ใกล้สอบแล้ว (อ่านเองVSเรียนพิเศษ) เลือกแบบไหนดี??

ใกล้สอบเข้ามาทุกทีแล้ว!!!

เตรียมตัวพร้อมกันแล้วรึยัง
วันสอบใกล้เข้ามาทุกทีแล้วนะ ทุกคน!!!

มาดูกันว่าเราเหมาะกับแบบไหน
ไปดูกันเล้ยยยยยยยยยยยยย

การอ่านเอง

การอ่านหนังสือเองนั้นเหมาะสำหรับคนที่ชอบสร้างเทคนิคการจำพิเศษให้กับตัวเอง เพื่อที่ตัวเองจะได้จำแม่นขึ้น โดยการอ่านหนังสือเองจะทำให้ข้อมูลนั้นอยู่กับเราได้นานเพราะเราอ่านเองสรุปด้วยความเข้าใจของตัวเอง
โดยจะมี ข้อดี ดังนี้

ประหยัดค่าใช้จ่าย
เลือกเวลาและสถานที่ทบทวนได้เอง
ปรับความเร็วในการอ่านได้ตามใจชอบ
ได้สรุปที่ได้จากความเข้าใจของตัวเองจริงๆ

นอกจากนี้ยังมี ข้อเสีย ดังนี้

ใช้ความพยายามอย่างมาก
ไม่เหมาะกับคนที่หลุดโฟกัสได้ง่าย
ใช้สมาธิสูง
ใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ
ถ้าไม่เข้าใจต้องค้นข้อมูลเอง

การเรียนพิเศษ

การเรียนพิเศษเปรียบเสมือนเรามีทางลัด เพราะข้อมูลนั้นเปรียบเสมือนถูกย่อยมาแล้วเราแค่นั่งจด และจำส่วนที่สำคัญเอาไว้ หากเป็นการคำนวณก็จะเป็นการฝึกทำโจทย์หลายๆแบบให้เข้าใจและทำข้อสอบได้ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลามาอ่านเอง
โดยจะมี ข้อดี ดังนี้

มีความเป็นส่วนตัว
เรียนซ้ำได้ทุกเมื่อ
กรอไป-มาได้ถ้าไม่เข้าใจ
มีเวลาในการจดสรุป
เลือกเวลา+สถานที่เรียนได้
ไม่ต้องเดินทาง
ทบทวนได้ทุกเวลา
ประหยัดเวลาในการอ่าน
ได้โจทย์+เฉลย

นอกจากนี้ยังมี ข้อเสีย ดังนี้

ต้องมีวินัยในการเรียน
วอกแวกได้ง่าย
ต้องมีสมาธิคุมตัวเองให้ได้
เสียค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้พี่ๆ ก็ได้เตรียม เคล็ดลับ!!! เตรียมตัวก่อนสอบ รับรองว่าถ้าทำตามนี้สอบผ่านชัวร์

1. จัดวางลำดับวิชา และเนื้อหา
การทำตารางอ่านหนังสือ ให้เริ่มอ่านจากวิชาที่สอบตัวแรกไปจนตัวสุดท้าย หากมีวิชาคำนวณก็ให้จัดสลับกันไป เน้นทำน้อยๆแต่ทำทุกวัน ไม่จำเป็นว่าต้องอ่านวิชาเดียวทั้งวันก็ได้ สามารถจัดสลับๆกันไป ควรอ่านให้จบทุกวิชา ซัก 1 อาทิตย์ก่อนสอบเพราะ จะได้รู้ว่าเรายังมีอะไรที่สงสัยอีกบ้าง แล้วเวลาที่เหลือก็อาจอ่านอีกรอบเพื่อเพิ่มความแม่นยำ เพราะฉะนั้น ไม่น่าแปลกใจเลยใช่มั้ยล่ะ ทำไมเพื่อนบางคนใกล้สอบแล้วยังเล่นเกม แต่ได้ A เกือบทุกวิชา

2. จัดตารางเวลาอ่าน
แนะนำว่าให้น้องๆ เช็คตารางสอบของตัวเองให้ดีว่าวิชานั้นสอบวันไหน เวลาอะไร และจดบันทึกวัน-เวลาเอาไว้ ถ้าจะให้ดีตั้งปฏิทินก่อนวันสอบเอาไว้ เราจะได้ไม่พลาดอ่านหนังสือและลืมเวลาสอบ ไม่ควรหักโหมในการอ่านเพราะจะทำให้จำเนื้อหาไม่ได้ ควรอ่าน 35 นาที พัก 5 นาที จะทำให้เราอ่านได้นานขึ้น

3. จดสรุป, Mind Mapping , ถาม-ตอบ
วิธีที่จะทำให้เราจำเนื้อหาได้ดีคือการสร้าง Output เช่น การจดสรุป การทำMind Mapping และการถาม-ตอบกับเพื่อน สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการสร้างOutputให้ตัวเองจำเนื้อหาได้เเม่น เพราะบางคนไม่ชอบจดแต่ใช่การท่องจำ นั่นทำให้เราลืมได้เร็ว ดั้ชงนั้นการถาม-ตอบกับเพื่อนจึงเป็นการตอบโจทย์คนขี้เกียจจดได้มากที่สุด

4. มีวินัย หมั่นทบทวน
การมีวินัยคือการที่เราต้องทำสิ่งนั้นซ้ำๆ จึงไม่เเปลกที่เราจะเบื่อการอ่านหนังสือ ดังนั้น เราต้องหมั่นหาสิ่งยึดเหนี่ยวให้เราสามารถทำสิ่งนั้นจนบรรลุผลได้ เช่น การตั้งเป้าหมายว่า ถ้าอ่านเสร็จบทนี้ จะไปพักอ่านนิยาย 5 นาที หรือสามารถหาสิ่งจูงใจเป็นอย่างอื่นก็ได้ นอกจากนี้การทบทวนบ่อยๆก็จะทำให้เราจำได้แม่น อาจแค่พูดถึงบทเรียนกับเพื่อน หรือพูดกับอาจารย์ ก็จะทำให้เราจำได้อย่างอัตโนมัติ

5. ไม่หักโหมวันก่อนสอบ
พี่ๆเชื่อว่ามีน้องๆหลายคน ชอบ One night miracle ซึ่งเป็นปกติก็จริงเพราะช่วงใกล้สอบเราต้องทำรายงานส่งจนไม่มีเวลาอ่านหนังสือ แต่ว่ามันจะทำให้น้องๆจำเนื้อหาไม่ได้ น้องๆต้องมานั่งอ่านสไลด์เป็นร้อยๆหน้าภายในคืนเดียวจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่น้องๆจะได้ A ในวิชานั้นๆ เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่อยากใช้แต้มบุญเสี่ยงดวง ก็รีบทบทวนก่อนสอบนะคะ

ถ้ายังไง๊ ยังไง ก็อ่านไม่ทันจริงๆพี่ๆได้เตรียมบทสวดมาให้น้องๆแล้วค่ะ
คาถาพระอินทร์ ที่จะช่วยในการเดาข้อสอบเพิ่ม% ความมั่นใจให้น้องๆ
”สหัสสเนตโต เทวินโต ทิพพจักขุง วิโสทายิ”

คว่ำกระดาษคำถามลงก่อน แล้วท่องนะโม 3 จบ ตั้งจิตระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูและสำคัญที่สุดคือ พระอินทร์ จากนั้นให้ท่องคาถาแบบสั้น 3 จบ หากยังทำไม่ได้ให้คว่ำกระดาษลงแล้วท่องอีก 7 จบ จากนั้นให้เริ่มทำข้อสอบตามความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาและจงเชื่อในสัญชาตญาณแรก

สุดท้ายนี้ ประหยัดเวลา ไม่ต้องพึ่งคาถา พึ่งตัวเองดีกว่าดวง
ใกล้สอบแล้ว แต่ก็ยังพอมีเวลา ถ้าน้องๆกลัวอ่านไม่ทันจริงๆ
มาเรียนกับ ABACTODAY สิคะ เรียนออนไลน์ สะดวก สบาย
เราคัดสรรมาให้น้องๆแล้ว

wordpress-394010-5268841.cloudwaysapps.com/tutor-center/

Facebook : ABACTODAY.com

Instagram : @abactoday