เคยไหมที่คุณรู้สึกว่าลืมนั่นลืมนี่ เช่น ลืมเอาการบ้านที่ต้องส่งวันนี้มา หรือซื้อของไม่ได้เพราะดันลืมโน๊ตที่จดไว้ว่าจะซื้ออะไรไว้ที่บ้าน
อย่า! อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าคุณเริ่มแก่ สมองเริ่มเสื่อมแล้ว
คุณรู้มั้ยว่า
พฤติกรรมซ้ำๆ ทำให้สมองฝ่อได้
ในโลกที่เราคาดเดาเกือบทุกอย่างได้ล่วงหน้า กิจวัตรส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมจากจิตใต้สำนึก ที่เรากระทำโดยใช้พลังจากสมองน้อยมาก ทำให้ไม่ค่อยมีการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์ประสาทในสมองชั้นนอก สมองจึงไม่ค่อยได้ออกกำลัง
เมื่อคุณทำกิจกรรมเดิมๆทุกวัน คุณก็จะใช้้ประสาทเฉพาะส่วนนั้นๆ เป็นประจำส่งผลให้เซลล์ส่วนนั้นแข็งแรง แต่ขณะเดียวกันประสาทส่วนอื่นๆกลับอ่อนแอเพราะถูกละเลย ถ้าสมองได้รับสิ่งใหม่ๆ ส่วนของสมองชั้นนอกหลายส่วนจะมีกิจกรรมมากขึ้นและหลากหลายขึ้น และเกิดการเชื่อมโยงเซลล์ประสาทสมองส่วนต่างๆในรูปแบบใหม่ ส่งผลให้มีการหลั่งสาร นิวโรโทรฟินส์ หรืออาหารสมองมากขึ้น เซลล์สมองจึงแข็งแรงขึ้น
เรามาดูกันดีกว่าว่า 4 วิธีฟิตสมองมีอะไรบ้าง
1. หลับตาอาบน้ำ เปิดก็อกน้ำ ปรับความแรงหรืออุณหภูมิของน้ำโดยใช้ประสาทสัมผัสและความรู้สึก (คำเตือน อย่าลืมฝึกวิธีปรับอุณหภูมิให้แม่นก่อนลงมือจริง เพื่อป้องกันน้ำร้อนลวกตัว) หลับตาใช้มือสัมผัสหาอุปกรณ์อาบน้ำ จากนั้นจึงล้างหน้า อาบน้ำ
2.เกมสลับมือ ขยับสมองคือฝึกใช้มือข้างที่คุณไม่ถนัดทำกิจกรรมที่คุณเคยทำอยู่ทุกวัน เช่น
– ถ้าคุณแปรงฟันด้วยมือขวา ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นมือซ้าย
– ใช้รีโมทมือซ้าย ก็เปลี่ยนมาเป็นมือขวา
– ลองเขียนหนังสือมือซ้ายดูบ้าง
3. อยู่ในโลกไร้เสียง ปิดหูด้วยการใส่หูฟังขณะรับประทานอาหารกับครอบครัว เพื่อสัมผัสโลกเงียบ คนใกล้ตัวคงเคยบ่นว่าคุณฟังสิ่งที่เขาพูดเพียงครึ่งเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่มักเกิดขึ้นตอนยุ่งอยู่ ลองฝึกตัวเองด้วยวิธีนี้ จะทำให้คุณบังคับตัวเองให้ใช้ตัวช่วยอื่นในการทำกิจกรรม เช่น คุณรู้ว่าขนมปังปิ้งที่อยู่ในเครื่องปิ้งได้ที่แล้ว โดยไม่ต้องพึ่งเสียง
4. เช้าวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ลองเลือกกิจกรรมต่อไปนี้หนึ่งหรือสองข้อ แต่ไม่ควรทำหมดทุกข้อในเช้าวันเดียวกัน
– สลับลำดับกิจวัตรตอนเช้า เช่น ถ้าคุณเคยแต่งตัวก่อนกินข้าว ลองเปลี่ยนมากินข้าวก่อนแต่งตัว
– ถ้าคุณเคยรับประทานกาแฟกับขนมปังทุกเช้า ลองเป็นข้าวโอ๊ตและชาสุขภาพ หรืออาหารอื่นบ้าง
– เปลี่ยนเสียงนาฬิกาปลุก เปลี่ยนรายการวิทยุ หรือทีวีไปเป็นรายการที่คุณไม่เคยฟัง
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราก็มาหมั่นฝึกสมองกันเถอะ