Dcondo Groovy Condo KJ place dorm list news

คู่มือนักศึกษาเอแบค

  • 30 Replies
  • 79323 Views

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

*

Over the acid rain

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #15 on: June 09, 2011, 10:19:16 PM »
 :9a9e6a59:คราวนี้เขียนเรื่องการลงทะเบียนเอาไว้ 
แต่ว่าลืมเซฟกลับมาจากมหาลัย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะกลับไปเซฟมา 
ไม่ก็จะเขียนหัวข้อนี้ไหม และขอบคุณมากนะคะสำหรับคำที่ช่วยแก้ต่างๆ

ขอข้ามมาหัวข้อ 3.การสอบ : การเลือกวิชากับวันสอบมีประโยชน์อย่างไร, time conflict, cheating ก่อนนะคะ

สำหรับวันสอบ ก่อนที่การสอบจะมาถึงน้องๆก็ควรเตรียมตัวดีๆ 
ถ้าใครตัดสินใจจะเรียนพิเศษก็ควรจะเรียนให้เสร็จก่อนช่วงการสอบมาถึง(ไม่ใช่วันสอบของคุณวันแรกนะ) เพราะไม่งั้นคุณอาจจะต้องเสียเวลาในการรอเป็นชั่วโมง แทนที่คุณจะได้เรียนเลย
หรือที่เรียนไหนมีการจองเวลาก็ควรจองไว้ก่อน ที่ไหนสามารถจองแล้วไปกินข้าวได้ก็รีบมาลงชื่อ
 หรือบางทีถ้าไม่มีทั้งสองอย่างการมาตั้งแต่ที่เรียนพิเศษเปิดก็ช่วยได้ (เหมือนจะนอกเรื่องไปหัวข้อเรียนพิเศษ) 


การอ่านหนังสือ ควรอ่านสองรอบจะทำให้เข้าใจคำถามทั้งหมดว่ามันเกี่ยวกับอะไร
แต่จะให้ตอบได้ทั้งหมดนี่คิดว่าไม่นะ ถ้าอ่านสามรอบแล้วมีเพื่อนช่วยกันถามช่วยกันติวจะช่วยเรื่องการจำคีย์ต่างๆได้ดีมาก
 ส่วนใครที่เรียนเก่งๆ หรือไม่ต้องเก่งแต่พอจะติวได้ หรือไปเรียนพิเศษมาแล้วมาติวเพื่อนที่ไม่ได้เรียน
 ถ้าคุณไม่หวงความรู้เกนไปนั้น เพื่อนคุณก็จะเข้าใจเนื้อหามาขึ้น ส่วนตัวคุณก็จะจำเนื้อหาได้มากขึ้นนะคะ

สำหรับใครที่สามารถเลือกวันสอบให้ห่างกันได้บ้าง ซักหนึ่งวันเป็นอย่างน้อยก็พอจะช่วยให้ไม่เหนื่อยเกินไป
 แต่ถ้าใครสอบติดกันแค่สองวิชาก็จะเหนื่อยแล้วนะคะ ยิ่งถ้าสองวิชานั้นเป็นวิชาคำณวน อาจจะหนักเกินไป

แต่ยังมีบางกรณีที่เวลาสอบชนกัน โดยส่วนใหญ่เวลาสอบชนกันจะลงไม่ได้ แต่ในวิชาปีหลังๆจะลงได้
แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณอนุณาตให้สอบชนกันได้นะคะ คุณต้องทำเรื่อง ขอดีนให้เช็นต์อนุณาตให้คุณ และควรทำตั้งแต่ต้นเทอมนะคะ
ในช่วงของการแอดเพิ่มเลยนะ เพราะถ้ามีอะไรผิดพลาดเค้าไม่อนุณาตขึ้นมาก็พอจะมีทางแก้ไข แต่ถ้าเค้าไม่อนุณาตนั้น
** คุณก็ไม่ควรจะโกงด้วยการไปสอบวิชานึง อีกวิชายื่นเรื่องป่วยหรืออะไรก็แล้วแต่นะคะ
เพราะนอกจากคุณจะไม่ได้สอบแล้ว ระวังโดนทำโทษข้อหาข้อมูลเท็จนะคะ อยากคิดว่าวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ฉลาดเลยนะ

หรือบางคนมีสอบวันเดียวสองวิชา แต่คนละมหาลัยทำยังไงมีเวลาแค่หนึ่งชั่วโมง
 อันนี้ไม่ต้องทำเรื่องเลยนะคะ มหาลัยจะทำเรื่องให้คุณเองและคุณจะเข้าสอบที่ไหนก็ได้ ไปดูรายชื่อได้หน้าห้องทะเบียน

พอถึงวันสอบ ถาบังเอิญลืมเอาไอดีการ์ดมา
 ก็รีบไปห้องไฟแนนจ่ายเงินสองร้อยเพื่อขอให้เค้าปริ้นไอดีเพื่อสอบให้เรานะคะ
 (ควรขอทีเดียวให้ครบเลยทุกวิชานะคะ สามารถทำได้และไม่ต้องเสียสองร้อยเพิ่มอีก)

ในกรณีเข้าห้องสอบแล้วอาจารย์งี่เง่าหาว่าเราต่งตัวผิดนู้นนี่ ข้อนี้ถ้าคุณมั่นใจจริงๆว่าคุณไม่ผิด
 สามารถลงไปคุยกับที่ห้องทะเบียนหรออาจารย์ที่เดินตรวจตามตึกให้ช่วยตรวจคุณถ้าเค้าอนุญาต ให้เค้าช่วยไปคุณกับอาจารย์คุณนะ
 ส่วนถ้าคุณๆรู้ตัวว่าผิดเต็นๆก็รีบเปลี่ยนชุดซะ หรือรีบไปซื้อที่ห้องสมุด อาจารย์สามารถไม่ให้คุณสอบถ้าเข้าห้องช้าเกินสิบห้านาทีนะคะ

วันไปสอบก็อย่าเอากระเป๋าแพงๆไปเลย เพราะเด็กในห้องบางคนรู้หน้าไม่รู้ใจ
 ถ้าทำข้อสอบช้าออกมาอีกทีกระเป๋าคนอื่นหยิบไปแล้ว เคยมีเกิดขึ้นนะคะ 

ส่วนใครที่คิดจะโกงข้อสอบ ด้วยโพยหรืออะไรก็ตาม ...  

*

Over the acid rain

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #16 on: June 09, 2011, 11:08:05 PM »
 :3070242c:เรื่องการโกงข้อสอบนะคะ ไม่แนะนำให้ทำจริงๆ แนะนำให้เตรียมตัวให้ทันจะดีกว่า

เพราะถ้าคุณโดยจับได้ขึ้นมา คุณอาจจะคิดว่าชีวิตแทบดับเลยก็ได้
 แต่จริงๆถึงแม้คุณโดยจับมันก็ไม่ได้ดับชีวิตคุณหรอกนะ 
ถ้าคุณโดนอาจารย์จะให้คุณเช็นต์ใบ(จะยอมรับหรือไม่ยอมรับก็ได้) 
แล้วพอช่วงสอบจบไป ก็จะมีจดหมายนัดตัวคุณไปสอบสวน
 ถ้าคุณโดยจับอย่างมีหลักฐานจริงๆขอให้ยอมรับ อย่าโกหก หนีอีกแล้วคิดว่าตัวเองจะรอด 
โทษคุณมีแต่จะโดนเพิ่มนะคะ จะโดนหนึ่งปีไม่มีการผ่อนผัน 
แต่ถ้าคุณยอมรับ 
คุณสามารถมาทำงานช่วยมหาลัยหนึ่งเทอมโดยไม่ได้ผลตอบแทนนะคะ
 ผลตอบแทนจะเป็นคุณจะรู้จักและเข้าใจมหาลัยมากขึ้น
 ถ้าใครที่ไม่รักอาจจะรัก หรือใครที่รักอาจจะเกลียดก็ได้ค่ะ555
 คุณต้องเข้างานประมาณแปดโมงจนถึงสี่โมงครึ่ง 

ส่วนถ้าใครที่คิดว่าตัวเองไม่ผิดก็ไม่ต้องยอมรับนะคะ 
พูดตามความจริงไป ไม่โกหกเค้าคุณก็รอดอยู่แล้วค่ะ

ต่อไปคือการlate exam ถ้าสมมุติว่าป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุในวันสอบ
 คุณสามารถมาทำเรื่องขอสอบทีหลังได้
 โดยจะให้ใครมายื่นเรื่องแทนก่อนก็ได้ถ้าไม่ไหวจริงๆ และควรทำภายในสามวันหลังจากวันขาดสอบ
 เตรียมหลักฐานให้ครบที่สุดเท่าที่คุณมีนะคะ 
กรณีหลักฐานเท็จคุณจะไม่ถูกอนุญาตให้สอบ
 ถ้าข้อมูลละเอียดชัดที่สุดคุณไม่ต้องไปสัมพาษณ์ 
แต่ถ้าไม่ชัดจะมีเรียกไปสัมพาษณืเพิ่มนะคะ 
ซึ่งมีสิทธิที่จะอนุญาตหรือไม่แล้วแต่อาจารยฑิจารณาว่าคุณโกหกหรือไม่ 
แนะนำว่าอย่าโกหกนะคะ 
ถึงแม้คุณจะป่วยจริงๆแต่อนากโกหกให้ดูป่วยมากน่าสงสาร 
ถ้าเค้าจับได้ก็จบนะคะ

แต่ส่วนตัวคิดว่าการขอสอบทีหลัง 
ไม่ดีเท่าสอบเลยนะคะ เพราะเคยไม่สอบเพราะป่วยจริงๆหนึ่งครั้ง 
สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่ไปเพราะคิดว่ามีความรู้ไม่เท่าช่วงสอบแล้ว
 ทั้งๆที่จ่ายตังค์ค่าสอบพันห้าไปแล้วด้วย 
เพราะส่วนใหญ่จะบอกว่าข้อสอบยากขึ้น จำนวนข้อเยอะขึ้น

วันนี้ขอจบแค่นี้ก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้อาจจะมาได้ซักสองหัวข้อ

*

น้องใหม่

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #17 on: June 15, 2011, 02:00:06 PM »
รออ่านต่ออยู่นะคะ  :098eb4a5:

*

จริงใจ

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #18 on: June 15, 2011, 08:35:37 PM »
การโกงข้อสอบมีโทษกี่ขั้นค่ะ พิจารณากันอย่างไร และระเบียบเกี่ยวกับวินัยนักศึกษาหาอ่านได้ที่ไหน
 :860e2a45:

*

BESTYLEZ

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #19 on: June 16, 2011, 04:48:08 PM »
รออยู่ครับ รอตอนต่อไปๆๆๆๆ

*

Over the acid rain

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #20 on: June 16, 2011, 11:09:24 PM »
สำหรับการคบเพื่อนที่เอแบค 
มีหลายวิธีมากนะคะที่จะมีเพื่อนใหม่ๆ 
การเข้าชมรมก็เป็นทางนึง 
แต่ถ้าชมรมไหนคนสมัครเยอะเกินบางชมรมก็อาจจะมีการคัดเลือกคนกันนึดนึง 
เราว่าการเข้าชมรมก็ดีเหมือนกัน นอกจากได้เพื่อนได้รุ่นพี่ ยังได้ที่ปรึกษาทางการเรียนที่ดีด้วย 
บางทีก็ได้ติวเตอร์ สอนเราได้อีก เยี่ยมๆ 

จริงๆแล้วการมีเพื่อนในเอแบค 
ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนร่วมห้อง 
ซึ่งบางคนก็รุ่นพี่รุ่นน้องปนกันไป 
จริงๆเราดูเหมือนว่าสังคมเอแบคไม่ค่อยมีระบบพี่น้อง 
แต่ทุกคนที่เรียนร่วมกัน ทำงานกลุ่มร่วมกันคือเพื่อนกันหมดอะ ก็มีข้อดีข้อเสียอยู่เหมือนกัน ในคนที่เคร่งเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องมากๆอะนะ 
แต่เราชิวมาก ถ้าเด็กกว่าเราเรียกชื่อเราเฉยๆก้ไม่เป็นไรอะคะ 
เรามองที่ผลของงานมากกว่า ไม่ว่าจะรุ่นอะไร ขอให้มีความรับผิดชอบอะ

อีกเรื่องนึง บางวิชาจะมีงานกลุ่ม ซึ่งการมีทีมร่วมกลุ่มที่ดีก้ดีเหมือนกัน แบ่งงานได้เท่าเทียมก็ดีกับทั้งเราและทีม 
แต่การเข้ากลุ่ม
ถ้าไม่มีเพื่อนที่รู้จักมาก่อน เราก็ไม่สามารถรู้นิสัยคนอื่นได้หรอกนะคะ จริงๆ
บางคนรู้หน้าไม่รู้ใจ ดังนั้นการร่วมงานกับใครก็ขอให้เปิดใจกันก่อน 
เพื่อนในกลุ่มมันก็เหมือนเพื่อนร่วมงานในอนาคตเราไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าใครดี ใครมีประสิทธิภาพจริงถ้าเราไม่ได้ร่วมงานกับเค้าก่อน 
บางคนแต่งหน้าแรงๆแต่งตัวแรงๆรับผิดชอบก้มีนะคะ 
บางคนหน้าเนิสๆแต่ไม่ช่วยก้เจอมาเหมือนกันคะ

และการที่เราจะร่วมกลุ่มกับชาวต่างชาติก้เปนโอกาสที่ดีนะคะ 
นอกจากได้ฝึกภาษาแล้ว เรายังได้เรียนรู้การทำงานเป็นกลุ่มของชาวต่างชาติด้วย 
ครั้งนึงเรามีประสบการ์ณได้ทำงานร่วมกับคนจีนทั้งกลุ่มมีเราคนไทยคนเดียวเราก็เกร็งมากนะคะ 
มีปัญหาบ้างเรื่องการสื่อสาร และถ้าไม่พูดถึงเรื่องนิสัยเฉพาะของคนจีนส่วนใหญ่ และโฟกัสที่การทำงานแต่จิตใจ 
จริงๆแล้วพวกเค้าดีนะคะ และยังมีความรับผิดชอบมากกว่าคนไทยด้วย 
(สมมุติว่างานส่งสิ้นเดือน กลางเดือนคนจีนจะทำงานกันเสร็จแล้วนะคะ คนไทยนี่ทำคืนสุดท้ายก่อนส่ง ไม่หลับไม่นอนกัน) 
แต่จริงๆคนไทยดีๆไม่ขี้เกลียดก้มีนะคะ แต่น้อยอะ ไม่ค่อยเจอเหมือนกัน 

ส่วนใครที่เจอเพื่อนที่เกาะ พยายามจะลงทะเบียนตามทั้งๆที่อยู่กลุ่มเดียวกันก้ไม่เคยช่วยงานเลยนะคะ 
วิธีหนีก้คือ จริงๆเพื่อนพวกนี้จะเรียนไม่ค่อยเก่งมากนะคะ 
เราก้รีบๆลงทะเบียนให้เต็มลิมิตและตั้งใจเรียนให้ผ่านให้หมดนะคะ เทอมเดียวก็หนีได้แล้ว 
เป็นทางที่เนียนที่สุดถ้าไม่อยากเลิกคบกันอะ 
เพราะบางทีก้ยอมรับว่าเพื่อนบางคนเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีแต่เป็นเพื่อนร่วมงานที่แย่มาก 

