เอาที่พอรู้นะคะ ไม่แม่นเท่าไหร่ เพราะอยู่ปีหนึ่ง เท่าที่หาข้อมูลมา 2 เมเจอร์ ได้ดังนี้
1.Finance
1.1" มีคำนวณพอสมควร แต่ท่องจำก็เยอะเช่นเดียวกัน มีพวกพรีเซ้นท์ และนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ต่าง ๆ เช่น การลงทุน ไม่แน่ใจเรื่องเกรด
1.2" มีสองสาขาในแพลนเอ นั่นคือ
- investment เน้นการลงทุน เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ ความปลอดภัยในการลงทุน
- financial institutions concentration เน้นเกี่ยวกับสถาบันการเงิน เช่น ธนคาร หรือ บริษัทหลักทรัยพ์ การวิเคราะห์ความเสี่ยงต่าง ๆ
1.3" เมเจอร์การเงิน เหมาะสำหรับคนที่ชอบคิดคำนวณ เน้นประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ชอบการลงทุน และแสวงหาความรู้ได้เรื่อย ๆ เพราะต้องศึกษาข่าวเยอะ
สำหรับงานของเมเจอร์นี้จะเริ่มตั้งแต่ นักวิเคราะห์ ( ต้องปริญญาโท ปริญญาตรีเป็นได้แค่ ผู้ช่วย) , investment banking ( ส่วนมากโท
แต่ถ้าตรีก็ต้องเก่งจริง ๆ ) , marketing ( หรือนายหน้าค้าหุ้นนั่นเอง เงินเดือนไม่มี มีแต่ค่าคอม ) , และอาชีพอื่น ๆ อีกเยอะ ส่วนมากทำงานใน set ,
bank , or บริษัทหลักทรัยพ์ต่าง ๆ
2. Accounting
2.1" เน้นปฎิบัติอย่างแน่นอน แต่ทฤษฎีนั่นก็ต้องแม่นก่อนเช่นกัน สามารถทำความเข้าใจกับเนื้อหาที่เรียนได้ ไม่ใช่เอาแต่จำ ๆ เกรดไม่แน่ใจเช่นกัน
2.2" มีสองสาขาใน plan a ได้แก่
- auditing อันนี้คือเน้นไปทางตรวจสอบบัญชี เหมาะสำหรับผู้ที่จะทำ auditor
- cost accounting หรือบัญชีต้นทุน เน้นไปทางทำงานที่บริษัท
2.3" เมเจอร์นี้เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ฮ่า ๆ คือคนส่วนมากจะคิดว่าบัญชี ต้องนั่งทำแต่บัญชีรายรับรายจ่ายอยู่ที่โต๊ะ เป็นสาวแก่ใส่แว่น
แต่ในความจริงนั่นเป็นแค่พนักงานบัญชีตามบริษัททั่วไป สำหรับคนที่ชอบเดินทาง ชอบพบปะผู้คน หรือความท้าทาย ก็มาเป็นออดิทได้
จบมาก็มีอยู่สองทางให้เลือกว่าจะเป็น auditor ( จบตรีได้แค่ผู้ช่วยก่อน ) , หรือจะเป็นพนักงานบัญชีก็ได้ ที่ดัง ๆ สำหรับบัญชีนั่นคือ
big4 ( audit ) สตาร์ทที่ 18k และ exxon , scg , p&g , uniliver , etc. สตาร์ทที่ 20k ++ แต่ในระยะยาวแล้ว ( 4-5 ปีขึ้นไป)
เงินเดือนออดิทจะสูงกว่าเพราะเป็นการก้าวกระโดดอย่างขั้นบันได อย่างไรก็ตามไม่ค่อยมีคนทำออดิทได้นานเนื่องจากงานโหดและหนักมาก
สุดท้ายนี้โดยส่วนตัวชอบทั้งสองเมเจอร์ ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ = ='