เตือนภัย!!!! พวกขอรับบริจาค
เตือนภัยพวกมิจฉาชีพ!!! เดินขอรับบริจาคเงินตามบ้าน มีใบเสร็จรับเงินให้ (ใบเสร็จรับเงินซื้อได้ทั่วไป) ทำเป็นขบวนการ โดยเงินที่ได้รับบริจาคมาคนที่เดินขอได้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งคนที่ขับรถได้ ไม่ได้เข้ามูลนิธิแม้แต่น้อย พวกนี้ใช่ชื่อว่า “มูลนิธิ######การกุศล” ที่ทราบข่าวนี้เพราะว่าคนที่ไปทำเคยเป็นพนักงานของบริษัทที่บ้าน ลาออกไปทำแล้วมาชักชวนพนักงานในบริษัทไปทำด้วย เราไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเขาไม่ใช่พนักงานในบริษัทเรา ก็ได้แค่พยายามเตือนพนักงานในบริษัทเราไม่ให้ไปทำเรื่องไม่ดี อยากขอเตือนเพื่อนๆว่า อย่าไปบริจาคเงินให้กับพวกมิจฉาชีพพวกนี้ และฝากเพื่อนๆกระจายข่าวต่อให้ผู้อื่นทราบด้วยนะค่ะ
อีควายมึงใม่รู้จริงมึงมาว่าเค้ามึงเสียผลประโยชน์มึงเลยมาเที่ยวว่าเค้าถ้ามึงว่าเค้าหลอกลวงมึงไปฟ้องศาลแล้วก็ใปแจ้งความกับตำรวจสิถ้ามึงแน่จิงมึงให้ที่อยู่มาอยากจะรู้ว่าเปนใครเที่ยวมาใส่ความคนอื่นเค้าท่านประธานเค้าก็ยังรับราชการอยู่เค้าคงใม่เอาตำแหน่งเค้ามาเสียหายหรอกถ้าเค้าใม่มีจิงเค้าคงใม่มาเรี่ยไรหรอก อีควาย
เห็นด้วยครับ
วันนี้มีนายพลทหารเรือ แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ไร้ศักศรี ไปเที่ยวแจ้งจับอาสาสมัครเดินเรี่ยไร กล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสาร อย่าไปใส่ร้ายเด็กมันเลย เป็นบาปเปล่า ๆ ต้องรู้ว่าต้นตอมาจากไหน ขัดแย้งผลประโยชน์ภายในกันนะซิ ทำอย่างนี้ไม่ถูกนะ เดี๋ยวเรื่องมันจะบานปลาย ถึงขั้นปิดมูลนิธิเชียวนะ
มีกระแสข่าวสะพัดออกมาว่าประธานมูลนิธินายพลทหารเรือเรียกเก็บเงินจากพนักงาน เพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือขอใบอนุญาตเดินเรี่ยไรคนละ 5 พันบาท แต่พนักงานบางคนไม่ยอมให้เงิน ทำให้หัวเสีย จึงแจ้งให้ตำรวจจับ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรไม่ทราบ ช่วยตรวจสอบด้วย
วันที่ 19 ส.ค. 54 มีคนมาเดินรับบริจากไม่แน่ใจว่าเป็นคนของมูลนิธิหรือเปล่า
วันที่ 19 ส.ค.54 มีคนเดินเนี่ยไร รับบริจาก ผมไม่แน่ใจว่าเป็นคนของ (มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริอญธรรมการกูศล)
ผมสงสัยจึงมาเปิดดูใน (เว็บ) เลยมีความสงสัยว่าจะโดยหลอก คนที่มาเดินเรี่ยไรเค้าลงชื่อว่า… กิมรัด…
ผมอยากให้ ทีมงานของมูลนิธิช่วยตรวจสอบให้ที่ครับ มีความคืบหน้ายังไงส่งข่าวผมที
บางทีอาจจะจับคนที่คิดไม่ดีก้อได้นะครับ E mail sodanaom@hotmail.co.th โทร. 083-598562 จ.ตราด
(ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ)
…นาย โสภณ ท่าพรก…
2คนนี้ใด้ชอ่โกงเงินมูลนิธิจริง
นางจันแรมใด้เป้นคนพิมใบเสร็จขายให้แก่พนักงานจริงแต่พนักงานอาสาไม่รุ้เรืองว่าเป้นใบเสร็จปลอ่มและท่านประธานก็ไม่รุ้เรืองและยังพิมใบเสร้จของมูลนิธิอื่นขายอีกหลายที่ขอเตือนมุลนิธิๆดว้ยนะครับ
อ้อนางจัทรแรม ทุ้งแจ้งใช้มัยนี้แหละตัวขี้โกงกับผัวมันนะไอ้ผู้พันข่มขู่เอาดาม้ปืนตบหัวผัวหนูตอนอยู่สมาคมเก่ากับนอ้งชายหูนเป็นยามให้ผัวมันสาทุขอให้เวรกรรมตามทันมันทีเถอะ
ทำบุญไป 100 กับมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เริญธรรมการกุศล กลัวโดนหลอกเหมือนกัน ได้ใบเสร็จด้วย ตรงใบเสร็จเขาไม่เขียนชื่อ แต่เซ็น เราโทรไปถามมูลนิธิ ปรากฎว่ามีอยู่จริง แต่ไม่รู้ชื่อคนรับเงิน จึงบอกไม่ได้ว่าจริงหรือปลอม แต่เราอยากทำบุญมากจนไม่คิดอะไร เพราะอยากช่วยคนโดนนำท่วม แต่ถ้าเขาหลอกเราก็เป็นเวรกรรมของเขาเองนั่นละคิดอย่างนี้แล้วสบายใจดี แต่ต่อไปจะทำบุญต้องตรวจสอบให้มากกว่านี้ เราเป็นคนบุรีรัมย์
ผมใด้ทำบุญกับนอ้งผู้หญิงหน้าตาดีสุภาพเรียบร้อยพูดจาดีที่บิกซีสุวินทวงค์ไป1000บาทและน้องเขาแนะนำให้ผมนะจุดธูป1ดอกแล้วอธิฐานให้แก่เจ้ากรรมนายเวรแล้วกรวดน้ำด้วยตั้งโต๊ะบริจาคดูเรียบร้อยไม่ใด้เดินตื้อเหมือนคนอื่นตามบ้านเลยครับผมชอบมากจะใด้เจอนอ้งเขาอีกเมือ่ไรก็ไม่รู้ผมก็เลยมาเปิดดูในเวปมูลนิธิฯเพราะนอ้งเขาบอกว่าถ้าเปิดดูแล้วประธานเป็นพลเรือเอกก็มีจริง ใครรู้เบอร์นอ้งเขาช่วยดพสบอกผมทีผมจะมาเปิดดูภายหลัง
หนูคิดว่าคนเราก่อนที่จะว่าอะไรใครหน้าจะดูตัวเองเสียก่อนนะค่ะ ว่าตัวเองทำความดีอะไรบ้างทำกรรมกับใครไว้บ้างอย่ามาใช้คำพูดที่ไม่สุภาพส่อความรู้ที่ต่ำๆว่าคนอื่นเสียหาย
ดิฉันก็เจอเหมือนกันค่ะทำบุญไป100บาทแต่เวลาดิฉันจะโทรสอบถามว่ามูลนิธิอินทรบุญฤทธิมีจริงหรือเปล่า แต่อาสาเขาบอกให้ดิฉันโทรเขาเบอรของรองประธานคุณจันฉาย0855157154ทำมัยไม่ให้โทรเขาเบอรมูลนิธิละค่ะพอโทรเข้ามูลเขาบอกว่าออกไปแล้วพอถามเหตุผลคนรับโทรศัพบอกว่าให้ดิฉันไปเปิดในเวปของมูลนิธิดูจะหาว่าใส่ร้ายคุณจันฉายพอเปิดดูก็พึ้งจะถึงบ้างอ้อเพราะคนนี้ใด้ทุจริตมูลนิธิกับคุณจันแรมและใด้ให้ออกจากที่ทำงานแล้วที่ระยองพอแจ้งดำรวจเขาก็หนีไปแล้ว
เรียน ประธานมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล ขณะนี้ชาวบ้านทางภาคเหนือ ภาคกลาง ประสบอุทกภัย มีความเดือดร้อนมาก กรุณานำสิ่งของมาช่วยด่วน อย่ามัวแต่ส่งลูกน้องมาเรี่ยไรเอาเงินยัดห่าอย่างเดียว จนพุงกาง อ้วนเหมือนหมู เดี๋ยวแต่งเครื่องแบบไปเบ่งตำรวจไม่หล่อ เมียเด็กไม่รัก แล้วจะไปขี่ใครได้
จากพุทธศาสนิกชนผู้ชอบทำบุญไม่ชอบทำบาบ เมื่อก่อนดิฉันทำบุญให้กับมูลนิธิอินทรบุญมาตลลอด แต่พอเห็นในเว็ปไซค์ว่ามีการให้ร้ายป้ายสีกัน คนนั้นโกง คนนี้ยักยอก รู้สึกหดหู่ เศร้าหมอง น่าสมเพสจริง ๆ จึงนึกเสียดายซื้อข้าวให้สุนัขจรจัดกินดีกว่า การเรี่ยไรเก็บเงิน เป็นเรื่องของอาเป๊ะแก่ ๆ ที่เขาทำกัน คนมียศฐาบรรดาศัก ไม่น่ามายุ่งเกี่ยวเลย เข้าวัดเข้าวาทำบุญทำกุศลมาก ๆ ชาติหน้าจะได้เกิดเป็นหมานุช สาธุ อนิจัง วะตาสังข์ ขาลา
ถ้าอยากจะรู้ว่าจริงหรือไม่ก้โทรสอบถามทางมูลนิธิเลยว่าคนนี้ชือนี้ หมายเลขเล่มนี้ ใบเสร็จเลขนี้ มีจริงหรือเปล่าเพราะทางมูลเขาจะจดเลขเล่มใว้หมดจะใด้ไม่ต้องโดนหรอก เพราะมีบ้างคนปลอ่มใบเสร็จไปเดินเอง จากคนรู้จริงและเป็นกลาง
วันนี้ที่3 เดือนกันยายน2554มีผู้ชายสองคนมาเดินรับบริจาคเงินจากชาวบ้านแต่งชุดมูลนิธิ(แต่ไม่ทราบจริงหรือเท็จ)แต่ด้วยความอยากซื้อโลงผ้าห่อศพด้วยเงินจำนวนเล็กน้อยของเรา(จำนวน300)ให้กับเจ้าหน้าที่(แต่ตอนเซ้นรับเงินเขียนพิมพิ์นิภาไม่มีนามสกุลแต่พอดูในเน็ตชื่อนี้มีแต่เป็นผู้หญิง(ชาวบ้านไม่รู้เลยว่าไหนพนักงานจริงหรือเท็จ)กรุณาติดต่อเมล mittaya@hotmail.com
ดิฉันก็ทำก้บพี่ผู้ชายเหมือนกัน ชือ่ศุภโชติ พอทำเสร็จดิฉันก็โทรตอนนั้นเลยต่อหน้าเขานั้นและ เขาก็บอกนะให้โทรถามเพื่อความสะบายใจทั้งสองฝ่าย เพราะมีพวกปลอ่มเยอะ พอโทรแล้วก้มีจริง เป็นหัวหน้าอาสาแต่ดิฉันก็ยังไม่เชื่อเท่าไรก็เปิดในเว็บมือถือดูก็มีจริง พี่เขาอธิบายให้ฟังว่าถ้าเดินตามบ้านเขาต้องไปขอที่อำเภอหรือโรงพักให้เขาลงบันทึกประจำวันใว้ว่าเข้ามากี่วันแล้วก็จะถ่ายเอกสารให้ลูกน้องอาสาคนละใบเพื่อที่จะใด้ให้ผู้บริจาคดูว่ามาถูกต้องตามกฏหมาย พี่เขาอธิบายก็เลยเขาใจนะพูดจาก็สุภาพเรียบร้อยและนอ้งผู้หญิงก็แต่งกายสุภาพเรียบร้อยหน้าตาดีหรือทางมูลนิธิเขาคงจะขัดอาสามาอย่างดีแล้วงั้นเขาคงไม่ให้มาตั้งโต๊ะบริจาคในห้างเพขรบุรีหรอกดิฉันกับแฟนก็เลยสบายใจหนอ่ย
วันนี้ทำบุญกับอาสามูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลแต่ทำไมใบเสร็จถึงไม่เหมือนกันวันี้ทำกับน้องเขาตั้งโต๊ะบริจาคในห้าง แต่เมื่ออาทิตยที่แล้วมาเดินตามบ้านทุกอาทิตยเลยที่บางละมุงชื่อก็เขียนเป็นลายเซ็นอ่านก็ไม่ออกแต่ที่นอ้งเขาตั้งโต๊ะในห้างนั้นเขียนต้วบรรจงอ่านและโทรสอบถามก็ไม่ใดว่าชื่ออะไรนอ้งเขาบอกว่าอาจจะเป็นของปลอมเพราะอาสาทุกคนจะไม่เขียนเป็นลายเซ็นเตือนพี่นอ้งบางละมุงทุกคนพัทยา ชลบุรี อย่าทำกับพวกเดินตามบ้านถ้าจะทำให้ทำกับที่หรือที่เขามีตั้งโตะในห้างเท่านั้น
เอาอีกแล้ว ข่าวใหม่ ๆ สด ๆ ร้อน ๆ มีท่านนายพล ฯ ประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง ไม่ทราบว่าชื่อ “พัฒนา” หรือ พัฒนะ กันแน่ สงสัยคนที่ชอบเปลี่ยนชื่อบ่อย มักจะมีพฤติกรรมไม่ค่อยดี ได้สร้างวีระกรรมให้เป็นเรื่องเล่าฉาวโฉ่ไม่ร้กี่เรื่องแล้ว เรื่องของเรื่องมันก็มีอยู่ว่า วันนี้ (4 ก.ย.54) พนักงานอาสา ขณะเดินเรี่ยไร ได้ถูกตำรวจ เชียงใหม่ ตรวจจับ จากนั้นตำรวจ ฯ ได้โทรสอบถามกลับไปยังมูลนิธิ ฯ ได้รับคำตอบจาก นายพล ฯ ประธานมูลนิธิฯ ว่าไม่มีชื่อพนักงานอาสาคนนี้อยู่ทำงานที่มูลนิธิ ฯ มิหนำซ้ำยังพยามเค้นให้ตำรวจได้เอาผิดดำเนินคดีกับพนักงานฯ ที่เดินเรี่ยไรคนนั้น แต่พนักงานฯ ยืนยันว่าได้ซื้อบิลใบเสร็จ ราคาเล่มละ ๒๕๐ บาท จากประธานมูลนิธิฯ จริง อ้าว แล้วประธาน ฯ แจ้งจับลูกน้องไปด้วยเจตนาอันใดไม่ทราบ ทั้ง ๆ ที่เอกสารก็มาจากมูลนิธิทุกฉบับ ตำรวจสอบถามพนักงานอาสา ปรากฏว่ามีปัญหา ระหว่างนายพล ฯ กับรองประธานมูลนิธิ ฯ ขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ในมูลนิธิ จึงปล่อยตัวไป แหม่ ! เรื่องแบบนี้ ไม่น่าให้ตำรวจได้ปวดหัวเลย ที่ผ่านมาก็เที่ยวไปฟ้องแจ้งตำรวจหลายพื้นที่ แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง อย่าไปจ่องจับผิดกับเด็กมันเลย ของแบบนี้เมื่อหัวไม่ส่ายห่างก็ไม่กระดิก หรือ นายพล ฯ ไม่มีงานทำ เพราะใกล้ปลดเกษียรหรือไง อย่าหาเห็ดใส่หัวไปทำไม หากไม่มีงานทำก็ลาไปบวชพระห่มผ้าเหลืองดีกว่า โอ้ย! อย่าไปบวชเลย เดี่ยวทำให้พุทธศาสนามัวหมองเปล่า ๆ มีอย่างเดี่ยว ไปอยู่กับยันตะเบ็ด เห็นชอบไม่ใช่เหรอ กระบือ แก่อยากกินหญ้าอ่อน ระวังหัวใจจะวายตายน่ะ
แล้วทำไมถึงเดินล่ะครับ ผิดอย่างชัดเจน และลักษณะเอกสาร ดูแล้วเป็นการถ่ายเอกสารสี เพราะรูปถ่ายไม่นูนขึ้นมาไงครับ
Re: โปรดระวังและอย่าหลงเชื่อ หน่วยกู้ภัยที่ออกเดินเรี่ยไร ในหาดใหญ่และใกล้เคียง
“ได้ลองโทรไปสอบถามตามหมายเลขที่ปรากฎบนใบอนุญาต
ถามคำถามแรกเรื่องรายชื่อ ว่า”มูลนิธิมีจริงหรือไม่” ก็อ่านรายชื่อให้ฟัง ก็ตอบว่า”มีจริง”
คำถามสอง เรื่อง”การมาเดินส่งคนมาจริงๆหรือไม่” คำตอบว่า”ส่งมาจริง”
คำถามสาม “แล้วทำไมไม่ตั้งจุดล่ะ เพราะห้ามเดิน และใบอนุญาต ชัดเจนว่า ให้”กำหนดจุดเรี่ยไร””
ได้คำตอบว่า “ใบนั้นกำหนดจุดก็จริง แต่ ประธานให้เดินได้” อ้าวแล้วตกลงกฎหมาย ตราครุฑ ไม่มีความหมายเหรอ
คำถามสุดท้ายก่อนโดนตัดสาย คือ”รถคันที่มานั้นป้ายทะเบียน……หรือป่าว”
ซึ่งพอเจอคำถามนี้ คนในสายโทรศัพท์ก็เริ่มมีน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ ถามกลับว่า “คุณเป็นใครที่โทรมา”
พอไม่บอกว่าเป็นใคร อีกคนในสายโทรศัพท์ ก็น้ำเสียงโมโหมาก เหมือนโดนรู้ทันกลยุทธการหากิน รีบตัดสายไปทันที”
จากคำให้สัมภาษณ์ ยิ่งทำให้น่าคิดว่า มูลนิธินี้ ทำงานจริงหรือป่าว พอเหมือนคนที่ลองโทรไปคุยรู้ทัน ก็เริ่มโมโหใส่ทันที พฤติกรรมแบบนี้มันน่าสงสัยหรือป่าวครับ เพราะเมื่อยิ่งรู้ข้อมูล มูลนิธินั้นมากขึ้น ยิ่งพูดน้ำเสียงไม่พอใจ
และข้อมูลอีกด้าน นำชื่อประธานมูลนิธิ ไปเซิสหาใน Google ปรากฎว่าเจอเว็บมูลนิธิดังกล่าว
แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นมูลนิธิจริงๆหรือป่าวนะครับ เพราะเว็บไซต์ง่ายๆแบบนี้สร้างขึ้นไม่ยาก http://intaraboonyarit.com
และชื่อประธานมูลนิธิ ในเว็บไซต์ข่าวหรือเว็บไซต์ของทางราชการ
เจอแต่ชื่อ “พลเรือโท พัฒนา อินทรบุญ” ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
แต่กลับไม่เจอชื่อ “พลเรือเอกพัฒนะ อินทรบุญ” ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิดังกล่าว
ยังไงจะหาทางตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับชื่อ ประธานมูลนิธิอีกครั้งครับ ว่าชื่อใดกันแน่ เพราะต่างกันที่ พัฒนะ กับ พัฒนา
เมื่อสักครู่ลองหาข้อมูลเพิ่มเติม บางเว็บ ใช้ชื่อประธานว่า “พลเรือโทพัฒนา อินทรบุญ” ดังนั้นน่าจะเป็นคนเดียวกันครับ
Re: โปรดระวังและอย่าหลงเชื่อ หน่วยกู้ภัยที่ออกเดินเรี่ยไร ในหาดใหญ่และใกล้เคียง
แต่นี่เล่นจดเป็น .com ตามความหมายก็คือจดโดเมนเป็นบริษัทแสวงหาผลกำไร ใครๆก็จดได้สมัยนี้
Re: โปรดระวังและอย่าหลงเชื่อ หน่วยกู้ภัยที่ออกเดินเรี่ยไร ในหาดใหญ่และใกล้เคียง
ขอบคุณครับพี่ ผมลืมนึกไปเลยในเรื่องนี้ ยังไงต้องตรวจสอบต่อไป ถ้า ตำรวจเมินเรื่องนี้ น่าส่งไปให้ ส.ส.ชูวิทย์
ตอนแรกจะเชื่่อแล้วนะว่ามีจริง แต่พอเจอการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบพอรู้ข้อมูลมูลนิธิมากขึ้น คนในโทรศัพท์ก็เริ่มโมโห และตัดสาย มันมีพิรุต น่าสงสัยจริงๆ
Re: โปรดระวังและอย่าหลงเชื่อ หน่วยกู้ภัยที่ออกเดินเรี่ยไร ในหาดใหญ่และใกล้เคียง
ลองเดินไปสอบถาม พลเมืองดีคนเดิม ที่ช่วยสังเกตการณ์ ได้ความว่า “วันนี้ไม่มีมาแล้ว”
ก็โดนเชิญออกนอกพื้นที่ไปเมื่อวาน คงจะหายไปสักพัก ประมาณเดือนตุลา มิจฉาชีพเหล่านี้ คงกลับมาอีก
Re: โปรดระวังและอย่าหลงเชื่อ หน่วยกู้ภัยที่ออกเดินเรี่ยไร ในหาดใหญ่และใกล้เคียง
ผมขอยืนยันว่า ใช่เลย คณะเดียวกับที่ผมพบเห็น เดินกันเป็นกลุ่ม แล้วรถกระบะดังกล่าว ผมก็เคยเห็นเช่นกันครับ แต่ไม่ได้เอะใจ ว่าจะเป็นพาหนะของคณะเรี่ยไรเหล่านี้
บุคคลเหล่านี้ แฝงตัวในสังคมได้เนียนมากครับ เครื่องแบบก็กินขาดแล้ว ต้องยอมรับนะครับว่า หากคนที่ไม่รู้จริงๆก็มักใจอ่อน บริจาคให้ทุกครั้ง
แต่ผมคิดว่า บุคคลเหล่านี้ คงหากินแบบนี้ไม่ได้แล้ว อยากให้ข่าวนี้ประชาสัมพันธ์ไปทั่วเมืองจังครับ ทางมูลนิธิน่าจะเห็นด้วยนะครับ
Re: โปรดระวังและอย่าหลงเชื่อ หน่วยกู้ภัยที่ออกเดินเรี่ยไร ในหาดใหญ่และใกล้เคียง
ครับ ตอนนี้กำลังประสานข้อมูลหลายภาคส่วนมา ลงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันชื่อเสียงกู้ภัยในพื้นที่เสียหาย
เช่น ตอนน้ำท่วม มีบ่นว่า “ตอนมาเรี่ยไร ก็ให้ พอน้ำท่วม ไม่มาช่วย” จะมาช่วยได้ไงล่ะ เพราะพวกเรี่ยไรไม่ใช่คนในท้องถิ่นเรา
หรือ บางกรณี เดินเข้าไปถึงรั้วบ้าน พอประชาชนไม่ทำบุญ ก็ทำสีหน้าข่มขู่ ไม่เป็นมิตร ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นกู้ภัยในพื้นที่ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลย
สำหรับข้อสังเกต จากลักษณะของมูลนิธิล่าสุดที่มาเดินนั้น มีอีก 1อย่างครับ เรื่องการปักตราต่างๆบนเสื้อ
โดยปกติแล้วเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย ที่ทำงานจริงๆ เค้าจะปักตราหน่วยงานต้นสังกัด ด้านหลังเสื้อด้วยครับ
แต่ลองสังเกตกลุ่มบุคคลที่มาแอบอ้างในชุดสีกรม เค้าไม่ปักด้านหลังเสื้อเลยครับ มันน่าสงสัย
เหตุผลทำไมไม่ปัก เพราะอาจจะว่า เรื่องค่าปักราคาสูง เพราะเสื้อกู้ภัยนั้นเฉพาะค่าปักก็ ตัวละ 500 บาทแล้วครับ
มาชมภาพขณะที่กู้ภัยตัวจริงเข้ามาตรวจสอบครับ ตัวปลอมคือบุคคลแต่งชุดสีกรมท่า ครับ
Re: โปรดระวังและอย่าหลงเชื่อ หน่วยกู้ภัยที่ออกเดินเรี่ยไร ในจังหวัดสงขลา
เรื่อง เตือนภัยประชาชนรู้ทันกลุ่มมิจฉาชีพเรี่ยไรทรัพย์สิน
เรียน ข้าราชการผู้มีอำนาจและพี่น้องประชาชนในพื้นที่
สิ่งที่แนบมาด้วย รายชื่อองค์กรการกุศลพื้นที่ต่างๆที่ไม่ออกเรี่ยไร(จะนำมาเสนอเร็วๆนี้ครับ)
ด้วยขณะนี้ในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง ได้มีกลุ่มมิจฉาชีพอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยของมูลนิธิเพื่อการกุศลต่างๆ เดินออกเรี่ยไรตามสถานที่สาธารณะ สถานที่ราชการและหน่วยงานเอกชน ไม่เว้นแม้แต่บ้านเรือนประชาชน โรงเรียน มัสยิดและวัด โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทั้งนี้กลุ่มมิจฉาชีพได้อ้างชื่อมูลนิธิเพื่อการกุศลต่างๆ ที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยส่วนใหญ่กลุ่มบุคคลที่กระทำการเดินเรี่ยไรทรัพย์สินจะมีการแต่งกายในชุดเครื่องแบบที่มีตราสัญลักษณ์มูลนิธิเพื่อการกุศลต่างๆ อีกด้วย
พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้ประชาชนและรวมทั้งหน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชนตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้อยู่เป็นประจำ กลุ่มคนเหล่านี้หากินกับศรัทธาของประชาชนที่รักและเห็นใจการทำงานของหน่วยกู้ชีพกู้ภัยโดยใช้เอกสารเก่าและเอกสารปลอมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหน่วยกู้ชีพกู้ภัยและองค์กรการกุศลเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเพื่อเลี่ยงต่อการตรวจสอบจับกุม ซึ่งการกระทำของบุคคลเหล่านี้ส่งผลทางลบและสร้างความเข้าใจผิดระหว่างประชาชนและหน่วยกู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่เป็นอย่างมากรวมทั้งยังทำให้เสื่อมเสียแก่วงการคนกู้ภัยมากที่สุด ดังนั้นทางสมาคมคนรักวงการกู้ภัยร่วมกับกลุ่มรวมพลกู้ชีพ กู้ภัยจังหวัดสงขลา จึงขอประกาศเตือนพี่น้องประชาชน หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเอกชน โปรดพิจารณาทุกครั้งก่อนจะทำบุญกับมูลนิธิเพื่อการกุศลต่างๆ ที่ไม่คุ้นเคย เพื่อเลี่ยงการถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวง
การทำบุญกับหน่วยกู้ภัยหรือองค์กรการกุศลต่างๆควรทำกับหน่วยงานในพื้นที่ ที่ท่านอยู่เพื่อจะได้แน่ใจได้ว่าท่านไม่โด
ปณะทานโทษนะค่ะที่นอ้งฝ่ายประชาสัมพันพูดจาแข็งกระด่างไปหน่อยดิฉันเลขาฝ่ายจัดหาทุนดิฉันตอบคำถามคุณให้กระจางแจ้งเลยนะค่ะในกฎหมายระบุให้บริจาคเป็นจุดจริงแต่ถ้าออกเดินเรี้ยไรตามตลาดหรือตามสถานที่สาธาระนั้นตอ้งไปขออำเภอหรือโลงพักเพื่อที่ให้ลงบันทึกประจำวันไว้ว่ามมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์มาเดินเรี้ยไรในสถานที่ของท่านมีจำนวนกี่คนแล้วชื่ออะไรบ้างพอบันทึกประจำวันเสร็จแล้วมีใครบ้างก็จะถ่ายเอกสารให้อาสาทุกคน คนละ1ใบใว้เพือ่เป็นหลักฐานว่าขอจากโลงพัก อำเภอแล้วนะคะและคำตอบที่ท่านบอกว่าไม่มีชือ่พลเรอเอก พัฒนะ อินทรบุญ มีแต่พลเรือโทพัฒนะ อินทรบุญ นั้นนะเพราะท่านประธานท่านใด้เลื่อนยศเป็นพลเรือเอกนะค่ะ แต่ใบอนุญาติอันเก่ายังไม่ใด้เปลี่ยนยศก็คือใบอนุญาติอันใหม่ถึงจะเปลี่ยนนะค่ะเข้าใจแล้วใช้ใหมค่ะ และอาสาทุกคนเป็นอาสาของทางมูลนิธิจริงทุกคนมีขอสงสัยอะไรโพสมาถามใด้นค่ะและขอขอบคุณทุกท่านที่มีจิตศัทธาร่วมบริจาคมากับอาสาของเรานะค่ะ ทิพย์สุดา ค่ะ
ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่รู้ดีว่าท่านประธานพลเรือโท พัฒนะ อินทรบุญ นั้นเป็นประธานมูลนิธิจริงแต่ตอนนี้นะท่านเลื่อนขั้นเป็น พลเรือเอก พัฒนะ อินทรบุญ แล้วค่ะแต่ในใบอนุญาติอันเก่ายังไม่ใด้เปลี้ยนนะก็ขอให้ประชาชนช่วยร่วมบริจาคด้วยนะค่ะและใบอนุญาติออกมาใหมก็จะเปลียนเป็นพลเรือเอกพัฒนะ อินทรบุญ ค่ะ
ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบทำบุญก็ทำทุกมูลนิธิฯนั้นและค่ะไม่ว่าจะเป็นที่ใหนก็ทำหมดแต่ขอให้ถูกต้องตามกฎหมาย จะเป็นของจังหวัดเราใช้หรือไม่ใช้ก็ทำก็ช่วยคนไทยด้วยกันนะจะมาแบ่งชั้นวันณะกันมันไม่ถูกนะค่ะจะให้ดิฉันช่วยแต่ในมูลนิธิของจังหวัดระยองอย่างเดียวมันก็ไม่ใช้นะค่ะเพราะดิฉันก็เป็นคนจังหวัดอุดรธานีแต่มาเปิดธุรกิจที่ระยองวันที่ 5สิงหาคม2554ดิฉันก็ใด้ไปซื้อของที่เม็กโครระยองไปเจอนอ้งเขาตั้งโต๊ะบริจาคอู่ยช่วยเหลือทุกอย่าง เช่นไฟใหม้ นำท่วม ศพคนยากจน หลายอย่างฯ ดิฉันก็ทำบุญกับน้องผู้หญิง และผู้ชาย พุดจาก็สุภาพเรียบร้อย ดิฉันก็ทำไปอย่างละใบน้องผู้หญิงชื่อ ทิพย์สุดา และผู้ชายชื่อ ศุภโชติ ก็ตรวจสอบเอกสารถูกต้องทุกอยาง่และทางห้างเขาใด้อนุญาติให้เขามารับบริจาค คุณทราบใหมว่าอะไรเกิดขึ้นกับนอ้งเขาเพียงเวลาแค่10นาทีเท่านั้นแหละดิฉันเดินไปกินข้าวเพราะที่กินข้าวจะไม่ห่างจากที่นอ้งเขาตั้งโต๊ะบริจาคเท่าไรนักประมาณ1000เมตรใด้ ก็มีผู้ชาย1กลุ่มเดินเข้าด่าโวยวายพูดจาไม่มีความสุภาพเอาสะเลย ต่อสุภาพสตรีเพศแม่ของเขาเอาสะเลยว่า ใครให้มึงเขามารับบริจาคที่ของกู้มึงขอใคร นอ้งผู้หญิงเขาก็พูดว่าใด้ขอทางห้างแล้ว แล้วทางห้างก็ใด้อนุญาติให้ดิฉันเขามา แต่ผู้ชายกลุ่มนั้นไม่ฟังเหตุผลอะไรเอาสะเลยอ้างแต่ว่าเป็นพื้นที่ของเขามูลนิธิสว่างพรเขาดูแลอู่ย และนอ้งผู้หญิงเขาก็เลยถามว่าจะให้ทำยังไงค่ะในเมื่อทางห้างเขาอนุญาติให้เข้ามา ผู้ชายกลุ่มนั้นบอกว่าให้ไปขอที่โลงพักแล้วค่อยไปขอที่มูลนิธิสว่างพรเขาอีกทีว่าจะให้เข้าหรือเปล่า และพอเถียงกันไม่นานนักนอ้งผู้ชายที่มากับนอ้งผู้หญิงก็เลยบอกว่าใจเย็นๆพี่เราเป็นคนเหมือนกันช่วยคนไทยด้วยกันช่วยเหลือสังคมเหมือนกัน พอสักพักก็มีผู้อีกกลุ่มวิ่งเข้ามา ตะโกนว่าออกไปเลยไม่ใด้ใส่ชุดของมูลนิธิสวางพรเลยและมีรถของมูลนิธิสวางพรมาจอดหน้าประตูหาง้รอด้วยแม่ค้าในห้างเม็กโครระยองพูดกันเป็นปากเดียวเลยว่ามีอย่างนี้ด้วยหรือไม่ให้ช่วยมูลนิธิอื่น เขามารับบริจาคจะให้ช่วยแต่มูลนิธิสวางพรของระยองอย่างเดียว แต่มูลนิธิอินทรบุญฤธิ์เจริญธรรมการกุศลที่ดิฉันทำบุญอู่ยตอนนี้นะเขาไปช่วยทั่วประเทศ ไม่ใด้ช่วยแต่ในจังหวัดเหมือนที่มูลนิธิสวางพรเขาทำอู่ยเขาจะให้ประชาชนในจังหวัดระยองไปทำที่มูลนิธิสวางพรอยาง่เดียวมันไม่ถูกนะค่ะหน้าสงสารนอ้งผู้หญิงเขาหน้าเสียเลยนะคุณและมิหนำซำอาสาทางมูลนิธิสว่างยังไปขู่ทางแม็กโครระยองว่าถ้าให้มูลนิธินี้เขามาไม่รับรองและพวกเขาก็จะมาอีก ดูพูดเขาแนะ ผู้ใจบุญจังหวัดระยองและแม้ค้าแม็กโคร
วันที่5 สิงหาคม 2554 ผมเป็นพ่อค้าขายของอยู่ในแม้กโครนี้และ จริงทุกเรือ่งที่มีผู้ใจบุญเขาโพสมาเพราะแฟนผมก้ยังทำบุญกับนอ้งผู้หญิงเขาเลย100บาทผ้าขาวห่อศพชื่อ ทิพย์สุดา นะครับและตามคำที่ผู้ใจบุญเขาโพสมาทุกอย่างแต่ผมขอเสริมอีกนิดหนึ่งนะครับวันนั้นพอน้องอาสามูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลออกไป ประมาณ5นาทีก็มีตำรวจเขามายืนคุยโทรศัพย์ ตรงหน้าร้านผมว่าผมก็ทำใจลำบากเพราะมูลนิธิสว่างพรเข้าโทรมาสั้งไม่ให้มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล เข้าในพื้นที่ของระยองทั้งจังหวัดไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิฯใหนๆก็ช่างตอ้งใด้รับอนุญาติจากมูลนิธิสว่างพรเสียก่อน แต่แฟนผมฉลาดกว่าเขาโทรไปที่อำเภอทางอำเภอบอกว่ามูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลมาขอที่อำเภอจริงและใด้เซ็นอนุญาติให้เขามารับบริจาคในจังหวัดระยองจริง และทางมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลไม่ต้องไปขอทางโลงพักแล้วเพราะใบอนุญาติเขาขึ้นอยู่ที่อำเภอไม่ใช้โลงพักที่ผมโพสมาวันนี้เพราะนอ้งเขาให้เบอร์โทรไว้ และบอกว่าจะมาวันนี้พวกผมก็เลยรอจะทำกับน้องอาสามูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลพอโทรไปหานอ้งเขาบอกว่ามูลนิธิส่วางพรสั้งผู้ที่ดูแลพื้นที่ของแม็กโครไม่ให้เขา เพราะอาสามูลนิธิส่วางพรเขารู้จักกับผู้ดูแลพื้นที่และหัวหน้ายามแม็กโครมิหน้านอ้งเขามาตั้งโต๊ะบริจาคยังไม่ถึงชั้วโมงก็มีอาสามูลนิธิส่วางพรมาว่านั้นและครับแสดงว่ากฎหมายอยู่ใต้อำนาจเงินหรืออิทธิพลอย่างนั้นหรือชาวบ้านจะฝากชีวิตไว้กับใครละครับ แค่นี้ก็กลัวอิทธิพลเถื่อนแล้วถ้าอาสามูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลเป็นอะไรไปใครจะชว่ยนอ้งเขาละครับแม้แต่ตำรวจก็ยังทำอะไรไม่ใด้เลยฝากบอกเพื่อนๆประชาชนที่มาโพสอ่านทุกท่านทุกคนเราจะมาแบ่งพรรค แบ่งพวกกันแล้วประเทศชาติจะเจริญใด้ไงละครับ พ่อค้าแม็กโครระยอง
สวัสดีค่ะ ทุกท่านที่โพสมาแสดงความคิดเห็นมูลนิธิของเรานะค่ะมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลดิฉันก็พึ้งจะใด้มีเวลามาเปิดดูในเว็บมูลนิธิของเราดิฉันจะเอาคำที่ท่านโพสติชมนี้ ที่ทำให้ทุกท่านไม่พอใจไปปรับปรุงนะค่ะ และคำที่ชื้นชมมาก็ดี อาสาคนใหนที่ทำตัวไม่สุภาพก็จะอบรมให้ดีกว่านี้น่ะค่ะ และบุคคลที่ชมว่าสุภาพเรียบร้อยก็ขอขอบคุณแทนพี่อาสาด้วยน่ะค่ะ
คุณน้องเลขาฝ่ายจัดหาทุนมูลนิธิอินทรบุญครับ ไม่ทราบคุณน้องเรียนกฎหมายจบจากสถาบันที่ไหนมาไม่ทราบ หรือเรียนไม่จบ หรือเรียนอะไรก็ไม่สำเร็จ มีผัวเสียก่อน ที่บอกว่าหากมีการเดินเรี่ยไรตามตลาดหรือสถานที่สาธารณะจะต้องขออนุญาตอำเภอหรือโรงพักเสียก่อนนั้น เอ๊ะ ! คำว่า “โรงพัก” คือ สถานีตำรวจ น้องเลขาคนสวยไปเปิดพจนานุกรมดูเสียใหม่ ไม่มีใครเขียนว่า “โลงพัก” ตามที่น้องเขียนน่ะครับ คำว่า “โลง” เขาใช่กับโลงศพ เข้าใจไหม! สงสัยสอบตกภาษาไทยแน่เลย นายพลทหารเรือหลับหูหลับตารับสมัครเข้ามาทำงานเป็นเลขาได้อย่างไรกัน เอาล่ะ อย่าไปใส่ใจหรือสาละวนกับสิ่งที่ไร้สาระกันเลย มาเข้าเรื่องกันดีกว่า การเรี่ยไรตาม พ.ร.บ.การเรี่ยไร นั้น เขากำหนดไว้ชัดเจนว่าจะต้องมีการตั้งจุดเรี่ยไร และห้ามเดินเรี่ยไร ออกมาเพ่นพล่านแบบขอทานไปทั่ว เหมือนกับอาสามูลนิธิบางแห่ง ทำให้ภาพลักษณ์ไม่สง่างามเสื่อมเสียชื่อเสียงแก่องค์กร โดยเฉพาะมูลนิธิที่มีระดับนายทหารชั้นผู้ใหญ่เป็นแบ๊ค กฏหมายไม่มีบทเฉพาะกาล หรือ มีข้อผ่อนปรนใด ๆ ให้ว่าหากเดินเรี่ยไรตามตลาดหรือที่สาธารณะ ต้องขออนุญาตโรงพักหรืออำเภอ น้องเข้าใจผิดแล้ว รู้ไหม สิ่งที่บรรดาน้อง ๆ อาสาทำอยู่ทุกวันนี้ มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ฝ่าฝืนข้อกฏหมาย จำใส่หัวกระโหกไว้ด้วย ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองบางพื้นที่ ที่เขาไม่ยากจะบังคับใช้กฏหมาย ไม่ใช่ว่าเขาจะปล่อยปละละเลย แต่เขามองโลกในแง่ดี เห็นว่ามูลนิธิต่างก็มีเจตนาดี บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม รวมทั้งเห็นว่ามีนายทหารยศสูง ๆ ถึงขั้นพลเรือเอก เป็นประธาน ฯ จึงเป็นไม่คิดว่าจะมีผลประโยชน์มากมายอะไรมาแอปแฝง จึงพยายามอลุ่มอล่วยให้แก่กันไป เพราะการเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษเพียงแค่ปรับ ไม่เกิน 200 บาท เท่านั้น จ๊ะ และขอบอกฝากไปยังมูลนิธิต่าง ๆ ที่เรี่ยไรชาวบ้านได้เงินไปมากมาย กรุณานำไปซื้อข้าวสารอาหารแห้งไปช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนกับปัญหาน้ำท่วมในหลาย ๆ จังหวัด ขอบคุณมากครับ จากคนอ่างทอง
เออจริงด้วยเอาละคุณประชาขนผู้ที่หวังดีจากอ่างทอง ที่โพสไปต่อว่านอ้งเขานะครับ แต่เรื่องแบบนี้ถ้าเขาไม่มีข้อเท็จจริงเขาก็คงไม่มาโพสบอกพวกเราหรอกนะครับ แต่ผมก็ไม่เชื่อผมก็เลยโทรไปถามที่อำเภอ ที่ระยองนะว่าถ้ามีมูลนิธิฯใดมูลนิธิหนึ่งมาขอ เรี่ยไรในจังหวัดของเรานะจะต้องทำอย่างไร ก็มีผู้หญิงรับและเขาก็แนะนำว่าให้เขานำใบอนุญาติมามาขอกับทางอำเภอแล้วก็จะมีอีกฝ่ายหนึ่งที่เป็นคนเซ็นแทนท่านอำเภออะไรประมาณนี้และครับ และตอ้งบริจาคเป็นจุดอย่างเช่น ในตลาดน้ำก็คือบริเวณในตลาดน้ำเป็นเวลากี่วัน5วัน อะไรประมาณนี้ละครับ แต่ผมขอติคุณนิดหน่อยนะครับ อย่าหาว่าผมเขาข้างนอ้งเขาเลยการที่คุณโพสมาก็ดีแต่คุณคนอ่างทองครับ คุณหน้าจะโพสมาแบบที่สุภาพกว่านี้ไม่ใช้ โพสมาว่า ( เรียนมาก็ไม่จบ เรียนไม่สำเร็จ มีผัวเสียก่อน) นี้และมันไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาสะเลยนะคุณ และคนเขามาเปิดอ่านกันทั่วประเทศน้องเขาเสียหายนะครับ จากคนทำบุญที่ระยอง
ฮิ ฮิๆ หัวเราะนะว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง (คำว่าเขาใช่โลงศพ)ก็ต้องเป็น เขาใช้โลงศพ และคำว่า(เพ่นพล่าน) ก็ตอ้งเขียนว่า เผ่นพล่าน นะก็ยังเขียนไม่ถูกเลยแล้วไปว่าคนอื่นเขา แก้วอยุทธยากู้ภัย ฮิ ฮิๆ
ภาพชายฉกรรจ์กลุ่มนี้เป็นแก๊งเรี่ยไรเงินของมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล ทำเป็นขวนการ โดยมีข้าราชการทหารและข้าราชการ กทม. ร่วมดำเนินการอยู่เบื้องหลังหลายคน เท่าที่ทราบชื่อ คือ พล.ร.อ.พัฒนะ อินทรบุญ นายสัญญา จากดุสิต (ข้าราชการสำนักงานเขตวังทองหลาง) น.ส.สุกันญา หรือเจี๊ยบ เจริญใจ (ภรรยาน้อย พล.ร.อ.พัฒนะ) ฯลฯ พฤติกรรม มีการขายบิลใบเสร็จให้กับพนักงานอาสาเดินเรี่ยไร ฉบับละ 250 บาท จากนั้นพนักงาน ฯ จะนำไปเดินเรี่ยไรจากประชาชนทั่วไป ได้เงินมาไม่ต้องส่งมูลนิธิเข้ากระเป่าส่วนตัว วัน ๆ หนึ่ง ซึ่งรถยนต์แต่ละสายจะมีรายได้ประมาณ 2 – 5 พันบาท แต่บางวันอาจจะขาดทุนไม่พอค่าน้ำมันบ้าง เช่น ฝนตกฟ้าร้อง หรือประชาชนบางคนรู้ทัน แจ้งตำรวจจับ รายได้ก็มักจะไม่ได้ตามเป้า ส่วนเงินที่ขายบิล ฯ พนักงานจะโอนเข้าบัญชี พล.ร.อ.พัฒนะ ฯ มาระยะหลัง พล.ร.อ.พัฒนะ ฯ เกรงว่าจะโดนตรวจสอบ จึงสั่งให้โอนเข้าบัญชีของ น.ส.เจี๊ยบ ฯ (ภรรยาน้อย) เงินที่ได้จากการขายบิลระยะหลัง ๆ ไม่มีการนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนเลย โดยเฉพาะปัจจุบันประชาชนประสบภัยนำท่วม ก็ยังไม่มีข่าวว่ามูลนิธินี้นำสิ่งของไปช่วยเหลือ ทั้ง ๆ ที่วัตถุประสงค์ของมูลนิธิระบุชัดเจนเพื่อช่วยเหลือผ้ประสบภัยพิบัติ อาจจะเป็นเพราะประธานมีหนี้สินมาก จึงจำเป็นต้องนำเงินขายบิลไปชำระหนี้ตนเอง ! ชั่งน่าสมเพสเวทนาสงสารเหลือเกิน ถ้างวดนี้ผมถูกหวยผมจะบริจาคปลดเปลื้องให้เอาบุญ จะได้บุญหรือเปล่าก็ไม่ ขอถามหลวงพ่อก่อน ดังนั้น เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิฉาชีพเหล่านี้จึงขอกระจายข่าวไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อบริจาคเงินให้มูลนิธินี้เป็นเด็ดขาด จากคนทุ่งครุซอย 79
คุณค่ะอย่าโพสมาใส่ร้ายกันเลย ทำกันเป็นมาแบ่งพรรคแบ่งพวกกันเมื่อไรบ้านเมืองของเราจะเจริญละคุณ คนเรามัวแต่จะมาคอยแบ่งช่วยแต่ในจังหวัดของตนเอง แล้วที่อื่นก็ไม่ช่วยอย่างนั้นหรือมันไม่ถูกนะค่ะ หรือจะค่อยให้ไปบริจาคที่มูลนิธิของที่ตนอู่ย ดิฉันก็เป็นคนต่างถิ่นอยู่ขอนแก่นก็ตอ้งไปทำที่มูลนิธิขอนแก่นทำที่กรุงเทพก็ไม่ใด้อย่างนั้นหรือค่ะมันก็ไม่ถูกมีวันหนึ่งดิฉัน ไปตลาดเจอมูลนิธิร่มไทรดิฉันก็ทำ ไปสีลมเจอมูลนิธิพุทธรรมนิมิตรก็ทำ เที้ยวนครปฐมเจอมูลนิธิพิทักษ์คุณธรรมก็ทำ ไปห้างเจอเด็กกำพร้าก็ทำ แล้วทำไมถึงต้องมาโต้แย้งกันบังคับให้ทำที่โน้นที่นี้กันมันไม่ถูกคนเราข่วยกันคนละเล็กคนละน้อย แสดงว่าคุณนี้เป็นคนที่นิสัยเห็นแก่ตัวไม่เพื่อแผ่คนอื่นจะให้เขาบริจาคแต่มูลนิเจ้าถิ่นนั้นหรือ แล้วถ้ามูลนิธิฯของคุณไม่มีใครไปช่วยบริจาคเลยแล้วคุณจะเอาทุนส่วนใหนไปช่วยคนยากจนละในเมื่อผู้บริจาคเขาก็ไปบริจาคในถิ่นที่เข้าอยู่กำเนิดกันหมด พี่นอ้งทุกท่าน มันเป็นสิทธิของท่านที่ท่านจะช่วยที่ใหนก็ใด้ไม่จำเป็นจะต้องไปช่วยแต่ในมูลนิธิท้องถิ่นที่เราอยู่คนเราคนไทยด้วยกันดิฉันคนขอ่นแก่น แต่ทำธุรกิจในกรุงเทพฯเปิดร้านเสริมสวยที่ลาดพร้าวน่ะขอให้มูลนิธิฯทุกๆที่มารับบริจาคได้เลยค่ะ
น้องสาวช่างเสริมสวยจ๋า ! ที่ผมโพสไป ไม่ใช่เป็นการใส่ร้าย เป็นเรื่องข้อเท็จจริง เป็นกระทำของพวกมิฉาชีพจริง ๆ คุณอย่าไปหลงเชื่อ นี่เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน จึงหวังดีบอกข่าวให้ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อไง น้องเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่ลาดพร้าวจุดไหน บอกผมด้วย หรือ โพสหมายเลขโทรมาหน่อย ผมจะโทรไปหา เพื่อจะได้นำหลักฐานไปให้ดู หรือเผื่อผมจะได้เป็นลูกค้าอีกคน ผมจะบอกให้เลยเงินที่คุณมาบริจาคไป เขาไปแบ่งกินกัน เสียเงินเปล่า ๆ นะ ผมถามจริง ๆ ว่าคุณเป็นหนึ่งในแก๊งเรี่ยไรหรือเปล่า จึงแก้งโทรมา เพื่อกลบเกลื่อน หากคุณเป็นหนึ่งในที่ว่า ขอร้องเลิกอาชีพนี้เถอะ มันเป็นเวรเป็นกรรมเปล่า ๆ น่ะ อาชีพอื่นที่สุจริตมีเยอะแยะ อาชีพแบบนี้เหมือนกับคนขอทาน นำเงินไปให้นายพลได้บำเหรอความสุขตนเอง แต่คุณมาตากแดดเดินเรี่ยไร เหงื่อไหล ไคลย้อย ไม่ได้อะไร ดังคำสุภาษิตเขาว่า “เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้ลอง แล้วยังเอากระดูกมาแขวนคอ” คนอะไรเอาแม่ป็นเมียไม่พอยังเอาเลี้ยงทำเมียอีก คนยังงี้ก็มีด้วย ตายไปไม่ได้ผุดได้เกินแน่ จากคนทุ่งครุซอย79
ดิฉันจะทำที่ใหนก็เป็นความพอใจของดิฉันไม่ใด้ไปหนักส่วนใหนของคุณเลยแล้วดิฉันก็ไม่ได้เป็นพวกใครด้วยแล้วดิฉันจะไปบอกทำไมละว่าอูย่ที่ใหนถ้าคุณเอาพวกมาทำร้ายดิฉันแล้วจะทำไงละในเมื่อมันเป็นเรื่องของพวกคุณจะขัดแย้งอะไรกัน ก็ไม่รู้ดิฉันพูดตามความเป็นและอย่ามาดูถูกดิฉันด้วยว่าทำอาชีพเรี่ยไรสักวันถ้าเกิดคุณไปเจออุบัติเหตุที่ใหนสาธุขออย่าให้มูลนิธิฯพื้นที่ ที่เกิดเหตุช่วยคุณเลย เบลลาดพร้าว
น้องสาวเสริมสวยที่รักของผัวเค้า อย่าเพิ่งเอะอะโวยวายซิครับ เสมือนแบบกินปูนร้อนท้อง ผมไม่ได้ดูถูกคุณเลย ถ้าคุณไม่ได้เป็นหนึ่งในขบวนแก๊งเรี่ยไรก็แล้วกันไป แต่หากคุณเป็นเช่นว่านั้น ขอเวรกรรมตอบสนองคุณภายใน 3วัน อย่าลืมคนไทยนับถือศาสนาพุทธมีความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ เรี่ยไรเอาเงินไปใช่ส่วนตัว ฉิบหายตายโหงมามากแล้ว ไม่เห็นมีใครรำรวยสักคน คนที่รวยของใช้หัวสมองทำธุรกิจ มีเงินฝากธนาคารมากมาย ไม่ใช่บางคนพอโดนล้มละลาย มีหนี้สินล้นพ้นตัว เลยหน้ามืด คิดสั้น เป็นโจรปล้นขโมยเขากินบ้าง เดินเรี่ยไรขอทานเขาแดกบ้าง แอบอ้างคนจน/คนตาย ซื้อโลงศพบ้าง สาระพัดที่ยกอ้าง ทำตนเป็นมารศาสนาจริง ๆ เพื่อให้ชีวิตอยู่รอดไปวัน ๆ พุทธศาสนิกชนที่ดีเขาไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกันหรอก แต่ไอ้นี่หน้าด้าน เห็นแก่ตัว มูลนิธิที่เขามีใจเสียสละบำเพ็ญเพื่อสังคใจริง ๆ เขาไม่มาส่งคนมาเดินเรี่ยไรเหมือนกับมูลนิธิบางแห่งแล้วครับ มีหลาย ๆ มูลนิธิ ซึ่งตัวคณะกรรมการบางคนที่เขาเป็นผู้บริหารเขาเปิดบริษัททำธุรกิจ แล้วนำรายได้จากธุรกิจส่วนหนึ่งมาช่วยเหลือสังคม ไม่เคยมีข่าวว่าเขาไปขอใบอนุญาตเรี่ยไร แต่ปัจจุบันมีไม่กี่มูลนิธิที่มีพฤติกรรมเช่นนั้น ดังนั้น จึงขอวิงวอนให้ผู้บริหารมูลนิธิที่มีจิตใจเอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จงกลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ เอาล่ะถ้ายากจะเรี่ยไร ก็ทำต่อไป แต่ขอร้องให้นึกถึงคนผู้ยากไร้บ้าง ยิ่งปัจจุบันชาวบ้านในหลาย ๆ จังหวัดเขาเดือดร้อนเรื่องปัญหาน้ำท่วม ดินถล่ม มีผู้บาดเจ็บล้มตายไปหลายราย โปรดได้นำเงินที่เรี่ยไรไปร่วมช่วยเหลือบ้าง จะเป็นบุญกุศลแก่ตัวท่านเอง สาธุ!
สาธุนะค่ะสัมมาสัมไป คิดดี ก็ดีแก่คุณ บุญกุศลก็ตกแก่คุณแต่ถ้าคิดไม่ดีก็ตกแก่คนที่คิดไม่ดีนั้นและคุณและดิฉันก็มีสามีคนเดียว และคุณบอกว่าเป็น(ที่รักของผัวเค้า) นะระวังน่ะจะเข้าตัวเองนะค่ะเวรกรรมไว้ยิ้งกว่าจรวดอีกไม่ต้องรอชาติหน้าหรอกค่ะชาตินี้แหละเห็นผลทันตาเลยค่ะ(ระวังแฟนคุณนะค่ะอาจจะมี……ก็ได้)
คูณช่างเสริมสวยจ๊ะ อย่าอารมณ์เสียซิจ๊ะ สามีไม่ได้อย้ด้วยหรือ ปกติช่างเสริมสวยจะใจเย็น มีความละมุนลไม อ่อนช้อย เอาใจแขก อย่าคิดลึกจนเกินไปนัก คนที่ดีมีศีลธรรมมักจะมองโลกในแง่ดีเสมอ เอาใจเขามาใส่ใจเรา แต่คนที่ไม่ดีมักจะมีความหวาดระแวง และกล่าวหาคนอื่นว่าไม่ดี เสร็จแล้วตนเองก็เป็นทุกข์ คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า ทำไมฟังและเข้าใจภาษาไทยไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ผมบอกว่า “ที่รักของผัวเค้า” ไม่ได้หมายถึงว่าคุณไปมีชู้หรือไปเอาผัวคนอื่นเค้า แต่ผมหมายถึง “คุณเป็นที่รักของสามีคุณคนเดียว” แต่หากถ้าคุณเป็นจริงอย่างที่คุณเข้าใจ ก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้น๊ะ สุดแล้วแต่คุณจะคิดก็แล้วกัน
อุ๊ยว้าย!!!!!!เป็นอิสลามเนี่ยก็บริจาคได้แค่ข้าวไม่ใช่หรอคะแล้วเข้ามาเกี่ยวข้องอะไรมากมายกับมูลนิธิพิทักษ์คุณธรรม
มูลนิธิพิทักษ์คุณธรรมมีแต่คนเลวๆเข้ามามาอยู่ ซึ่งเป็นภัยกับสังคมมากๆ โดยที่ไปเรี่ยไรแล้วแอบอ้างชื่อมูลนิธิที่ถูกต้องตามกฏหมายต่างๆ มูลนิธิพิทักษ์คุณธรรมนั้นจะมีอาสาสมัครและพนักงานในมลนิธิแบบพวกเลวๆบ้างเด็กติดยาบ้าง พวกทำผิดกฎหมายบ้าง พวกมีคดีติดตัวบ้างพวกนี้จะบาปหนาแล้วทำอะไรไม่ขึ้นจึงมีสมองคิดทำมาหากินได้แค่นี้ และดิฉันยังทราบว่าอีกว่าประธานมูลนิธิพิทักษ์คุณธรรมชอบเป็นภรรยาน้อยกับสามีชาวบ้านซึ่งเทอเป็นแม่หม้ายลูกติดแล้วลูกก็ไม่มีการศึกษาได้เกาะแม่กินไปวันๆ และปัจจุบันประธานมูลนิธินี้ได้เป็นภรรยาน้อยของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งมียศแค่คนหิ้วกระเป๋าให้นายพลและได้ทราบชื่อมาว่า ชื่อนายอนันต์ นามสกุล…. ซึ่งนายอนันต์ไม่มีที่ทำงานเป็นหลักเป็นแหล่งวันๆได้แค่เร่ร่อนหาข่าวไร้สาระไปวันๆ แล้วยังหลอกลวงผู้อื่นว่าตัวเองเป็นผู้พันทั้งๆที่ยศก็แค่พันโทกระจอกๆเน่าๆไม่น่านับถือ ไม่มีราศี หน้าตาคดโกง และยังชอบไปซื้อบริการทางเพศกับหญิงขายบริการที่อายุน้อยด้วยเหตุผลเพราะประธานมูลนิธิพิทักษ์คุณธรรมเธอให้ความต้องการทางเพศกับไอผู้พัน(จอมปลอม)ไม่พอ..น่าสมเพศทั้งประธานมูลและผู้พัน(จอมปลอม)จริงๆคะ
สงสัยว่ามูลนิธิพิทักษ์คุณธรรม ชื่อสุดหรูนี้ก่อ
ตั้งมาได้อย่างไรเพราะเท่าที่รู้นะมีกรรมการ5คน 1ใน5ชื่อ พันโทอนัน
ต์ รื่นพิทักษ์ คงเอานามสกุลไป
ตั้งหละมั้ง??แ
ต่เป็นคนอิสลามแล้วมาเป็นกรรมการมูลนิธิการกุศลได้อย่างไร เมื่อคนอิสลามห้ามทำบุญและรับบริจาคจากชาวพุทธ วัดวาอาราม
ต่างๆสงสัยเงินด้จากการบริจาคนี้คงไปช่วยชาวอิสลามอย่างเดียวมั้ง และที่รู้มาอีก
ตัวประธานมูลนิธินี้ นางสาวจันทร์ ทุ่งแจ้ง ก็เป็นพวก18มงกุฏมาก่อน เคยอยู่มูลนิธิมา3-4มูลนิธิ โกงเค้ามา
ตลอดจนมูลนิธินั้นๆเค้าไปไม่รอด ส่วนรองประธานก็เช่นกันคือ นางสาวจันทร์ฉาย บุญเหลือ (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น นางสาวธนพร บุญเหลือ) เพราะประวัติเดิมเคยติดคุกติดตารางมาเยอะ ไปถามคนเค้ารู้กันทั่วที่ สน.วัดชนะสงคราม ได้เลยว่าเคยอยู่ในคุกจริงไหม คดีเสพและจำหน่ายยาบ้า ดมกาว ค้าของเถื่อน เล่นการพนัน แย่งผัวชาวบ้านและยังออกลูกในคุกอีกด้วย
ตาดีเข้าวัดวาอาราม ฟังธรรม ทำบุญ ถือศีล อ่อ!!!!!!ลืมไป
ตัวประธานมูลนิธิหรือนางสาวจันทร์แรม ทุ่งแจ้ง ก็ยังเอาผัวเขามากกเช่นกัน ก็ผู้พัน(จอมปลอม)นั่นไง เมียของเค้าอยู่อยุธยา เมียจริงรู้หรือป่าวก็ไม่รู้กกกันมา7-8ปีแล้วแ
ต่พวกอาสามูลนิธิเค้ารู้กันทุกคนเพราะลูกน้องถูก2คนนี้ถูกข่มขู่ฆ่ามาโดย
ตลอดบังคับให้ซื้อใบเสร็จปลอมที่
ตัวเองพิมขึ้นมาเอง โดยแอบอ้างชื่อมูลนิธิที่ถูก
ต้อง
ตามกฎหมายโดยให้คนไปเดินเรี่ยไรทำลายชื่อเสียงมูลนิธิ
ต่างๆโกงเค้ามาจนรวย ซ์อรถ ซื้อบ้านได้เป็นหลังๆก็เป็นที่
ตั้งของมูลนิธิพิทักษ์คุณธรรมนี่แหละ บ้านหลังนี้ก็คือบ้านเลขที่ 28/24 ซอย.ประชาอุทิศ54 แยก4-2 แขวงบางมด เข
ตทุ่งครุ กทม. tel. 02-4262428
ตอนขอนุญาติเขต ทุ่งครุเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้ไปดูเลย เป็นแค่ทาวเฮ้า2ชั้นเล็กๆไม่ได้มีอะไรที่ดูแล้วจะเป็นสำนักงานได้เลยมี มอไซจอดอยู่ในบ้าน1คัน แถมขึ้นป้ายชื่อมูลนิธิแล้วยังเอาโรงศพมาไว้10กว่าโรงชาวบ้านแถวนั้นเค้าเอือมฃะอาจริงๆ
ไปฟ้องตำรวจทุ่งครุก็ไม่มีอะไรที่ดีขึ้น นอกจากนั้น สน.ทุ่งครุจะส่งรถสายตรวจมาจอกคุ้มครองให้อีกต่างหากไม่เชื่อไปถาม กรรมการตำรวจ สน.ทุ่งครุดูก็ได้ เพราะเค้ารับหนังสือร้องเรียนของชาวบ้านไว้แล้วอย่างนี้ต้องไปร้องถึงกรมตำรวจแล้วมั้ง แถมพวกอาสามูลนิธินี้ติดยาบ้ากันเป็นแถวไม่รู้ไปซื้อใบเสร็จเถื่อนแล้วมียาบ้าแถมมาด้วยหรือไม่ อยากรู้ต้องไปค้นดูเองนะตำรวจ สน.ทุ่งครุ (ลองดูนะจ๊ะ) ถ้าเจออะไรก็ช่วยบอกกันบ้าง แต่อย่าเอาตำรวจที่สั่งให้รถสายตรวจไปคุ้มครองไปตรวจค้นนะเดี๋ยวจะเสียความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
วันนี้มูลนิธินี้มาโผล่ที่โรงพยาบาลชุมชนในจังหวัดชุมพรครับ
เปลี่ยนชื่อเป็น สมาคมธนพร บุญเหลือ เพื่อการกุศล
มีคนเอาใบเสร็จวันที่ 18/2/55 มาให้ผม ยอดเงิน 700 บาท บอกว่าปีที่แล้วได้รับความร่วมมือดี ปีนี้เลยมาอีก แต่ผมเพิ่งทำงานที่นี่ตอน พค 55 แล้วตอน กพ 55 ก็ไม่เคยมาเหยียบที่นี่เลย
ปล บ้านเลขที่ เป็น28/444 ที่เหลือตรงกันหมดครับ
สงสัยว่ามูลนิธิพิทักษ์คุณธรรม ชื่อสุดหรูนี้ก่อ
ตั้งมาได้อย่างไรเพราะเท่าที่รู้นะมีกรรมการ5คน 1ใน5ชื่อ พันโทอนัน
ต์ รื่นพิทักษ์ คงเอานามสกุลไป
ตั้งหละมั้ง??แ
ต่เป็นคนอิสลามแล้วมาเป็นกรรมการมูลนิธิการกุศลได้อย่างไร เมื่อคนอิสลามห้ามทำบุญและรับบริจาคจากชาวพุทธ วัดวาอาราม
ต่างๆสงสัยเงินด้จากการบริจาคนี้คงไปช่วยชาวอิสลามอย่างเดียวมั้ง และที่รู้มาอีก
ตัวประธานมูลนิธินี้ นางสาวจันทร์ ทุ่งแจ้ง ก็เป็นพวก18มงกุฏมาก่อน เคยอยู่มูลนิธิมา3-4มูลนิธิ โกงเค้ามา
ตลอดจนมูลนิธินั้นๆเค้าไปไม่รอด ส่วนรองประธานก็เช่นกันคือ นางสาวจันทร์ฉาย บุญเหลือ (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น นางสาวธนพร บุญเหลือ) เพราะประวัติเดิมเคยติดคุกติดตารางมาเยอะ ไปถามคนเค้ารู้กันทั่วที่ สน.วัดชนะสงคราม ได้เลยว่าเคยอยู่ในคุกจริงไหม คดีเสพและจำหน่ายยาบ้า ดมกาว ค้าของเถื่อน เล่นการพนัน แย่งผัวชาวบ้านและยังออกลูกในคุกอีกด้วย
ตาดีเข้าวัดวาอาราม ฟังธรรม ทำบุญ ถือศีล อ่อ!!!!!!ลืมไป
ตัวประธานมูลนิธิหรือนางสาวจันทร์แรม ทุ่งแจ้ง ก็ยังเอาผัวเขามากกเช่นกัน ก็ผู้พัน(จอมปลอม)นั่นไง เมียของเค้าอยู่อยุธยา เมียจริงรู้หรือป่าวก็ไม่รู้กกกันมา7-8ปีแล้วแ
ต่พวกอาสามูลนิธิเค้ารู้กันทุกคนเพราะลูกน้องถูก2คนนี้ถูกข่มขู่ฆ่ามาโดย
ตลอดบังคับให้ซื้อใบเสร็จปลอมที่
ตัวเองพิมขึ้นมาเอง โดยแอบอ้างชื่อมูลนิธิที่ถูก
ต้อง
ตามกฎหมายโดยให้คนไปเดินเรี่ยไรทำลายชื่อเสียงมูลนิธิ
ต่างๆโกงเค้ามาจนรวย ซ์อรถ ซื้อบ้านได้เป็นหลังๆก็เป็นที่
ตั้งของมูลนิธิพิทักษ์คุณธรรมนี่แหละ บ้านหลังนี้ก็คือบ้านเลขที่ 28/24 ซอย.ประชาอุทิศ54 แยก4-2 แขวงบางมด เข
ตทุ่งครุ กทม. tel. 02-4262428
ตอนขอนุญาติเขต ทุ่งครุเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้ไปดูเลย เป็นแค่ทาวเฮ้า2ชั้นเล็กๆไม่ได้มีอะไรที่ดูแล้วจะเป็นสำนักงานได้เลยมี มอไซจอดอยู่ในบ้าน1คัน แถมขึ้นป้ายชื่อมูลนิธิแล้วยังเอาโรงศพมาไว้10กว่าโรงชาวบ้านแถวนั้นเค้าเอือมฃะอาจริงๆ
ไปฟ้องตำรวจทุ่งครุก็ไม่มีอะไรที่ดีขึ้น นอกจากนั้น สน.ทุ่งครุจะส่งรถสายตรวจมาจอกคุ้มครองให้อีกต่างหากไม่เชื่อไปถาม กรรมการตำรวจ สน.ทุ่งครุดูก็ได้ เพราะเค้ารับหนังสือร้องเรียนของชาวบ้านไว้แล้วอย่างนี้ต้องไปร้องถึงกรมตำรวจแล้วมั้ง แถมพวกอาสามูลนิธินี้ติดยาบ้ากันเป็นแถวไม่รู้ไปซื้อใบเสร็จเถื่อนแล้วมียาบ้าแถมมาด้วยหรือไม่ อยากรู้ต้องไปค้นดูเองนะตำรวจ สน.ทุ่งครุ (ลองดูนะจ๊ะ) ถ้าเจออะไรก็ช่วยบอกกันบ้าง แต่อย่าเอาตำรวจที่สั่งให้รถสายตรวจไปคุ้มครองไปตรวจค้นนะเดี๋ยวจะเสียความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
สงสัยว่ามูลนิธิพิทักษ์คุณธรรม ชื่อสุดหรูนี้ก่อ
ตั้งมาได้อย่างไรเพราะเท่าที่รู้นะมีกรรมการ5คน 1ใน5ชื่อ พันโทอนัน
ต์ รื่นพิทักษ์ คงเอานามสกุลไป
ตั้งหละมั้ง??แ
ต่เป็นคนอิสลามแล้วมาเป็นกรรมการมูลนิธิการกุศลได้อย่างไร เมื่อคนอิสลามห้ามทำบุญและรับบริจาคจากชาวพุทธ วัดวาอาราม
ต่างๆสงสัยเงินด้จากการบริจาคนี้คงไปช่วยชาวอิสลามอย่างเดียวมั้ง และที่รู้มาอีก
ตัวประธานมูลนิธินี้ นางสาวจันทร์ ทุ่งแจ้ง ก็เป็นพวก18มงกุฏมาก่อน เคยอยู่มูลนิธิมา3-4มูลนิธิ โกงเค้ามา
ตลอดจนมูลนิธินั้นๆเค้าไปไม่รอด ส่วนรองประธานก็เช่นกันคือ นางสาวจันทร์ฉาย บุญเหลือ (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น นางสาวธนพร บุญเหลือ) เพราะประวัติเดิมเคยติดคุกติดตารางมาเยอะ ไปถามคนเค้ารู้กันทั่วที่ สน.วัดชนะสงคราม ได้เลยว่าเคยอยู่ในคุกจริงไหม คดีเสพและจำหน่ายยาบ้า ดมกาว ค้าของเถื่อน เล่นการพนัน แย่งผัวชาวบ้านและยังออกลูกในคุกอีกด้วย
ตาดีเข้าวัดวาอาราม ฟังธรรม ทำบุญ ถือศีล อ่อ!!!!!!ลืมไป
ตัวประธานมูลนิธิหรือนางสาวจันทร์แรม ทุ่งแจ้ง ก็ยังเอาผัวเขามากกเช่นกัน ก็ผู้พัน(จอมปลอม)นั่นไง เมียของเค้าอยู่อยุธยา เมียจริงรู้หรือป่าวก็ไม่รู้กกกันมา7-8ปีแล้วแ
ต่พวกอาสามูลนิธิเค้ารู้กันทุกคนเพราะลูกน้องถูก2คนนี้ถูกข่มขู่ฆ่ามาโดย
ตลอดบังคับให้ซื้อใบเสร็จปลอมที่
ตัวเองพิมขึ้นมาเอง โดยแอบอ้างชื่อมูลนิธิที่ถูก
ต้อง
ตามกฎหมายโดยให้คนไปเดินเรี่ยไรทำลายชื่อเสียงมูลนิธิ
ต่างๆโกงเค้ามาจนรวย ซ์อรถ ซื้อบ้านได้เป็นหลังๆก็เป็นที่
ตั้งของมูลนิธิพิทักษ์คุณธรรมนี่แหละ บ้านหลังนี้ก็คือบ้านเลขที่ 28/24 ซอย.ประชาอุทิศ54 แยก4-2 แขวงบางมด เข
ตทุ่งครุ กทม. tel. 02-4262428
ตอนขอนุญาติเขต ทุ่งครุเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้ไปดูเลย เป็นแค่ทาวเฮ้า2ชั้นเล็กๆไม่ได้มีอะไรที่ดูแล้วจะเป็นสำนักงานได้เลยมี มอไซจอดอยู่ในบ้าน1คัน แถมขึ้นป้ายชื่อมูลนิธิแล้วยังเอาโรงศพมาไว้10กว่าโรงชาวบ้านแถวนั้นเค้าเอือมฃะอาจริงๆ
ไปฟ้องตำรวจทุ่งครุก็ไม่มีอะไรที่ดีขึ้น นอกจากนั้น สน.ทุ่งครุจะส่งรถสายตรวจมาจอกคุ้มครองให้อีกต่างหากไม่เชื่อไปถาม กรรมการตำรวจ สน.ทุ่งครุดูก็ได้ เพราะเค้ารับหนังสือร้องเรียนของชาวบ้านไว้แล้วอย่างนี้ต้องไปร้องถึงกรมตำรวจแล้วมั้ง แถมพวกอาสามูลนิธินี้ติดยาบ้ากันเป็นแถวไม่รู้ไปซื้อใบเสร็จเถื่อนแล้วมียาบ้าแถมมาด้วยหรือไม่ อยากรู้ต้องไปค้นดูเองนะตำรวจ สน.ทุ่งครุ (ลองดูนะจ๊ะ) ถ้าเจออะไรก็ช่วยบอกกันบ้าง แต่อย่าเอาตำรวจที่สั่งให้รถสายตรวจไปคุ้มครองไปตรวจค้นนะเดี๋ยวจะเสียความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
น่าเสียดาย นายอนันต์ รื่นพิทักษ์ คอยคุ้มครองเจ้าหน้าที่อาสาสมัครอย่างดี ตอนนี้เห็นว่าจะย้ายไปอยู่3จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว น่าจะเป็นช่วงแถบนราธิวาสเพราะเป็นอิสลามคงคุยกับพวกที่ก่อเหตุการณ์รนแรงรู้เรื่องเพราะภาษาเดียวกันนิสัยก็ไม่ต่างกันชอบรังแกผู้อื่นอยู่เป็นประจำ ไม่เชื่อก็ไปถามลูกน้องเก่าๆที่เค้าทนไม่ไหว ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วเพราะไม่อยากร่วมมือช่วยกันหลอกลวงประชาชนขายใบเสร็จเถื่อนๆอีกต่อไปและเค้าก็ไม่กลัวแล้วนะเพราะเค้าก็มีคนดีคุ้มครองอยู่ทำอะไรเค้าไม่ได้หลอก
มูลนิธิพิทักษ์คุณธรรมนี้ ต่อไปคงจะต้องรวยมาก รวยยยยยยยยยย รวยยยยย รวยยยย มั๊กมากกก!!!!
เพราะขายใบเสร็จปลอมของมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล ส่งคนไปเรี่ยไรเงินก็ไม่ได้เข้ามูลเข้ากระเป๋า เข้าบัญชี นางสาวจันทร์แรม ทุ่งแจ้ง ยอดจำนวนประมาน 1,000,000กว่าแล้ว ซึ่งเงินจะกระจายไปที่บัญชีลูกชายของตัวเอง ชื่อป๊อป ได้เงินมากมายแต่บริจาคเพื่อการกุศลได้รึป่าวเดี๋ยวผิดกฎอสลามซึ่งมีข้อห้ามบางประการอยู่ (ต้องขออภัยชาวมุสลิมที่ดีๆเราไม่ได้ละเมิดศาสนาของท่านแต่เราว่าคนเลวนอกรีดศาสนาคนนี้เท่านั้น) ไม่เลวได้อย่างไรใช้เมียน้องโกงเขามาตลอด ใช้ยศ อำนาจ หน้าที่ กลั่นแกล้งคนจน หาเงินซื้อรถซื้อทาวเฮ้า แต่ผู้หญิงเค้าไม่โง่นะเงินบางส่วนเค้าก็ไปเลี้ยงผู้ชายคนโปรดชื่อนายวิจิตร สุวรรณนา บ้านอยู่ย่านพระราม2เป็นคนขัยรถให้มูลนิธินี้ วันหลังแอบดูเอาเองนะจะบอกให้พวกอาสาเค้ารู้นะจ๊ะ^ ^ผู้พัน(จอมปลอม) มีแต่ควายโง่เท่านั้นที่ไม่รู้
มูลนิธิพิทักษ์คุณธรรมนี้ ต่อไปคงจะต้องรวยมาก รวยยยยยยยยยย รวยยยยย รวยยยย มั๊กมากกก!!!!
เพราะขายใบเสร็จปลอมของมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล ส่งคนไปเรี่ยไรเงินก็ไม่ได้เข้ามูลเข้ากระเป๋า เข้าบัญชี นางสาวจันทร์แรม ทุ่งแจ้ง ยอดจำนวนประมาน 1,000,000กว่าแล้ว ซึ่งเงินจะกระจายไปที่บัญชีลูกชายของตัวเอง ชื่อป๊อป ได้เงินมากมายแต่บริจาคเพื่อการกุศลได้รึป่าวเดี๋ยวผิดกฎอสลามซึ่งมีข้อห้ามบางประการอยู่ (ต้องขออภัยชาวมุสลิมที่ดีๆเราไม่ได้ละเมิดศาสนาของท่านแต่เราว่าคนเลวนอกรีดศาสนาคนนี้เท่านั้น) ไม่เลวได้อย่างไรใช้เมียน้องโกงเขามาตลอด ใช้ยศ อำนาจ หน้าที่ กลั่นแกล้งคนจน หาเงินซื้อรถซื้อทาวเฮ้า แต่ผู้หญิงเค้าไม่โง่นะเงินบางส่วนเค้าก็ไปเลี้ยงผู้ชายคนโปรดชื่อนายวิจิตร สุวรรณนา บ้านอยู่ย่านพระราม2เป็นคนขัยรถให้มูลนิธินี้ วันหลังแอบดูเอาเองนะจะบอกให้พวกอาสาเค้ารู้นะจ๊ะ^ ^ผู้พัน(จอมปลอม) มีแต่ควายโง่เท่านั้นที่ไม่รู้
มูลนิธิพิทักษ์คุณธรรมนี้ ต่อไปคงจะต้องรวยมาก รวยยยยยยยยยย รวยยยยย รวยยยย มั๊กมากกก!!!!
เพราะขายใบเสร็จปลอมของมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล ส่งคนไปเรี่ยไรเงินก็ไม่ได้เข้ามูลเข้ากระเป๋า เข้าบัญชี นางสาวจันทร์แรม ทุ่งแจ้ง ยอดจำนวนประมาน 1,000,000กว่าแล้ว ซึ่งเงินจะกระจายไปที่บัญชีลูกชายของตัวเอง ชื่อป๊อป ได้เงินมากมายแต่บริจาคเพื่อการกุศลได้รึป่าวเดี๋ยวผิดกฎอสลามซึ่งมีข้อห้ามบางประการอยู่ (ต้องขออภัยชาวมุสลิมที่ดีๆเราไม่ได้ละเมิดศาสนาของท่านแต่เราว่าคนเลวนอกรีดศาสนาคนนี้เท่านั้น) ไม่เลวได้อย่างไรใช้เมียน้องโกงเขามาตลอด ใช้ยศ อำนาจ หน้าที่ กลั่นแกล้งคนจน หาเงินซื้อรถซื้อทาวเฮ้า แต่ผู้หญิงเค้าไม่โง่นะเงินบางส่วนเค้าก็ไปเลี้ยงผู้ชายคนโปรดชื่อนายวิจิตร สุวรรณนา บ้านอยู่ย่านพระราม2เป็นคนขัยรถให้มูลนิธินี้ วันหลังแอบดูเอาเองนะจะบอกให้พวกอาสาเค้ารู้นะจ๊ะ^ ^ผู้พัน(จอมปลอม) มีแต่ควายโง่เท่านั้นที่ไม่รู้
ทั้งหมดทั้งปวงที่โพสมานี้ เนื่องจาก นางสาวจันทร์แรมทุ่งแจ้ง และ นางสาวจันทร์ บุญเหลือ(นางสาวธนพร บุญเหลือ) และนายอนันต์ รื่นพิทักษ์ ปลอมแปลงเอกสารมูลนิธิพิมพ์ใบเสร็จปลอมเดินเรี่ยไรหลอกลวงประชาชน ทางมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล มูลนิธิพุทธนิมิตและมูลนิธิส่งเสริมศีลธรรม ถูกแก๊ง18 มงกุฏนี้ใช้เป็นช่องทางทำมาหากินและพวกนี้เป็นผู้ริเริ่ม โพสกล่าวหามูลนิธิอื่นให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง วอนผู้อ่านทุกๆท่านพิจารณาอย่าฟังความด้านเดียวและอย่าใช้พื้นที่สื่อสาธารณะมาเป็นช่องทำมาหากิน!!!!!!!!!!!!
ภาพชายฉกรรจ์กลุ่มนี้เป็นแก๊งเรี่ยไรเงินของมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล ทำเป็นขวนการ โดยมีข้าราชการทหารและข้าราชการ กทม. ร่วมดำเนินการอยู่เบื้องหลังหลายคน เท่าที่ทราบชื่อ คือ พล.ร.อ.พัฒนะ อินทรบุญ นายสัญญา จากดุสิต (ข้าราชการสำนักงานเขตวังทองหลาง) น.ส.สุกันญา หรือเจี๊ยบ เจริญใจ (ภรรยาน้อย พล.ร.อ.พัฒนะ) ฯลฯ พฤติกรรม มีการขายบิลใบเสร็จให้กับพนักงานอาสาเดินเรี่ยไร ฉบับละ 250 บาท จากนั้นพนักงาน ฯ จะนำไปเดินเรี่ยไรจากประชาชนทั่วไป ได้เงินมาไม่ต้องส่งมูลนิธิเข้ากระเป่าส่วนตัว วัน ๆ หนึ่ง ซึ่งรถยนต์แต่ละสายจะมีรายได้ประมาณ 2 – 5 พันบาท แต่บางวันอาจจะขาดทุนไม่พอค่าน้ำมันบ้าง เช่น ฝนตกฟ้าร้อง หรือประชาชนบางคนรู้ทัน แจ้งตำรวจจับ รายได้ก็มักจะไม่ได้ตามเป้า ส่วนเงินที่ขายบิล ฯ พนักงานจะโอนเข้าบัญชี พล.ร.อ.พัฒนะ ฯ มาระยะหลัง พล.ร.อ.พัฒนะ ฯ เกรงว่าจะโดนตรวจสอบ จึงสั่งให้โอนเข้าบัญชีของ น.ส.เจี๊ยบ ฯ (ภรรยาน้อย) เงินที่ได้จากการขายบิลระยะหลัง ๆ ไม่มีการนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนเลย โดยเฉพาะปัจจุบันประชาชนประสบภัยนำท่วม ก็ยังไม่มีข่าวว่ามูลนิธินี้นำสิ่งของไปช่วยเหลือ ทั้ง ๆ ที่วัตถุประสงค์ของมูลนิธิระบุชัดเจนเพื่อช่วยเหลือผ้ประสบภัยพิบัติ อาจจะเป็นเพราะประธานมีหนี้สินมาก จึงจำเป็นต้องนำเงินขายบิลไปชำระหนี้ตนเอง ! ชั่งน่าสมเพสเวทนาสงสารเหลือเกิน ถ้างวดนี้ผมถูกหวยผมจะบริจาคปลดเปลื้องให้เอาบุญ จะได้บุญหรือเปล่าก็ไม่ ขอถามหลวงพ่อก่อน ดังนั้น เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิฉาชีพเหล่านี้จึงขอกระจายข่าวไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อบริจาคเงินให้มูลนิธินี้เป็นเด็ดขาด จากคนทุ่งครุซอย 79
ภาพชายฉกรรจ์กลุ่มนี้เป็นแก๊งเรี่ยไรเงินของมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล ทำเป็นขวนการ โดยมีข้าราชการทหารและข้าราชการ กทม. ร่วมดำเนินการอยู่เบื้องหลังหลายคน เท่าที่ทราบชื่อ คือ พล.ร.อ.พัฒนะ อินทรบุญ นายสัญญา จากดุสิต (ข้าราชการสำนักงานเขตวังทองหลาง) น.ส.สุกันญา หรือเจี๊ยบ เจริญใจ (ภรรยาน้อย พล.ร.อ.พัฒนะ) ฯลฯ พฤติกรรม มีการขายบิลใบเสร็จให้กับพนักงานอาสาเดินเรี่ยไร ฉบับละ 250 บาท จากนั้นพนักงาน ฯ จะนำไปเดินเรี่ยไรจากประชาชนทั่วไป ได้เงินมาไม่ต้องส่งมูลนิธิเข้ากระเป่าส่วนตัว วัน ๆ หนึ่ง ซึ่งรถยนต์แต่ละสายจะมีรายได้ประมาณ 2 – 5 พันบาท แต่บางวันอาจจะขาดทุนไม่พอค่าน้ำมันบ้าง เช่น ฝนตกฟ้าร้อง หรือประชาชนบางคนรู้ทัน แจ้งตำรวจจับ รายได้ก็มักจะไม่ได้ตามเป้า ส่วนเงินที่ขายบิล ฯ พนักงานจะโอนเข้าบัญชี พล.ร.อ.พัฒนะ ฯ มาระยะหลัง พล.ร.อ.พัฒนะ ฯ เกรงว่าจะโดนตรวจสอบ จึงสั่งให้โอนเข้าบัญชีของ น.ส.เจี๊ยบ ฯ (ภรรยาน้อย) เงินที่ได้จากการขายบิลระยะหลัง ๆ ไม่มีการนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนเลย โดยเฉพาะปัจจุบันประชาชนประสบภัยนำท่วม ก็ยังไม่มีข่าวว่ามูลนิธินี้นำสิ่งของไปช่วยเหลือ ทั้ง ๆ ที่วัตถุประสงค์ของมูลนิธิระบุชัดเจนเพื่อช่วยเหลือผ้ประสบภัยพิบัติ อาจจะเป็นเพราะประธานมีหนี้สินมาก จึงจำเป็นต้องนำเงินขายบิลไปชำระหนี้ตนเอง ! ชั่งน่าสมเพสเวทนาสงสารเหลือเกิน ถ้างวดนี้ผมถูกหวยผมจะบริจาคปลดเปลื้องให้เอาบุญ จะได้บุญหรือเปล่าก็ไม่ ขอถามหลวงพ่อก่อน ดังนั้น เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิฉาชีพเหล่านี้จึงขอกระจายข่าวไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อ
ภาพชายฉกรรจ์กลุ่มนี้เป็นแก๊งเรี่ยไรเงินของมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล ทำเป็นขวนการ โดยมีข้าราชการทหารและข้าราชการ กทม. ร่วมดำเนินการอยู่เบื้องหลังหลายคน เท่าที่ทราบชื่อ คือ พล.ร.อ.พัฒนะ อินทรบุญ นายสัญญา จากดุสิต (ข้าราชการสำนักงานเขตวังทองหลาง) น.ส.สุกันญา หรือเจี๊ยบ เจริญใจ (ภรรยาน้อย พล.ร.อ.พัฒนะ) ฯลฯ พฤติกรรม มีการขายบิลใบเสร็จให้กับพนักงานอาสาเดินเรี่ยไร ฉบับละ 250 บาท จากนั้นพนักงาน ฯ จะนำไปเดินเรี่ยไรจากประชาชนทั่วไป ได้เงินมาไม่ต้องส่งมูลนิธิเข้ากระเป่าส่วนตัว วัน ๆ หนึ่ง ซึ่งรถยนต์แต่ละสายจะมีรายได้ประมาณ 2 – 5 พันบาท แต่บางวันอาจจะขาดทุนไม่พอค่าน้ำมันบ้าง เช่น ฝนตกฟ้าร้อง หรือประชาชนบางคนรู้ทัน แจ้งตำรวจจับ รายได้ก็มักจะไม่ได้ตามเป้า ส่วนเงินที่ขายบิล ฯ พนักงานจะโอนเข้าบัญชี พล.ร.อ.พัฒนะ ฯ มาระยะหลัง พล.ร.อ.พัฒนะ ฯ เกรงว่าจะโดนตรวจสอบ จึงสั่งให้โอนเข้าบัญชีของ น.ส.เจี๊ยบ ฯ (ภรรยาน้อย) เงินที่ได้จากการขายบิลระยะหลัง ๆ ไม่มีการนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนเลย โดยเฉพาะปัจจุบันประชาชนประสบภัยนำท่วม ก็ยังไม่มีข่าวว่ามูลนิธินี้นำสิ่งของไปช่วยเหลือ ทั้ง ๆ ที่วัตถุประสงค์ของมูลนิธิระบุชัดเจนเพื่อช่วยเหลือผ้ประสบภัยพิบัติ อาจจะเป็นเพราะประธานมีหนี้สินมาก จึงจำเป็นต้องนำเงินขายบิลไปชำระหนี้ตนเอง ! ชั่งน่าสมเพสเวทนาสงสารเหลือเกิน ถ้างวดนี้ผมถูกหวยผมจะบริจาคปลดเปลื้องให้เอาบุญ จะได้บุญหรือเปล่าก็ไม่ ขอถามหลวงพ่อก่อน ดังนั้น เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิฉาชีพเหล่านี้จึงขอกระจายข่าวไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อบริจาคเงินให้มูลนิธินี้เป็นเด็ดขาด จากคนทุ่งครุซอย 79
ภาพชายฉกรรจ์กลุ่มนี้เป็นแก๊งเรี่ยไรเงินของมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล ทำเป็นขวนการ โดยมีข้าราชการทหารและข้าราชการ กทม. ร่วมดำเนินการอยู่เบื้องหลังหลายคน เท่าที่ทราบชื่อ คือ พล.ร.อ.พัฒนะ อินทรบุญ นายสัญญา จากดุสิต (ข้าราชการสำนักงานเขตวังทองหลาง) น.ส.สุกันญา หรือเจี๊ยบ เจริญใจ (ภรรยาน้อย พล.ร.อ.พัฒนะ) ฯลฯ พฤติกรรม มีการขายบิลใบเสร็จให้กับพนักงานอาสาเดินเรี่ยไร ฉบับละ 250 บาท จากนั้นพนักงาน ฯ จะนำไปเดินเรี่ยไรจากประชาชนทั่วไป ได้เงินมาไม่ต้องส่งมูลนิธิเข้ากระเป่าส่วนตัว วัน ๆ หนึ่ง ซึ่งรถยนต์แต่ละสายจะมีรายได้ประมาณ 2 – 5 พันบาท แต่บางวันอาจจะขาดทุนไม่พอค่าน้ำมันบ้าง เช่น ฝนตกฟ้าร้อง หรือประชาชนบางคนรู้ทัน แจ้งตำรวจจับ รายได้ก็มักจะไม่ได้ตามเป้า ส่วนเงินที่ขายบิล ฯ พนักงานจะโอนเข้าบัญชี พล.ร.อ.พัฒนะ ฯ มาระยะหลัง พล.ร.อ.พัฒนะ ฯ เกรงว่าจะโดนตรวจสอบ จึงสั่งให้โอนเข้าบัญชีของ น.ส.เจี๊ยบ ฯ (ภรรยาน้อย) เงินที่ได้จากการขายบิลระยะหลัง ๆ ไม่มีการนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนเลย โดยเฉพาะปัจจุบันประชาชนประสบภัยนำท่วม ก็ยังไม่มีข่าวว่ามูลนิธินี้นำสิ่งข
เตือนภัยพวกมิจฉาชีพ!!! เดินขอรับบริจาคเงินตามบ้าน มีใบเสร็จรับเงินให้ (ใบเสร็จรับเงินซื้อได้ทั่วไป) ทำเป็นขบวนการ โดยเงินที่ได้รับบริจาคมาคนที่เดินขอได้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งคนที่ขับรถได้ ไม่ได้เข้ามูลนิธิแม้แต่น้อย พวกนี้ใช่ชื่อว่า “มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล” โดยมี พล.ร.อ.พัฒนะ อินทรบุญ เป็นประธาน และ นายสัญญา จากดุสิต เป็นเลขานุการ ฯ ที่ทราบข่าวนี้เพราะว่าคนที่ไปทำเคยเป็นพนักงานของบริษัทที่บ้าน ลาออกไปทำแล้วมาชักชวนพนักงานในบริษัทไปทำด้วย เราไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเขาไม่ใช่พนักงานในบริษัทเรา ก็ได้แค่พยายามเตือนพนักงานในบริษัทเราไม่ให้ไปทำเรื่องไม่ดี อยากขอเตือนเพื่อนๆว่า อย่าไปบริจาคเงินให้กับพวกมิจฉาชีพพวกนี้ และฝากเพื่อนๆกระจายข่าวต่อให้ผู้อื่นทราบด้วยนะค่ะ
เตือนภัยพวกมิจฉาชีพ!!! เดินขอรับบริจาคเงินตามบ้าน มีใบเสร็จรับเงินให้ (ใบเสร็จรับเงินซื้อได้ทั่วไป) ทำเป็นขบวนการ โดยเงินที่ได้รับบริจาคมาคนที่เดินขอได้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งคนที่ขับรถได้ ไม่ได้เข้ามูลนิธิแม้แต่น้อย พวกนี้ใช่ชื่อว่า “มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล” โดยมี พล.ร.อ.พัฒนะ อินทรบุญ เป็นประธาน และ นายสัญญา จากดุสิต เป็นเลขานุการ ฯ ที่ทราบข่าวนี้เพราะว่าคนที่ไปทำเคยเป็นพนักงานของบริษัทที่บ้าน ลาออกไปทำแล้วมาชักชวนพนักงานในบริษัทไปทำด้วย เราไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเขาไม่ใช่พนักงานในบริษัทเรา ก็ได้แค่พยายามเตือนพนักงานในบริษัทเราไม่ให้ไปทำเรื่องไม่ดี อยากขอเตือนเพื่อนๆว่า อย่าไปบริจาคเงินให้กับพวกมิจฉาชีพพวกนี้ และฝากเพื่อนๆกระจายข่าวต่อให้ผู้อื่นทราบด้วยนะค่ะ
เตือนภัยพวกมิจฉาชีพ!!! เดินขอรับบริจาคเงินตามบ้าน มีใบเสร็จรับเงินให้ (ใบเสร็จรับเงินซื้อได้ทั่วไป) ทำเป็นขบวนการ โดยเงินที่ได้รับบริจาคมาคนที่เดินขอได้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งคนที่ขับรถได้ ไม่ได้เข้ามูลนิธิแม้แต่น้อย พวกนี้ใช่ชื่อว่า “มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล” โดยมี พล.ร.อ.พัฒนะ อินทรบุญ เป็นประธาน และ นายสัญญา จากดุสิต เป็นเลขานุการ ฯ ที่ทราบข่าวนี้เพราะว่าคนที่ไปทำเคยเป็นพนักงานของบริษัทที่บ้าน ลาออกไปทำแล้วมาชักชวนพนักงานในบริษัทไปทำด้วย เราไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเขาไม่ใช่พนักงานในบริษัทเรา ก็ได้แค่พยายามเตือนพนักงานในบริษัทเราไม่ให้ไปทำเรื่องไม่ดี อยากขอเตือนเพื่อนๆว่า อย่าไปบริจาคเงินให้กับพวกมิจฉาชีพพวกนี้ และฝากเพื่อนๆกระจายข่าวต่อให้ผู้อื่นทราบด้วยนะค่ะ
เตือนภัยพวกมิจฉาชีพ!!! เดินขอรับบริจาคเงินตามบ้าน มีใบเสร็จรับเงินให้ (ใบเสร็จรับเงินซื้อได้ทั่วไป) ทำเป็นขบวนการ โดยเงินที่ได้รับบริจาคมาคนที่เดินขอได้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งคนที่ขับรถได้ ไม่ได้เข้ามูลนิธิแม้แต่น้อย พวกนี้ใช่ชื่อว่า “มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล” โดยมี พล.ร.อ.พัฒนะ อินทรบุญ เป็นประธาน และ นายสัญญา จากดุสิต เป็นเลขานุการ ฯ ที่ทราบข่าวนี้เพราะว่าคนที่ไปทำเคยเป็นพนักงานของบริษัทที่บ้าน ลาออกไปทำแล้วมาชักชวนพนักงานในบริษัทไปทำด้วย เราไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเขาไม่ใช่พนักงานในบริษัทเรา ก็ได้แค่พยายามเตือนพนักงานในบริษัทเราไม่ให้ไปทำเรื่องไม่ดี อยากขอเตือนเพื่อนๆว่า อย่าไปบริจาคเงินให้กับพวกมิจฉาชีพพวกนี้ และฝากเพื่อนๆกระจายข่าวต่อให้ผู้อื่นทราบด้วยนะค่ะ
เตือนภัยพวกมิจฉาชีพ!!! เดินขอรับบริจาคเงินตามบ้าน มีใบเสร็จรับเงินให้ (ใบเสร็จรับเงินซื้อได้ทั่วไป) ทำเป็นขบวนการ โดยเงินที่ได้รับบริจาคมาคนที่เดินขอได้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งคนที่ขับรถได้ ไม่ได้เข้ามูลนิธิแม้แต่น้อย พวกนี้ใช่ชื่อว่า “มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล” โดยมี พล.ร.อ.พัฒนะ อินทรบุญ เป็นประธาน และ นายสัญญา จากดุสิต เป็นเลขานุการ ฯ ที่ทราบข่าวนี้เพราะว่าคนที่ไปทำเคยเป็นพนักงานของบริษัทที่บ้าน ลาออกไปทำแล้วมาชักชวนพนักงานในบริษัทไปทำด้วย เราไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเขาไม่ใช่พนักงานในบริษัทเรา ก็ได้แค่พยายามเตือนพนักงานในบริษัทเราไม่ให้ไปทำเรื่องไม่ดี อยากขอเตือนเพื่อนๆว่า อย่าไปบริจาคเงินให้กับพวกมิจฉาชีพพวกนี้ และฝากเพื่อนๆกระจายข่าวต่อให้ผู้อื่นทราบด้วยนะค่ะ
เตือนภัยพวกมิจฉาชีพ!!! เดินขอรับบริจาคเงินตามบ้าน มีใบเสร็จรับเงินให้ (ใบเสร็จรับเงินซื้อได้ทั่วไป) ทำเป็นขบวนการ โดยเงินที่ได้รับบริจาคมาคนที่เดินขอได้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งคนที่ขับรถได้ ไม่ได้เข้ามูลนิธิแม้แต่น้อย พวกนี้ใช่ชื่อว่า “มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล” โดยมี พล.ร.อ.พัฒนะ อินทรบุญ เป็นประธาน และ นายสัญญา จากดุสิต เป็นเลขานุการ ฯ ที่ทราบข่าวนี้เพราะว่าคนที่ไปทำเคยเป็นพนักงานของบริษัทที่บ้าน ลาออกไปทำแล้วมาชักชวนพนักงานในบริษัทไปทำด้วย เราไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเขาไม่ใช่พนักงานในบริษัทเรา ก็ได้แค่พยายามเตือนพนักงานในบริษัทเราไม่ให้ไปทำเรื่องไม่ดี อยากขอเตือนเพื่อนๆว่า อย่าไปบริจาคเงินให้กับพวกมิจฉาชีพพวกนี้ และฝากเพื่อนๆกระจายข่าวต่อให้ผู้อื่นทราบด้วยนะค่ะ
นทร์:
ระวัง!วายร้ายในคราบนักบุญ
ตั้งมูลนิธิสวมรอยรีดเงินบริจาค
ท่ามกลางน้ำใจที่หลั่งไหลสู่ “เหยื่ออุทกภัย” ภาคเหนือ กลับปรากฏพฤติกรรมร้ายๆ จาก “มิจฉาชีพ” กลุ่มหนึ่งที่อาศัยช่องโหว่ในการ “บริจาค” ทั้งเงินและสิ่งของ ด้วยการแอบอ้างตัว และตั้ง “มูลนิธิเถื่อน” ออกเรี่ยไรเงินบริจาค ก่อน “ฮุบ” เข้ากระเป๋าตัวเอง…..
“มูลนิธิต่างๆ เป็นห่วงมาก เพราะมีกลุ่มนายทุนถือโอกาสแอบอ้างตัวเป็นมูลนิธิออกเรี่ยไรเงิน ด้วยการสวมรอยเป็นหน่วยกู้ภัยออกตระเวนถ่ายภาพเหตุอุทกภัย แล้วแอบอ้างเป็นมูลนิธิ เดินเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านที่ต้องการบริจาคเงินและสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งทำให้มูลนิธิที่ตั้งใจทำงานช่วยเหลือสังคมจริงๆ เสียชื่อเสียง” พรชัย จิรกวีกุล หัวหน้าฝ่ายกู้ภัยมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ จ.ขอนแก่น ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ “วายร้าย” ในคราบ “หน่วยกู้ภัย” กลุ่มหนึ่ง “พรชัย” กล่าวอีกว่า ทุกจังหวัดจะมีหน่วยกู้ภัยควรช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยต่างๆ แต่สำนักงานมูลนิธิจะไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ออกเดินทางไปเรี่ยไรเงินรับบริจาค ส่วนหน่วยกู้ภัยที่ออกมาเรี่ยไรเงินบริจาคตามหมู่บ้าน และหน่วยราชการในจังหวัดต่างๆ จะเป็น “กลุ่มนายทุน” ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิมาจาก กทม.และเขตปริมณฑล อาทิเช่น มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์การกุศล มี พล.ร.อ.พัฒนา อินทรบุญ ประธานมูลนิธิ นายสัญญา จากดุสิต (ข้าราชการ กทม.) เลขามูลนิธิ ออกตระเวนเรี่ยไรเงิน โดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะใบอนุญาตหมดอายุ14 ก.ย.54 ซึ่งถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ถ้าใครพบเห็นสามารถแจ้งตำรวจในพื้นที่จับกุมได้ในข้อหาหลอกลวง ต้มตุ๋น “พรชัย”กล่าวด้วยว่า สำหรับพฤติกรรมของ “วายร้ายในคราบนักบุญ” เหล่านี้ จะมีลักษณะคล้ายกัน คือ เป็นกลุ่มนายทุนที่ร่วมกันตั้งคณะทำงานขึ้นมา แล้วไปขอจดทะเบียนเป็นมูลนิธิถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ จากนั้นก็จะจ้างลูกมือประมาณ 4-5 คน ใช้ชื่อมูลนิธิ และเอกสารการก่อตั้งที่ได้รับอนุญาตการเปิดมูลนิธิเป็น “ใบเบิกทาง” ออกไปหากินเรี่ยไร่เงินตามจังหวัดต่างๆ โดยเงินบริจาคที่ได้มาจากประชาชนจะนำไปช่วยเหลือบางส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง
“นอกจากนี้ ยังมีนายทุนบางกลุ่มที่ไม่ได้ขออนุญาตเปิดมูลนิธิ แต่รู้จักคุ้นเคยกับกลุ่มคนที่ทำงานเป็นคณะกรรมการในมูลนิธิใดมูลนิธิหนึ่ง ซึ่งส่วนมากจะเป็นมูลนิธิที่เปิดใหม่ และไม่มีผู้บริจาคเงิน โดยนายทุนกลุ่มนี้จะเข้าไปช่วยวางแผน แล้วขอใช้ชื่อมูลนิธิ และเอกสารต่างๆ ของมูลนิธินั้นๆ ออกไปเรี่ยไรเงิน แล้วนำผลประโยชน์มาแบ่งกัน คือ ถ้ามีเงินบริจาค 100 บาท จะเข้ามูลนิธิจริงๆแค่ 40 บาท ส่วนกลุ่มนายทุนรับไปเต็มๆ 60 บาท ซึ่งแต่ละวันสามารถหาเงินได้ตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท” พรชัย กล่าว
ด้านนางเพียง กรมน้อย อายุ 75 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ตนเป็นคนที่ชอบทำบุญ และเคยถูกหลอกเสียเงินเป็นหมื่นบาท โดยมีมูลนิธิแห่งหนึ่งอ้างว่ามาจาก กทม. มาขอบริจาคเงินไปช่วย “เหยื่อสึนามิ” โดยนำรูปถ่ายเหตุการณ์สึนามิมาให้ดูด้วย ครั้งแรกขอบริจาคเงินไป 3,000 บาท และให้พระพุทธรูปมาหนึ่งองค์ จากนั้นคนกลุ่มเดิมก็เข้ามาขอบริจาคอีกเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งหลังนี้ขอไป 7,000 บาท ตนเห็นว่ามันแปลกๆ จึงปรึกษากับลูกสาว แล้วไปเข้าแจ้งความตำรวจ ซึ่งได้พยายามติดตามคนกลุ่มนี้ตามเอกสารขออนุญาตตั้งมูลนิธิ แต่ตามไม่เจอ
ขณะที่ “เอก” อายุ 27 ปี อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิแห่งหนึ่งกล่าวว่า ตนเคยอยู่กับมูลนิธิเหล่านี้โดยพฤติกรรมคนเหล่านี้ คือ จะเป็นกลุ่มนายทุนที่ไม่ใช่มูลนิธิโดยตรง แต่มาลงทุนซื้อรถยนต์และจ้างลูกมือ 4-5 คน ถ้าต้องการเงินมากรับบริจาคมากก็จะจ้างลูกมือหลายคน เพื่อช่วยกันออกมา “หลอก” เรี่ยไรเงินชาวบ้าน โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ ซึ่งนายทุนกลุ่มนี้กับคณะกรรมการมูลนิธิตัวจริงจะตกลงกันก่อนว่าแต่ละเดือนต้องจัดสรรผลประโยชน์แบ่งกันเท่าไร “เอก” กล่าวอีกว่า ถ้าประชาชนพบเห็นกลุ่มคนเหล่านี้มาขอเรี่ยไรเงินบริจาคให้ตรวจสอบเอกสารการขออนุญาตรับเงินบริจาคก่อนว่าถูกต้อง เป็นของจริงหรือไม่ เพราะการจะออกมาเรี่ยไรเงินบริจาคได้ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด หรือตำรวจในท้องที่นั้นๆ ก่อน จึงจะสามารถออกมาเรี่ยไรเงินได้
“เท่าที่ทราบมาไม่มีเคยมีเจ้าหน้าคนใดอนุญาตให้ออกเรี่ยไรเงิน เพราะเมื่ออนุญาตไปแล้วกลุ่มคนเหล่านี้จะนำใบอนุญาตไปแอบอ้างในทางที่ไม่ถูกต้อง และส่วนมากใบอนุญาตที่เห็นๆ กันจะเป็นของปลอม ทำขึ้นมาเอง จึงอยากจะเตือนประชาชนให้ระวัง ถ้าเห็นคนของมูลนิธิออกมาเรี่ยไรเงินสามารถแจ้งตำรววจจับได้ทันที” อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ผู้นี้ กล่าว
ด้าน “พ.ต.ท.อนุกูล ดาวลอย” รอง.ผกก.(ป) สภ.อ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ทางตำรวจได้มีการออกตรวจตามพื้นที่ได้รับผิดชอบตลอด และมีประชาชนร้องเรียนว่ามีกลุ่มมูลนิธิเดินเรี่ยไรเงินตลอด เมื่อตำรวจออกไปตรวจกลุ่มมูลนิธิจะไม่สามารถแสดงใบอนุญาตการออกเรี่ยไรเงินรับบริจาค และสามารถจับกุมได้หลายราย ตามกฎหมายบทลงโทษของการเรี่ยไรเงินเป็นคดีลหุโทษ มีโทษปรับไม่เกิด 1,000 บาท หลังจากนั้นก็มีการประกันตัวออกไป และออกมาเรี่ยไรเงินอีกเหมือนเดิม และถ้ามูลนิธิ หรือวัดต่างๆ จะออกเดินขอเงินทำบุญ หรือเรี่ยไรเงิน ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่เท่านั้น โดยจะมีการออกหนังสือรับรองที่ถูกต้องให้ แต่ระยะหลังมีมูลนิธิที่ออกมาเรี่ยไรเงินโดยไม่มีการขออนุญาต รวมถึงใช้ใบอนุญาตปลอมเป็นจำนวนมาก จึงอยากเตือนประชาชนให้ตรวจเอกสารของกลุ่มที่เข้ามาเรี่ยไรเงินอย่างละเอียด
แต่อย่างไรก็ดี กลุ่มวายร้ายในคราบนักบุญ ยังคงออกเดินสายเรี่ยไรเงินตามจังหวัดต่างๆ อยู่เพียงแค่ต้องการหาเงินบริจาคของผู้ใจบุญ โดยเป็นความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คน และคิดถึงบาปบุญคุณโทษ ว่าใครจะได้รับผลกระทบเดือนร้อนบ้าง หากประชาชนต้องการให้กลุ่มเหล่านี้หมดจากสังคม หรือไม่ต้องการถูกหลอก ควรระวัง หรือแจ้งตำรวจในพื้นที่ตรวจสอบจับกุมทันที
http://www.naewna.com/news.asp?ID=12589
ระวังด้วยครับ อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยไม่รู้ตัว
ยามเฝ้าแผ่นดิน:
ตอนนี้น้ำท่วมหลายจังหวัดมาก ไม่รู้จะเริ่มบริจาคให้จังหวัดไหนดี
นำร่อง
นทร์:
ระวัง!วายร้ายในคราบนักบุญ
ตั้งมูลนิธิสวมรอยรีดเงินบริจาค
ท่ามกลางน้ำใจที่หลั่งไหลสู่ “เหยื่ออุทกภัย” ภาคเหนือ กลับปรากฏพฤติกรรมร้ายๆ จาก “มิจฉาชีพ” กลุ่มหนึ่งที่อาศัยช่องโหว่ในการ “บริจาค” ทั้งเงินและสิ่งของ ด้วยการแอบอ้างตัว และตั้ง “มูลนิธิเถื่อน” ออกเรี่ยไรเงินบริจาค ก่อน “ฮุบ” เข้ากระเป๋าตัวเอง…..
“มูลนิธิต่างๆ เป็นห่วงมาก เพราะมีกลุ่มนายทุนถือโอกาสแอบอ้างตัวเป็นมูลนิธิออกเรี่ยไรเงิน ด้วยการสวมรอยเป็นหน่วยกู้ภัยออกตระเวนถ่ายภาพเหตุอุทกภัย แล้วแอบอ้างเป็นมูลนิธิ เดินเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านที่ต้องการบริจาคเงินและสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งทำให้มูลนิธิที่ตั้งใจทำงานช่วยเหลือสังคมจริงๆ เสียชื่อเสียง” พรชัย จิรกวีกุล หัวหน้าฝ่ายกู้ภัยมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ จ.ขอนแก่น ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ “วายร้าย” ในคราบ “หน่วยกู้ภัย” กลุ่มหนึ่ง “พรชัย” กล่าวอีกว่า ทุกจังหวัดจะมีหน่วยกู้ภัยควรช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยต่างๆ แต่สำนักงานมูลนิธิจะไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ออกเดินทางไปเรี่ยไรเงินรับบริจาค ส่วนหน่วยกู้ภัยที่ออกมาเรี่ยไรเงินบริจาคตามหมู่บ้าน และหน่วยราชการในจังหวัดต่างๆ จะเป็น “กลุ่มนายทุน” ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิมาจาก กทม.และเขตปริมณฑล อาทิเช่น มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์การกุศล มี พล.ร.อ.พัฒนา อินทรบุญ ประธานมูลนิธิ นายสัญญา จากดุสิต (ข้าราชการ กทม.) เลขามูลนิธิ ออกตระเวนเรี่ยไรเงิน โดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะใบอนุญาตหมดอายุ14 ก.ย.54 ซึ่งถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ถ้าใครพบเห็นสามารถแจ้งตำรวจในพื้นที่จับกุมได้ในข้อหาหลอกลวง ต้มตุ๋น “พรชัย”กล่าวด้วยว่า สำหรับพฤติกรรมของ “วายร้ายในคราบนักบุญ” เหล่านี้ จะมีลักษณะคล้ายกัน คือ เป็นกลุ่มนายทุนที่ร่วมกันตั้งคณะทำงานขึ้นมา แล้วไปขอจดทะเบียนเป็นมูลนิธิถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ จากนั้นก็จะจ้างลูกมือประมาณ 4-5 คน ใช้ชื่อมูลนิธิ และเอกสารการก่อตั้งที่ได้รับอนุญาตการเปิดมูลนิธิเป็น “ใบเบิกทาง” ออกไปหากินเรี่ยไร่เงินตามจังหวัดต่างๆ โดยเงินบริจาคที่ได้มาจากประชาชนจะนำไปช่วยเหลือบางส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง
“นอกจากนี้ ยังมีนายทุนบางกลุ่มที่ไม่ได้ขออนุญาตเปิดมูลนิธิ แต่รู้จักคุ้นเคยกับกลุ่มคนที่ทำงานเป็นคณะกรรมการในมูลนิธิใดมูลนิธิหนึ่ง ซึ่งส่วนมากจะเป็นมูลนิธิที่เปิดใหม่ และไม่มีผู้บริจาคเงิน โดยนายทุนกลุ่มนี้จะเข้าไปช่วยวางแผน แล้วขอใช้ชื่อมูลนิธิ และเอกสารต่างๆ ของมูลนิธินั้นๆ ออกไปเรี่ยไรเงิน แล้วนำผลประโยชน์มาแบ่งกัน คือ ถ้ามีเงินบริจาค 100 บาท จะเข้ามูลนิธิจริงๆแค่ 40 บาท ส่วนกลุ่มนายทุนรับไปเต็มๆ 60 บาท ซึ่งแต่ละวันสามารถหาเงินได้ตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท” พรชัย กล่าว
ด้านนางเพียง กรมน้อย อายุ 75 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ตนเป็นคนที่ชอบทำบุญ และเคยถูกหลอกเสียเงินเป็นหมื่นบาท โดยมีมูลนิธิแห่งหนึ่งอ้างว่ามาจาก กทม. มาขอบริจาคเงินไปช่วย “เหยื่อสึนามิ” โดยนำรูปถ่ายเหตุการณ์สึนามิมาให้ดูด้วย ครั้งแรกขอบริจาคเงินไป 3,000 บาท และให้พระพุทธรูปมาหนึ่งองค์ จากนั้นคนกลุ่มเดิมก็เข้ามาขอบริจาคอีกเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งหลังนี้ขอไป 7,000 บาท ตนเห็นว่ามันแปลกๆ จึงปรึกษากับลูกสาว แล้วไปเข้าแจ้งความตำรวจ ซึ่งได้พยายามติดตามคนกลุ่มนี้ตามเอกสารขออนุญาตตั้งมูลนิธิ แต่ตามไม่เจอ
ขณะที่ “เอก” อายุ 27 ปี อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิแห่งหนึ่งกล่าวว่า ตนเคยอยู่กับมูลนิธิเหล่านี้โดยพฤติกรรมคนเหล่านี้ คือ จะเป็นกลุ่มนายทุนที่ไม่ใช่มูลนิธิโดยตรง แต่มาลงทุนซื้อรถยนต์และจ้างลูกมือ 4-5 คน ถ้าต้องการเงินมากรับบริจาคมากก็จะจ้างลูกมือหลายคน เพื่อช่วยกันออกมา “หลอก” เรี่ยไรเงินชาวบ้าน โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ ซึ่งนายทุนกลุ่มนี้กับคณะกรรมการมูลนิธิตัวจริงจะตกลงกันก่อนว่าแต่ละเดือนต้องจัดสรรผลประโยชน์แบ่งกันเท่าไร “เอก” กล่าวอีกว่า ถ้าประชาชนพบเห็นกลุ่มคนเหล่านี้มาขอเรี่ยไรเงินบริจาคให้ตรวจสอบเอกสารการขออนุญาตรับเงินบริจาคก่อนว่าถูกต้อง เป็นของจริงหรือไม่ เพราะการจะออกมาเรี่ยไรเงินบริจาคได้ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด หรือตำรวจในท้องที่นั้นๆ ก่อน จึงจะสามารถออกมาเรี่ยไรเงินได้
“เท่าที่ทราบมาไม่มีเคยมีเจ้าหน้าคนใดอนุญาตให้ออกเรี่ยไรเงิน เพราะเมื่ออนุญาตไปแล้วกลุ่มคนเหล่านี้จะนำใบอนุญาตไปแอบอ้างในทางที่ไม่ถูกต้อง และส่วนมากใบอนุญาตที่เห็นๆ กันจะเป็นของปลอม ทำขึ้นมาเอง จึงอยากจะเตือนประชาชนให้ระวัง ถ้าเห็นคนของมูลนิธิออกมาเรี่ยไรเงินสามารถแจ้งตำรววจจับได้ทันที” อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ผู้นี้ กล่าว
ด้าน “พ.ต.ท.อนุกูล ดาวลอย” รอง.ผกก.(ป) สภ.อ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ทางตำรวจได้มีการออกตรวจตามพื้นที่ได้รับผิดชอบตลอด และมีประชาชนร้องเรียนว่ามีกลุ่มมูลนิธิเดินเรี่ยไรเงินตลอด เมื่อตำรวจออกไปตรวจกลุ่มมูลนิธิจะไม่สามารถแสดงใบอนุญาตการออกเรี่ยไรเงินรับบริจาค และสามารถจับกุมได้หลายราย ตามกฎหมายบทลงโทษของการเรี่ยไรเงินเป็นคดีลหุโทษ มีโทษปรับไม่เกิด 1,000 บาท หลังจากนั้นก็มีการประกันตัวออกไป และออกมาเรี่ยไรเงินอีกเหมือนเดิม และถ้ามูลนิธิ หรือวัดต่างๆ จะออกเดินขอเงินทำบุญ หรือเรี่ยไรเงิน ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่เท่านั้น โดยจะมีการออกหนังสือรับรองที่ถูกต้องให้ แต่ระยะหลังมีมูลนิธิที่ออกมาเรี่ยไรเงินโดยไม่มีการขออนุญาต รวมถึงใช้ใบอนุญาตปลอมเป็นจำนวนมาก จึงอยากเตือนประชาชนให้ตรวจเอกสารของกลุ่มที่เข้ามาเรี่ยไรเงินอย่างละเอียด
แต่อย่างไรก็ดี กลุ่มวายร้ายในคราบนักบุญ ยังคงออกเดินสายเรี่ยไรเงินตามจังหวัดต่างๆ อยู่เพียงแค่ต้องการหาเงินบริจาคของผู้ใจบุญ โดยเป็นความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คน และคิดถึงบาปบุญคุณโทษ ว่าใครจะได้รับผลกระทบเดือนร้อนบ้าง หากประชาชนต้องการให้กลุ่มเหล่านี้หมดจากสังคม หรือไม่ต้องการถูกหลอก ควรระวัง หรือแจ้งตำรวจในพื้นที่ตรวจสอบจับกุมทันที
http://www.naewna.com/news.asp?ID=12589
ระวังด้วยครับ อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยไม่รู้ตัว
ยามเฝ้าแผ่นดิน:
ตอนนี้น้ำท่วมหลายจังหวัดมาก ไม่รู้จะเริ่มบริจาคให้จังหวัดไหนดี
นำร่อง
นทร์:
ระวัง!วายร้ายในคราบนักบุญ
ตั้งมูลนิธิสวมรอยรีดเงินบริจาค
ท่ามกลางน้ำใจที่หลั่งไหลสู่ “เหยื่ออุทกภัย” ภาคเหนือ กลับปรากฏพฤติกรรมร้ายๆ จาก “มิจฉาชีพ” กลุ่มหนึ่งที่อาศัยช่องโหว่ในการ “บริจาค” ทั้งเงินและสิ่งของ ด้วยการแอบอ้างตัว และตั้ง “มูลนิธิเถื่อน” ออกเรี่ยไรเงินบริจาค ก่อน “ฮุบ” เข้ากระเป๋าตัวเอง…..
“มูลนิ
ฝากท่าน พ.ต.อ.กัมปนาท พานิชประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองสงขลา ด้วยครับ ว่าท่านจะปล่อยให้พวกมิจฉาชีพมาหากินง่ายๆแบบนี้เหรอครับ ทั้งที่เดินผ่านสายตรวจ หรือจราจร แต่เหตุการณ์เป็นปกติ ไม่เหมือนผู้ร้ายเดินผ่านตำรวจเลย
นี้ครับรูปหลักฐาน แค่นี้คงพอนะครับ
องค์กรการกุศลเพื่อคนหาดใหญ่ “ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง”
ร่วมเฝ้าระวังน้ำท่วม สงขลา หาดใหญ่ 2554
Re: โปรดระวังและอย่าหลงเชื่อ หน่วยกู้ภัยที่ออกเดินเรี่ยไร ในหาดใหญ่และใกล้เคียง
ทุกคนรู้แก่ใจตัวเองว่าเป็นยังไง คนที่คิดดีทำดีขอให้มีความเจริญในชีวิต พวกที่คิดชั่วและทำชั่วขอให้มันล่มจมตายในสามวันเจ็ดวัน
สาธุสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงขอให้ไอ้พวกเอาความดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่นมีอันเป็นไปด้วยเถิด
ดิฉันเป็นเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล เป็นคนจังหวัดน่าน ดิฉันอยู่กับมูลนิธินี้ มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว รู้จักกับนายพลเรือเอก พัฒนา อินทรบุญ ฉายาไอ้อ้วนหมูตอน ไอ้เฒ่าหัวงู ไอ้แก่ลามก ตัณหากลับ จิตวิปริต ขี้งก ขี้โกง กดขี่ทางเพศ และรู้จักกับคุณพี่จันทร์ฉาย พี่ดา และ นางสุกัญญา เจริญใจ มาเป็นเวลาหลายปี ดิฉันสนิทกับครอบครัวนี้มาก ดิฉันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า นายพลเรือเอกพัฒนา ฯ ประธานมูลนิธิ ฯ จะมีพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้า สุดที่จะหาอะไรมาเปรียบไม่มีอีกแล้ว มาเอานางสุกัญญาลูกสาวคุณพี่จันทร์ฉาย มาเป็นเมียเก็บ ทั้ง ๆ ที่ตนเองมีเมียอยู่ตั้งหลายคนแล้ว พาไปเที่ยวทะเลที่สัตหีบและข่มขื่นเป็นเมีย พอพี่จันทร์ฉาย จับได้ ไล่พี่จันทร์ฉายออกจากบ้าน หาเรื่องใส่ร้ายป้ายสีพี่จันทร์ฉายมาตลอด สงสารพี่จันฉายจังเลย พี่จันทร์แรม หรือพี่ดา เป็นคนดี เป็นคนซื่อ เพราะรู้จักกันมานานมาก เมื่อก่อนเห็นนายพลเรือเอกพัฒนา อยู่บ้านเดียวกันกับพี่จันทร์ฉาย มาหลายปีและอยู่กันอย่างอบอุ่น เอาใจกันอย่างสารพัด แทบจะแหกดากดม ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน พอมาทีหลังใส่ร้ายให้พี่จันฉาย โดยพี่จันทร์ฉายก็ไม่เคยได้โต้ตอบเลย เขาคงปลงทุกอย่างแล้ว เพราะเขาเป็นผู้คิดริเริ่มก่อตั้งมูลนิธิมากับมือ
นายพลเรือเอก หยุดได้แล้ว อายุ 60 ปี ใกล้ลงโลงแล้ว น่าจะเข้าวัดเข้าวาซะ อย่าก่อกรรมทำเข็ญเลย เวรกรรมจะตกตามถึงพ่อแม่ ลูกหลาน เหลน จนวันตาย เพราะตอนนี้ ดิฉันไม่ได้ทำงานอยู่ที่มูลนิธิอินทรบุญแล้ว ไปทำงานที่ไหนตำรวจก็ไม่ให้ความร่วมมือ เพราะเขารู้ว่านายพลเรือเอก ขัดแย้งกันในครอบครัวระหว่างแม่ยายและลูกเขย เพราะตอนนี้พี่จันทร์ฉาย เข้าวัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้พลเรือเอกพัฒนา เผื่อจิตใจพลเรือเอกจะดีขึ้น เพราะตอนนี้กำลังบ้าคลั่งและลุ่มหลงในอำนาจ น่าสมเพสเวทนาหรือเกิน ! จากเด็ก ตำบลอวน อ.ปัว จ.น่าน ค่ะ
ดิฉันเป็นเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล เป็นคนจังหวัดน่าน ดิฉันอยู่กับมูลนิธินี้ มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว รู้จักกับนายพลเรือเอก พัฒนา อินทรบุญ ฉายาไอ้อ้วนหมูตอน ไอ้เฒ่าหัวงู ไอ้แก่ลามก ตัณหากลับ จิตวิปริต ขี้งก ขี้โกง กดขี่ทางเพศ และรู้จักกับคุณพี่จันทร์ฉาย พี่ดา และ นางสุกัญญา เจริญใจ มาเป็นเวลาหลายปี ดิฉันสนิทกับครอบครัวนี้มาก ดิฉันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า นายพลเรือเอกพัฒนา ฯ ประธานมูลนิธิ ฯ จะมีพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้า สุดที่จะหาอะไรมาเปรียบไม่มีอีกแล้ว มาเอานางสุกัญญาลูกสาวคุณพี่จันทร์ฉาย มาเป็นเมียเก็บ ทั้ง ๆ ที่ตนเองมีเมียอยู่ตั้งหลายคนแล้ว พาไปเที่ยวทะเลที่สัตหีบและข่มขื่นเป็นเมีย พอพี่จันทร์ฉาย จับได้ ไล่พี่จันทร์ฉายออกจากบ้าน หาเรื่องใส่ร้ายป้ายสีพี่จันทร์ฉายมาตลอด สงสารพี่จันฉายจังเลย พี่จันทร์แรม หรือพี่ดา เป็นคนดี เป็นคนซื่อ เพราะรู้จักกันมานานมาก เมื่อก่อนเห็นนายพลเรือเอกพัฒนา อยู่บ้านเดียวกันกับพี่จันทร์ฉาย มาหลายปีและอยู่กันอย่างอบอุ่น เอาใจกันอย่างสารพัด แทบจะแหกดากดม ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน พอมาทีหลังใส่ร้ายให้พี่จันฉาย โดยพี่จันทร์ฉายก็ไม่เคยได้โต้ตอบเลย เขาคงปลงทุกอย่างแล้ว เพราะเขาเป็นผู้คิดริเริ่มก่อตั้งมูลนิธิมากับมือ
นายพลเรือเอก หยุดได้แล้ว อายุ 60 ปี ใกล้ลงโลงแล้ว น่าจะเข้าวัดเข้าวาซะ อย่าก่อกรรมทำเข็ญเลย เวรกรรมจะตกตามถึงพ่อแม่ ลูกหลาน เหลน จนวันตาย เพราะตอนนี้ ดิฉันไม่ได้ทำงานอยู่ที่มูลนิธิอินทรบุญแล้ว ไปทำงานที่ไหนตำรวจก็ไม่ให้ความร่วมมือ เพราะเขารู้ว่านายพลเรือเอก ขัดแย้งกันในครอบครัวระหว่างแม่ยายและลูกเขย เพราะตอนนี้พี่จันทร์ฉาย เข้าวัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้พลเรือเอกพัฒนา เผื่อจิตใจพลเรือเอกจะดีขึ้น เพราะตอนนี้กำลังบ้าคลั่งและลุ่มหลงในอำนาจ น่าสมเพสเวทนาหรือเกิน ! จากเด็ก ตำบลอวน อ.ปัว จ.น่าน ค่ะ
ประกาศ!!!