ส่วนใครที่อยากจะมีปัญหากับเพื่อน หรือทนไม่ไหวที่มหาลัย 
แนะนำว่าอย่านะคะ การตบตีกันเหมือนในคลิปเด็กๆมัทยมกันนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเลย 
เพราะอาจจะเป็นสิบนาทีที่มีปัญหา 
แต่มันอาจจะหมายถึงคุณอาจจะหมดโอกาสเรียนมหาลัยนี้หรือโดนพักการเรียนได้นะคะ 
และมันดูเป็นกิริยาที่คนมีการศึกษาและจะไม่ทำกันด้วยค่ะ

และเพื่อนอีกเหมือนกันที่อาจจะทำให้คุณได้รู้จักโลกใหม่ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น 

บุหรี่ ผู้หญิงหลายๆคนเริ่มสูบบุหรี่เมื่ออยู่มหาลัยนะคะ 
เราไม่ทราบเหตุผลจริงๆว่าเพราะอะไร 
แต่เราทราบแน่ว่าบุหรี่เป็นสิ่งเสพติดย์แรกที่จะพาเราไปสู้สิ่งอื่นๆนะคะ

เหล้าก็ดูเหมือนจะเป็นเครื่องมือการเข้าสังคมของวัยรุ่นสมัยนี้นะคะ 
เข้ามหาลัยแรกๆก็เอาแล้ว ต้องเข้ากลุ่มเข้าแกงค์ไปกินเหล้าทำความรู้จักกัน เข้าถึงกัน 
แต่จริงๆแล้ว ถ้าใครจะกินจะไปสังสรรค์ก็แล้วแต่นะคะ 
แต่ต้องอย่าลืมมีความรับผิดชอบกับตารางเรียนด้วย 
และเรื่องที่สำคัญอีกอย่างนึงเลยก็คือ เมาแล้วอย่าขับเด็ดขาด 
คุณอย่าเอาเรื่องแค่นี่มาสร้างความเสี่ยงให้ชีวิตคุณตายง่ายนะคะ เพราะจริงๆแล้วการที่คุณมาเรียนที่นี้ 
ยิ่งคุณอยู่ปีสูงขึ้น เพื่อนๆก็เริ่มหายไป ด้วยเพราะว่าย้ายมหาลัยไปบ้าง 
และอีกเหตุผลที่เราไม่อยากให้เกิดก็คือตายไปบ้าง 
เด็กเอแบคตายเยอะนะคะ 
และปัจจัยที่ทำให้ตายส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เลือกได้ป้องกันได้ 
แต่เราใช้ชีวิตกันสุดโต่งไปหน่อย

ยาเสพย์ติด เป็นอีกอย่างหนึ่งเลยที่ต้องยอมรับว่ามันอยู่รอบๆตัวเราจริงๆ 
และวัยมหาลัยเรื่องพวกนี้เข้าถึงง่ายมาก 
ไม่ว่าจะมาจากเพื่อนมหาลัยเดียวกันหรือข้างนอก 
มันเหมือนเป็นเครื่องมือที่บอกว่าเราสุดๆกันแล้วจริงๆ เก่งจริงเจ๋งจริง 
ขอให้เปลี่ยนความคิดและเปิดมุมมองใหม่เลยนะคะ 
ของพวกนี้มันมีแต่โทษทั้งนั้นและมันก็ไม่ได้ช่วยให้เราขยันหรือจำอะไรได้ตลอดหรอก 
เพื่อนบางคนอาจจะตั้งตัวเป็นผู้ค้าเพื่อนหารายได้้ก้อนโต 
เงินได้มาเยอะจริงแล้วมันไม่คุ้มหรอกคะถ้าวันนึงคุณถูกจับได้
เป็นทางที่โง่ทางนึงเลยที่จะผันตัวมาเป็นผู้ค้าด้วย 
แต่ผู้ค้าที่เป็นนักศึกษามีจริงๆ และมีหลายระดับ ตั้งแต่กัญชา เบสิกมากไปจนถึงไอซ์ 

ปล.บางคนถึงขนาดปลูกต้นกัญชากันเองที่หอ 
เราว่ามันเป็นทางเสื่อมมากอีกทางนึงอะ

และการพนันก็เป็นอีกที่สิ่งหนึ่งที่เราจะเข้าถึงกันได้ง่ายๆ 
คุณอาจจะเล่นตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ระดับมหาลัย 
คุณจะเสียมันเป็นแสนๆได้ และคุณอาจจะเจอกับหนี้เป็นล้านได้ 
เงินที่คุณได้มา คุณไม่ได้จับไม่ได้ใช้มันจริงอยู่แล้ว
ของพวกนี้ไม่มีใครจะรวยจะประสบความสำเร็จหรอก
พวกคุณแค่ลุ้นมากขึ้นตื่นเต้นมากขึ้น แต่มันไม่ฉลาดมากๆเลยนะคะ 

*

Over the acid rain

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #21 on: June 17, 2011, 04:16:00 PM »
เรื่องกายแต่งกายมามหาลัย 
ก็เป็นอีกเรื่องที่นักศึกษาใส่ใจกันมากเลยนะคะ

แต่ถ้าคุณเป็นรุ่นน้องปีหนึ่งดูด้วยน้า ว่าเค้าแต่งตัวกันยังไง
ส่วนใหญเด็กเอแบคไม่ค่อยแต่งตัวผิดระเบียบ แต่มันจะผิดเรื่องไม่ใส่เสื้อเข้าในมากกว่า

