอม 3 มิถุนา - สิงหา

แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่อีกนิดหน่อย คือ ปีหน้าจะเปิดเทอมแบบบ้าบอคอแตก เพื่อนเลื่อนให้เวลาแต่ละเทอมลงตัวค่ะ

ขอปรบมือให้เอแบค ที่ช่วยสร้างความลำบากให้กับชีวิตปี 4 ของเรามากยิ่งขึ้นนะคะ

Sincerely yours,

[54100000]

อ่านละรู้สึดว่าเยอะ เรื่องแค่นี้ยังบ่น จะไปทำไรกิน

[boomcc]

แบบนี้ละครับ อะไรที่เป็นอินเตอร์ เป็นแบบสากลดั้วเดิม พอมาอยู่ในไทย สุดท้ายก็ไม่พ้นแบบไทยๆ

[Pai]

@54100000

ถ้าคุณอ่านดีๆคงไม่พิมแบบนี้หรอก...ผมไม่เคยบอกเลยนะว่าตอนนี้ผมมีกินหรือไม่มีกิน ไอดีคุณ 54 ใช่ไหม หาสตางค์เป็นรึยังครับ? งานวีดีโองานภาพพวกผมรับกันจริงๆเป็นหมื่นเป็นแสนก็หาได้ แต่ถ้ามันไม่มีที่ว่าง ไม่มีความเปิดกว้างในความคิดให้พวกผม แล้วตอนนี้ยังพอมีกิน อยู่ได้ ผมก็ไม่ทำกันครับ ไม่อยากรวยแล้วโง่ในด้านชีวิต ถ้าจะให้มาดิ้นรับงานกันจริงๆ เดือนนึงพวกผมปั่นงานได้มากกว่าพวกมนุษย์เงินเดือนอยู่แล้วครับ ส่วนคุณ เพื่อนแจ๋วๆคุณมีไหม มีกี่คน? เที่ยวเป็นไหม? ไม่ใช่พวกขี้เมาในผับนะ เที่ยวของจริง ชีวิตของจริง คุณใช้ชีวิตแบบไหนกันครับ? เคยไปเที่ยว แบบเซอร์ๆไหม ลาว พม่า ธรรมชาติรอบๆ ได้ไปไหนบ้างไหม? เห็นอะไรมาบ้าง? รู้ไหมโลกที่อื่นเค้าไปถึงไหน เป็นอยู่กันอย่างไร? ก็คงไม่...รึเปล่า?

คนที่จะมุดหัวไม่บ่น ไม่แย้ง ทำใจ เพราะชีวิตมันก็แค่นี้ เดินตามกันไปไม่ต้องคิด ก็มีแต่คนที่คิดแบบคุณเหละครับ ถ้าคนอย่างคุณมาอยู่นิเทศฯ (ถ้าอยู่จริงผมว่าคุณแย่มาก) จบมาก็เป็นพวกที่นั่งจ้องแต่ตัวเลขใน Nielsen ไปวันๆ คิดต่างไม่เป็นเพราะไม่กล้าหรอก เวลาออกมาบ่นก็กลัวคนเค้าหาว่าเสร่อแบบผมไง เพราะไหนๆเพื่อนก็ไม่มี เที่ยวก็ไม่เป็น เที่ยวก็ได้แต่ฉาบฉวย ไม่เคยมองเห็นอะไร ชีวิตชีวาไม่มี ก็โอเคสำหรับคนแบบคุณแล้วมั้งครับ? สงสัยผมจะมาบ่นผิดที่ คนฟังมีแต่นักเรียน ก็แค่ผ่านๆไป ผมคง "เยอะ" จริงๆเหละครับ ยิ่งเห็นมาแนวคุณน่ะ อยากถอดใจกระโดดตึกตายไปเกิดใหม่ ประเทศแม่งมีแต่คนน่าเบื่อแบบคุณ คิดให้น้อย ทำให้เยอะ เดินตามๆกันไปจะได้ดูไม่ "เยอะ" ดี

[ptk448]

ไม่เป็นไรครับ ปีหน้าเป้นต้นไปเราก็จะได้พักปีใหม่กันหายอยากแล้วครับ หลังจากที่ตารางเรียนใหม่ออกมา เราจะได้สอบเสร็จก่อนปีใหม่แล้วยังได้พักอีก12วันอีกด้วย ยังไงก็ช่างมันเถอะครับ ขอปีนี้ปีสุดท้าย อดทนอีกนิด ไหนๆเราก็จะเป็นอิสระในช่วงปีใหม่กันแล้ว