จริงๆ เหตุผลที่เค้าให้คุณใส่เสื้อเข้าใน มันเป็นการส่งเสริมรูปรักษ์คุณอย่างนึงคะ
เพราะมหาลัยเราสอนการเป็นนักธุรกิจไง 
การแต่งตัวที่ดูเรียบร้อยในตอนนี้จะทำให้เราชินในอนาคต..มั้ง

ในนักศึกษาหญิง มหาลัยเราไม่นิยมใส่เสื้อนักศึกษาหลวมๆพับแขนนะคะ
เพราะเอกรักษ์นั้นเห็นจะนิยมในหมู่นักศึกษามหาลัยกรุงเทพ 
หรือมหาลัยรังสิตมากกว่านะคะ 
และกระโปรงนักศึกษาเราจะไม่สั้นขนาดสองมหาลัยข้างต้นนะคะ
เพราะถึงคุณจะใส่ยาวกว่านั้นแล้ว แต่หน้าตาไม่ถูกระเบียบยามบางคน 
คุณก็มีสิทธถูกเรียกได้
ส่วนกระเป๋าเด็กเอแบคนิสัยจะใช้แบรด์เนมมาก
เพราะเป็นการแสดงสถานะทางสังคมอย่างนึง
ซึ่งปลอมก็มีบ้างแต่น้อยมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับมหาลัยอื่น
และกระเป่าใบละห้าหมื่นก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป
ถูกๆที่ใช้ชนกันเป็นบ้าก็สองหมื่นกว่า หลุยต์ไง มีกันเยอะมาก
และใช้ชนกันมากที่สุด

แต่ก็จะมีนักศึกษาหญิงมีตังค์บางกลุ่มใช้ของแบรด์เนม แพงแต่คนไม่ค่อยรู้จัก ซึ่งเปอร์เซ็นต์มีน้อยจริงๆ 
ส่วนใหญ่จะเป็นใช้ของแพงที่เป็นที่นิยม
ถ้ารองเท้าก็ต้องเป็นรองเท้าที่ดูแล้วรู้ว่าแบรด์อะไร
แต่นักศึกษาเอแบคใส่รองเท้าแบรด์เนมน้อยคนกว่าเมื่อเทียบกันจำนวนคนใช้กระเป๋าแบรด์เนม

และผู้หญิงส่วนใหญ่จะนิยมพกผ้าพันค้าด้วย ส่วนตัวเราเห็น่ามันมีประโยชน์จริงๆนะ
แต่บางคนก็เอามาพันคอเฉยๆเพราะใช้ของแพง
เช่นพอลสมิทไม่ก็โคเซ็ทแบรนด์ไทยไฮโซแต่ต้องรุ่นที่หายากจริงๆนะ

การทำผมในนักศึกษาหญิงส่วนใหญ่ก็มาเต็มมากอะ ดูแบบทำนาน ต้องตื่นเช้า
การแต่งหน้าก็เหมือนกัน บางคนถึงขนาดใส่ขนตาปลอมมา
แต่เราว่าแต่งเอาแต่พอดีดีกว่า ขนตาปลอมมันดูอคาซ่ามากอะ
การแต่งหน้าแต่งตัว ถ้ามันดูแรงไปภาพรักษ์ เราก็ไม่ดีเหมือนกันนะคะ

ในนักศึกษาชาย มหาลัยเราไม่มีใครใส่ยีนต์สีน้ำเงินมาเรียนนะคะ
สีดำก็พอมีบ้าง แต่เสี่ยงโดนเรียกมาก
การใส่เสื้อ นักศึกษาชายส่วนใหญ่นิยมแขนยาวพับแขน
บางคนจะซื้อเสื้อแบรนด์ไทย มีปักเล็กน้อยดูหรูหรา
แต่การใส่เสื้อแบบนี้มีสิทธิถูป้าเรียกได้
เข็มขัดก็จะไม่ค่อยใส่ของมหาลัย แต่จะใส่แบรนด์เนม 
เท่าที่เห็นก็มีแท้บ้างปลอมบ้าง ปลอมเยอะมากถ้าเป็นแอร์เมส
รองเท้าก็มีหลายแบบนะ

แต่มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันในนักศึกษาชาย 
ถ้าเค้าเหล่านั้นมีรถหรูราคาแพง
เค้าจะไม่สามารถเก็บกุจแจรถไว้ในกระเป๋ากางเกงได้เลย
จะเอามาห้อยนอกตัว
ถือกวังเกว่งไปมา ระวังหายนะคะ หุหุ

และในเทอมล่าสุดนี้ ดูเหมือนมีการจริงจังขึ้นเรื่องการแต่งตัวของนักศึกษา
มีการแจกใบเตืิอนกันทั้งหน้า
ถ้านักศึกษาคนไหนไม่อยากโดน
กรุณามาเรียนตรงเวลา เพราะคนจะเยอะ
เค้าจับไม่ทัน
และในช่วงเข้าคนพวกนี้จะขยันจับเป็นพิเศษ
และมาตรฐานการตัดสินโทษต่างกัน 
สำหรับป้า คุณอาจจะผิดระเบียบได้มาก ถ้าคุณใส่ส้นสูงสีแดง
แต่ถ้าส้นเตี้ยสีแดงเปรี้ยวเยี่ยวราดยังไงไม่เป็นไร
เดี๋ยวนี้มีการจับส้นเตี้ยรัดส้นแบบโล้นๆมากขึ้น แต่ถ้าเป็นส้นสูงรัดส้น ดูโล้นๆยังไงยามไม่จับ
มาตรฐานเหล่านั้นดูแปลกๆนิดนึง
ปัญหาจะไม่เกิดมากหรอกถ้าเค้าคนนั้นไม่ใช้ป้า

และเค้าไม่มีอ่อนให้คุณนะ ถ้าเค้าจะเอา 
ก็ให้ไปเถอะ เพราะยังไงเค้าก็จะเอา 
โดนโทษอะไรทีหลังก็ระวังดีๆอย่าไปผิดซ้ำอีกนะ

*

obama

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #22 on: June 27, 2011, 04:21:20 PM »
nicee !
อ่านมันมากเลยครับ  :332f960b:

*

ซามิบ

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #23 on: July 08, 2011, 01:34:05 PM »
อ่่านจนตาลาย หุหุ :54bd3bbb:

*

over acid rain

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #24 on: August 05, 2011, 09:34:36 PM »
อุ้ยโทษที หายไปนานมาก เพิ่งมาช่วยตอบกระทู้เมื่อกี้และเพิ่งหากระทู้นี้เจอ ต่อๆอีกซักหัวข้อแล้วกัน


การลงทะเบียน : ขั้นตอนทั้งหมด รหัสวิชา การจ่ายตังค์ ที่นั้ง ห้องทะเบียน adviser

สำหรับการลงทะเบียนหลายๆคนก็อาจจะรู้สึกว่าเป็นปัญหานึง เพราะงงมาก
แต่ขอแนะนำง่ายๆ ไม่ว่าเราจะเลขข้างหลังอะไร ก็ไม่ต้องเสียใจหรอก วันนึงเราอยู่หลังๆ ปีต่อๆมาก็จะได้อยู่หน้าๆเอง
ทุกคนก็จะต้องเจอชะตากรรมเลยท้ายอยู่หลังแทบทั้งนั้น
เลขไหนไม่สำคัญ สำคัญที่เราเตรียมตัวพร้อมไหม

อย่างแรกของการเตรียมตัว ขอพูดถึงรหัสวิชาก่อนนะคะ
การเลือกลงวิชา ถ้าไม่รู้จะตัดสินจากอะไร
ถามจากเพื่อนก็บอกวิชานั้นนู้นนี่ก็ยาก มีแต่ยากๆๆๆ แล้วถ้าไม่ลงจะจบไหม
ก็จะขอแนะนำว่า วิชาพวกBGอะไรพวกนี้จะเป็นพวกพื้นฐาน
ตัวเลขหน้ารหัสวิชาเช่น1200 จะเป็นวิชาของปี1 ถ้า2400 ก็ปีสอง ดูตามเลขข้างหน้านะคะ
ดังนั้นวิชาคณะส่วนใหญ่จะเป็น 3,4นำหน้า
การเตรียมพร้อม ควรดูหลายๆเซคไว้ ทำตารางเรียนหลายๆอัน
เลือกดูหลายๆวิชา อย่างแรกเลยก็ควรจะวางแผนก่อนว่าในเทอมนั้นไปจะลงทะเบียนกี่วิชา
ถ้ายังอยู่ปีต้นๆ กลัวปรับตัวไม่ทัน จะลง15เครดิตก็สามารถทำได้ ไม่ทำให้จบช้าเกินไป(ถ้าไม่ตกหลายๆรอบนะคะ)
คือจะลงกี่วิชา ถ้าสามารถทำตารางให้เสร็จตั้งแต่ช่วงpre-regisจะทำให้เราสบายตัวมากๆ (ซึ่งหลายๆคนสามารถทำได้นะคะ) แต่ปัญหาอีกอย่างของการลงได้ไม่ครบคือ ไม่อยากลงกับอาจารย์ที่ไม่มีคนแนะนำมาว่าใจดี
อยากบอกอย่างนึงว่าเราเคยเรียนมาทั้งใจดี ใจดีมาก โหด โหดมากๆ อาจารย์ใจดีก็มีข้อดีตรงที่เราไม่เครียด
เรียนชิวๆ บางทีถึงกับไม่ไปเข้าเรียน แต่อาจารย์ก็ไม่ว่าอะไร ดูเหมือนจะดี แต่ลองคิดดูดีๆนะคะว่าดีไหม
กับอาจารย์ที่โหด พวกเราจะเครียด แต่พอถึงเวลาเรียน นั่งกันเต็มห้อง ไม่มีเลท เวลาเรียนไม่มีเสียงดังรบกวนแม้แต่น้อย
หรือถ้ามี เราจะได้ดูการเชือดไก่โชว์เลยทีเดียว ดังนั้นเราเห็นแบบนี้ ขอเลือกเป็นลิงต่อไป
และข้อดีอีกข้อนึงก็คือ เวลามีสอบ มีควิส หรืออะไรก็แล้วแต่ เราจะอ่านหนังสือมาก หรือไม่ก็ตั้งใจเรียน เพราะกลัวตอบในห้องไม่ได้
สนใจการทำรายงาน เพราะบางทีข้อสอบจะมีเนื้อหามาจากรายงานบ้าง ดังนั้นใครทำใครได้
ลงๆไปก่อนก็ได้แล้วจะย้ายหรือยังไงก็ไปวันAdviserอีกทีก็ได้
แต่วันพบadviserควรจะเป็นวันสุดท้ายของการปรับแต่งตารางแล้วนะคะ เพราะถ้าเกินจากนี้ เสียตังค์แล้ว

พอจบช่วงนี้ พวกเราก็จะถึงช่วงสอบ(ซึ่งขอพูดในหัวข้อต่อไป)
หลังจากสอบเสร็จ เราจะมีช่วงของการทำตารางเรียนของเราอีกครั้ง ช่วงนี้เรียนว่าวันพบAdviser
ซึ่งเราสามารถเช็คชื่อได้ว่าตัวเองต้องพบอาจารย์คนไหนวันไหน ถ้าจดไว้ก็จะเป็นประโยชน์ค่ะ เพราะถึงวันก็ต่อคิวเข้าโซนได้เลย
แต่ถ้าไม่ได้จดไป ดูแต่วัน ก็ไปไล่ดูที่บอร์ดด้านหน้าก็มีบริการค่ะ
ส่วนการเช็คชื่อและวันที่ต้องไปพบ สามารถดูได้ที่ www.au.edu แล้วloginเข้าไป หาหัวข้อเกี่ยวกับ adviser นะคะ
ข้อมูลจะมีตอนใกล้ๆถึงช่วงนะ ถ้าเราไปเช็คก่อนถึงช่วง มันก็ยังไม่มีข้อมูลให้นะคะ
การไปพบที่ปรึกษา ถ้าเรายังไม่ได้เลือกคณะ ระบบก็จะสุ่มอาจารย์ให้เรา แต่ถ้าเราเลือกคณะแล้ว อาจารย์ที่ปรึกษาก็เราก็จะเป็นอาจารย์ประจำคณะตลอดไปจนจบนะคะ หรือถ้าย้ายคณะก็อีกเรื่องนะ
ส่วนถ้าคนที่เตรียมพร้อมมาแล้ว ไม่มีแอดไม่มีเปลี่ยนตารางอะไร อาจารย์ก็จะคุยง่าย คุยแปบเดียว เซ็นต์ แล้วเราก็ส่งเอกสารและออกได้เลย
แต่ถ้ายังมีอะไรจะแอดจะเปลี่ยน อาจารย์บางคนก็จู๋จี้มาก บางทีเราอาจจะไม่ได้ในสิ่งที่เราต้องการ
แต่ว่าที่อาจารย์ไม่อนุญาตอาจจะเพราะเราเครดิตไม่ถึงจริงๆ คือมันก็ต้องมีเหตุผลที่อาจารย์ไม่อนุญาตนั้นแหละไม่ใช่ไม่มีเหตุผลอะไรนะคะ
ซึ่งถ้ามีแอดมีเปลี่ยนอะไรพวกนี้อะ ก็จะนานมาก บางคนแทบเป็นลมตายเพราะไม่ได้กินข้าว จะออกไปแล้วเข้ามาทำใหม่ก็กะไรอยู่
หลังจากช่วงนี้ไปแล้ว พวกเราก็อาจจะได้มีวันหยุดประมาณอาทิตย์กว่าๆ (เวลาโดยประมาณทั้งช่วงตุลา และซัมเมอร์)

**นักศึกษาเอแบคนิยมเรียนซัมเมอร์นะคะ ดังนั้นการปิดเทอมบางทีก็เหมือนไม่ปิด แต่ก็มีบางเทอมที่เลือกไม่ลงเพราะไป
Work&travel

พอมาถึงช่วงจ่ายตังค์ เราสามารถจ่ายทางonlineได้ซึ่งสะดวกมาก แล้วสามารถมารับใบเสร็จได้ตอนเปิดเทอมที่ห้องทะเบียน ใครที่เลือกแคมปัมหัวหมากก็รับใบเสร็จได้ที่หัวหมาก ถ้าบางนาก็รับบางนานะคะ แต่ถ้าเลือกหัวหมากตอนแรก
แล้วปีหลังๆย้ายไปเรียนบางนา เค้าดูที่เราลงทะเบียนแล้วก็จะปริ้นไว้ที่บางนา (ฟังดูงงนะ555)

หรือถ้ามามหาลัย อาจจะเจอปัญหาคนเยอะบ้าง วุ่นวายบ้าง
แต่ถ้าจ่ายตังค์อย่างเดียวก็จะเร็วกว่าคนที่มาลบวิชาหรือเปลี่ยนวิชา กรณีที่ตกอิ้งนะคะ
ในช่วงนี้ อนุญาตแค่ลบวิชา และเปลี่ยนเซคอิ้งนะคะ หรือลบวิชาโดยไม่เสียตังค์เท่านั้น
(สำหรับBBAนะคะ)

**ระหว่างการติดต่อไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในมหาลัย ถ้าพกเงินสดกับตัว ระวังกันด้วยนะคะ
ไม่แนะนำให้มานับถือโชว์ไปมา ถ้าใครมาเสนอตัวว่าเป็นใครหรือแม้แต่อาจารย์ จะวานไปไหนแล้วต่อคิวให้
อย่านะคะ อย่าให้คนที่เราไม่เคยรู้จักมาเสนอจะช่วยอะไร เพราะบางทีคนเหล่านั้นอาจเป็นมิจฉาฉีพได้

การจ่ายตังค์ก็มีหลายแบบ เอาไอดีการ์ดมารูดแล้วกดรหัสให้หักตังค์ก็ได้ จ่ายด้วยเงินสด จ่ายด้วยเช็คสั่งจ่ายมหาลัย
จ่ายด้วยเครดิสอันนี้ก็มีหลายบัตร ค่าธรรมเนียมแตกต่างกันนะคะ สามารถขอข้อมูลเพิ่มได้ที่ฝ่ายการเงินนะคะ

*

Unlucky

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #25 on: December 16, 2011, 06:59:13 PM »
ใครเรียนจบ ถ้าไม่อยากได้โรคประสาทเป็นของแถม อย่าไปทำงานที่บริษัทขายน้ำตาลทราย แถวนางเลิ้ง เพราะมีเอ็มดีนรกชั้นเก้า อีคิวต่ำ คอยต้อนรับขับไล่อยู่ ชอบด่าพ่อแม่พนักงานให้พนักงานฟัง มันจะเอารองกรรมการผู้จัดการผมสั้นหาสามีไม่ได้ทำตาขวางใส่ ตั้งแต่คุณมาสมัครงาน  ที่นั่นมันยิ่งกว่าโรงพยายาลบ้าอีก  ชอบหลอกใช้คนไปวันๆโดยเฉพาะฝ่ายบุคคลพนักงานของญาติตัวเอง  

ปี 2546 นอกบริษัท สะใภ้แก่เหี่ยวสุดๆ ลงโลงศพหรือยังก็ไม่รู้ มันก็โดนจี้สอบพฤติกรรมเรื่องโกงสมาชิกที่มาเล่นกอล์ฟในสนามกอล์ฟที่ตัวเองมีหุ้นส่วน   ทุเรศจริงๆ

ปี 2554 มันให้เอ็มดีๆผู้ชาย ตัวโย่งๆ มาเป็นตัวแทนบริจาคกระสอบน้ำตาลทรายกลุ่มไทยอะไรก็ไม่รู้ที่ดอนเมือง พวกชั่วๆทำบุญเป็นด้วยหรือ กลัวไม่รู้ว่าพวกมันยังไม่ตาย  ยัยแก่รู้ว่าพนักงานเก่าที่มันไล่ออกจากหลักฐานเท็จที่สร้างขึ้นมาต้องดูทีวีแน่ๆ แต่เปลี่ยนช่องไม่ทัน  หาว่าไปด่าลูกค้า ลูกค้าต่างหากตะคอกด่าเราตามคำเสี้ยมของมัน ตอนนี้มันได้เสี้ยมในตลาดนัดจตุจักร เซ็นทรัลลาดพร้าว  เดอะมอลล์บางกะปิ ขอโทษที่เอ่ยชื่อห้าง เพราะพวกมันแกล้งเราจริงๆ  มีพ่อค้าแม่ค้าบ้าตามมันแล้ว

หมายเหตุ ใครเป็นลูกเมียน้อย ถ้าเป็นผู้หญิง อย่าไปสมัคร ชัยพร ขี้ข้าของเอ็มดีนรก มันจะหลอกไปแกล้งว่าไปกินข้าวที่กรมวิเทศน์ แล้วตลบแตลงว่า คุณอยากเป็นเมียน้อยมันต่อหน้าลูกค้าของบริษัท ทั้งที่หน้ามันแย่ยิ่งกว่าเท้าสุนัข   สั่งให้กอดแฟ้มแน่นๆ ให้หน้าอกคุณแนบกับแฟ้มของมัน ไอ้คนลามก ตัวอันตราย เอ็มดีกลับไม่ไล่มัน
  



*

NaTaKrit Nganchamang

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #26 on: March 14, 2012, 09:36:41 PM »
อ่านจนตาลายเลยครับ 5555  แต่ก็มีข้อคิดที่ดีมากมายมหาศาลมากเลยครับ เช่น วิชาการ(Academics) ทักษะ(skill) จิตวิทยา(psychology) และ ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับมหาลัย(Information about to campus) ขอบคุณมากๆครับผม

*

dk

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #27 on: May 03, 2012, 06:02:04 PM »
 :af48944b:Thank you.....get A na

*

ตา

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #28 on: May 08, 2012, 08:45:53 AM »
ขอถามนิดนึงค่ะ พอจะรู้มั้ยคะว่า จะหาหนังสือคู่มือนักศึกษา ABAC ปีเก่าๆใด้ที่ไหนบ้าง หรือว่่าจะเป็นห้องสมุดมหาวิทยาลัยคะ

*

ตา

  • Guest
Re: คู่มือนักศึกษาเอแบค
« Reply #29 on: May 08, 2012, 08:49:31 AM »
เอ่อ ลืมบอกเบอร์ติดต่อ ใน facebook ก็ใด้ค่ะ Dta Patcharin ค่ะ เป็นคู่มือช่วงปี 2000-2004 ใด้ยิ่งดีเลยค่ะ ขอบคุญมากค่ะ