ขณะนี้มีบุคคลที่แอบอ้างว่าอยู่มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์แล้วกล่าวหาใส่ร้านป้ายสีมูลนิธิต่างๆนาๆใช้วาจาไม่สุภาพ กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐาน มูลนิธิเพื่อการกุศลเค้าทำบุญกันจิงๆ ถ้าจะมาบริจาคก็เชิญมาร่วมบริจาคที่มูลนิธิโดยตรง ในเว็บไซล์มูลนิธินั้นก็มีผลงานให้ดู ลงท้ายด้วย .comก็จริงก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำบุญหรือสร้างมาเพื่อหลอกลวงเพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือการบริจาคต่างหากหละในนั้นเค้ามีผลงานให้ดูตั้งมากมาย ในwww.intaraboonyarit.com
อย่ามัวมานั่งนินทาคนอื่นโดยที่ไม่มีหลักฐานเดี๋ยวนี้คนเค้ามีการศึกษากันเค้ารู้จักใช้วิจารณญาณในการอ่านสื่อเพราะสื่อในนี้จะพิมอะไรขึ้นมาก็ได้จะแต่งเรื่องเป็นนิยายน้ำเน่าโกหก แต่ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด
“หยุดการใช้สื่อเพื่อเอาความดีเข้าตัวเองเอาความชั่วให้คนอื่นความจริงก็คือความจริงอยู่วันยันค่ำ คนทำดีย่อมได้ดี คนทำชั่วก็ย่อมจะได้ชั่ว และไม่มีบุคคลใดเค้าเชื่อกันหลอกนะ”
ดังคำพูดพระพุทธเจ้าว่า “คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก” ไม่ว่าจะเป็นเจ้า เป็นนาย มักมีคนจ้องจะนินทาให้เสื่อมเสียอยู่เสมอเปรียบดั่ง “หงษ์ในหมู่อีกาดำ”
ประกาศ!!!
ขณะนี้มีบุคคลที่แอบอ้างว่าอยู่มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์แล้วกล่าวหาใส่ร้านป้ายสีมูลนิธิต่างๆนาๆใช้วาจาไม่สุภาพ กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐาน มูลนิธิเพื่อการกุศลเค้าทำบุญกันจิงๆ ถ้าจะมาบริจาคก็เชิญมาร่วมบริจาคที่มูลนิธิโดยตรง ในเว็บไซล์มูลนิธินั้นก็มีผลงานให้ดู ลงท้ายด้วย .comก็จริงก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำบุญหรือสร้างมาเพื่อหลอกลวงเพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือการบริจาคต่างหากหละในนั้นเค้ามีผลงานให้ดูตั้งมากมาย ในwww.intaraboonyarit.com
อย่ามัวมานั่งนินทาคนอื่นโดยที่ไม่มีหลักฐานเดี๋ยวนี้คนเค้ามีการศึกษากันเค้ารู้จักใช้วิจารณญาณในการอ่านสื่อเพราะสื่อในนี้จะพิมอะไรขึ้นมาก็ได้จะแต่งเรื่องเป็นนิยายน้ำเน่าโกหก แต่ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด
“หยุดการใช้สื่อเพื่อเอาความดีเข้าตัวเองเอาความชั่วให้คนอื่นความจริงก็คือความจริงอยู่วันยันค่ำ คนทำดีย่อมได้ดี คนทำชั่วก็ย่อมจะได้ชั่ว และไม่มีบุคคลใดเค้าเชื่อกันหลอกนะ”
ดังคำพูดพระพุทธเจ้าว่า “คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก” ไม่ว่าจะเป็นเจ้า เป็นนาย มักมีคนจ้องจะนินทาให้เสื่อมเสียอยู่เสมอเปรียบดั่ง “หงษ์ในหมู่อีกาดำ”
ประกาศ!!!
ขณะนี้มีบุคคลที่แอบอ้างว่าอยู่มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์แล้วกล่าวหาใส่ร้านป้ายสีมูลนิธิต่างๆนาๆใช้วาจาไม่สุภาพ กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐาน มูลนิธิเพื่อการกุศลเค้าทำบุญกันจิงๆ ถ้าจะมาบริจาคก็เชิญมาร่วมบริจาคที่มูลนิธิโดยตรง ในเว็บไซล์มูลนิธินั้นก็มีผลงานให้ดู ลงท้ายด้วย .comก็จริงก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำบุญหรือสร้างมาเพื่อหลอกลวงเพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือการบริจาคต่างหากหละในนั้นเค้ามีผลงานให้ดูตั้งมากมาย ในwww.intaraboonyarit.com
อย่ามัวมานั่งนินทาคนอื่นโดยที่ไม่มีหลักฐานเดี๋ยวนี้คนเค้ามีการศึกษากันเค้ารู้จักใช้วิจารณญาณในการอ่านสื่อเพราะสื่อในนี้จะพิมอะไรขึ้นมาก็ได้จะแต่งเรื่องเป็นนิยายน้ำเน่าโกหก แต่ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด
“หยุดการใช้สื่อเพื่อเอาความดีเข้าตัวเองเอาความชั่วให้คนอื่นความจริงก็คือความจริงอยู่วันยันค่ำ คนทำดีย่อมได้ดี คนทำชั่วก็ย่อมจะได้ชั่ว และไม่มีบุคคลใดเค้าเชื่อกันหลอกนะ”
ดังคำพูดพระพุทธเจ้าว่า “คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก” ไม่ว่าจะเป็นเจ้า เป็นนาย มักมีคนจ้องจะนินทาให้เสื่อมเสียอยู่เสมอเปรียบดั่ง “หงษ์ในหมู่อีกาดำ”
ประกาศ!!!
ขณะนี้มีบุคคลที่แอบอ้างว่าอยู่มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์แล้วกล่าวหาใส่ร้านป้ายสีมูลนิธิต่างๆนาๆใช้วาจาไม่สุภาพ กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐาน มูลนิธิเพื่อการกุศลเค้าทำบุญกันจิงๆ ถ้าจะมาบริจาคก็เชิญมาร่วมบริจาคที่มูลนิธิโดยตรง ในเว็บไซล์มูลนิธินั้นก็มีผลงานให้ดู ลงท้ายด้วย .comก็จริงก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำบุญหรือสร้างมาเพื่อหลอกลวงเพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือการบริจาคต่างหากหละในนั้นเค้ามีผลงานให้ดูตั้งมากมาย ในwww.intaraboonyarit.com
อย่ามัวมานั่งนินทาคนอื่นโดยที่ไม่มีหลักฐานเดี๋ยวนี้คนเค้ามีการศึกษากันเค้ารู้จักใช้วิจารณญาณในการอ่านสื่อเพราะสื่อในนี้จะพิมอะไรขึ้นมาก็ได้จะแต่งเรื่องเป็นนิยายน้ำเน่าโกหก แต่ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด
“หยุดการใช้สื่อเพื่อเอาความดีเข้าตัวเองเอาความชั่วให้คนอื่นความจริงก็คือความจริงอยู่วันยันค่ำ คนทำดีย่อมได้ดี คนทำชั่วก็ย่อมจะได้ชั่ว และไม่มีบุคคลใดเค้าเชื่อกันหลอกนะ”
ดังคำพูดพระพุทธเจ้าว่า “คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก” ไม่ว่าจะเป็นเจ้า เป็นนาย มักมีคนจ้องจะนินทาให้เสื่อมเสียอยู่เสมอเปรียบดั่ง “หงษ์ในหมู่อีกาดำ”
ประกาศ!!!
ขณะนี้มีบุคคลที่แอบอ้างว่าอยู่มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์แล้วกล่าวหาใส่ร้านป้ายสีมูลนิธิต่างๆนาๆใช้วาจาไม่สุภาพ กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐาน มูลนิธิเพื่อการกุศลเค้าทำบุญกันจิงๆ ถ้าจะมาบริจาคก็เชิญมาร่วมบริจาคที่มูลนิธิโดยตรง ในเว็บไซล์มูลนิธินั้นก็มีผลงานให้ดู ลงท้ายด้วย .comก็จริงก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำบุญหรือสร้างมาเพื่อหลอกลวงเพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือการบริจาคต่างหากหละในนั้นเค้ามีผลงานให้ดูตั้งมากมาย ในwww.intaraboonyarit.com
อย่ามัวมานั่งนินทาคนอื่นโดยที่ไม่มีหลักฐานเดี๋ยวนี้คนเค้ามีการศึกษากันเค้ารู้จักใช้วิจารณญาณในการอ่านสื่อเพราะสื่อในนี้จะพิมอะไรขึ้นมาก็ได้จะแต่งเรื่องเป็นนิยายน้ำเน่าโกหก แต่ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด
“หยุดการใช้สื่อเพื่อเอาความดีเข้าตัวเองเอาความชั่วให้คนอื่นความจริงก็คือความจริงอยู่วันยันค่ำ คนทำดีย่อมได้ดี คนทำชั่วก็ย่อมจะได้ชั่ว และไม่มีบุคคลใดเค้าเชื่อกันหลอกนะ”
ดังคำพูดพระพุทธเจ้าว่า “คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก” ไม่ว่าจะเป็นเจ้า เป็นนาย มักมีคนจ้องจะนินทาให้เสื่อมเสียอยู่เสมอเปรียบดั่ง “หงษ์ในหมู่อีกาดำ”
นะโมตัสสะ ข้าพเจ้า มูลนิธิอินทรฤิทธิ์เจริญธรรมการกุศลขอให้สิ่งศักดิื์์์์หลวงพ่อโสทวัดปากนำ้ หลวงพ่อโสธร วัดพระแก้วมรกต บุคคลใดที่คิดไม่ดี ไม่ซื่อสัตย์ ทุจริตต่อมูลนิธิอินทรฤิทธิ์เจริญธรรมการกุศลก็ขอให้มีแต่อุปสัค บริวารในครอบครัวหรือที่ทำมาหากินมีแต่ความวุ่นวาย ไม่มีความสุขเพราะว่าพระ3องค์นี้ เป้นพระที่คู่บ้านคุ่เมือง เป้นพระที่ศักดิืสิทธิื มีแต่คนเคราพบุชา ก็ขอให้บุคลใดที่เคยคิดทำลายให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ขอให้เขาตัวบุคคลคนนั้นด้วยเถิด
นะโมตัสสะ ข้าพเจ้า มูลนิธิอินทรฤิทธิ์เจริญธรรมการกุศลขอให้สิ่งศักดิื์์์์หลวงพ่อโสทวัดปากนำ้ หลวงพ่อโสธร วัดพระแก้วมรกต บุคคลใดที่คิดไม่ดี ไม่ซื่อสัตย์ ทุจริตต่อมูลนิธิอินทรฤิทธิ์เจริญธรรมการกุศลก็ขอให้มีแต่อุปสัค บริวารในครอบครัวหรือที่ทำมาหากินมีแต่ความวุ่นวาย ไม่มีความสุขเพราะว่าพระ3องค์นี้ เป้นพระที่คู่บ้านคุ่เมือง เป้นพระที่ศักดิืสิทธิื มีแต่คนเคราพบุชา ก็ขอให้บุคลใดที่เคยคิดทำลายให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ขอให้เขาตัวบุคคลคนนั้นด้วยเถิด
นะโมตัสสะ ข้าพเจ้า มูลนิธิอินทรฤิทธิ์เจริญธรรมการกุศลขอให้สิ่งศักดิื์์์์หลวงพ่อโสทวัดปากนำ้ หลวงพ่อโสธร วัดพระแก้วมรกต บุคคลใดที่คิดไม่ดี ไม่ซื่อสัตย์ ทุจริตต่อมูลนิธิอินทรฤิทธิ์เจริญธรรมการกุศลก็ขอให้มีแต่อุปสัค บริวารในครอบครัวหรือที่ทำมาหากินมีแต่ความวุ่นวาย ไม่มีความสุขเพราะว่าพระ3องค์นี้ เป้นพระที่คู่บ้านคุ่เมือง เป้นพระที่ศักดิืสิทธิื มีแต่คนเคราพบุชา ก็ขอให้บุคลใดที่เคยคิดทำลายให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ขอให้เขาตัวบุคคลคนนั้นด้วยเถิด
ใช้ค่ะดิฉันขอรวมอนุโมทนาด้วยค่ะบุคคลใดที่คิดไม่ดีต่อมูลนิธิอินทรบุยฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลก็ขอให้พวกเค้ามีแต่ความร้อนรุม้ในตัวเองและครอบคัวและการกระทำอันใดก็ขอให้มีแต่อุปสรรคดว้ยเถอะ สาธุนะโมตะสะหลวงวัดโสธร หลวงพ่อสถวัดปากนำ พระแก้วมากต พระทุก3องค์นี้ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมายาวนานถ์ง100ปี1000ปี สาธุ
ใช้ค่ะดิฉันขอรวมอนุโมทนาด้วยค่ะบุคคลใดที่คิดไม่ดีต่อมูลนิธิอินทรบุยฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลก็ขอให้พวกเค้ามีแต่ความร้อนรุม้ในตัวเองและครอบคัวและการกระทำอันใดก็ขอให้มีแต่อุปสรรคดว้ยเถอะ สาธุนะโมตะสะหลวงวัดโสธร หลวงพ่อสถวัดปากนำ พระแก้วมากต พระทุก3องค์นี้ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมายาวนานถ์ง100ปี1000ปี สาธุ
ใช้ค่ะดิฉันขอรวมอนุโมทนาด้วยค่ะบุคคลใดที่คิดไม่ดีต่อมูลนิธิอินทรบุยฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลก็ขอให้พวกเค้ามีแต่ความร้อนรุม้ในตัวเองและครอบคัวและการกระทำอันใดก็ขอให้มีแต่อุปสรรคดว้ยเถอะ สาธุนะโมตะสะหลวงวัดโสธร หลวงพ่อสถวัดปากนำ พระแก้วมากต พระทุก3องค์นี้ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมายาวนานถ์ง100ปี1000ปี สาธุ
วันี้ใด้โทรไปสอบถามเกี้ยวกับเอกสารฝ่ายประชาสัมพันพูดจาไม่ค่อยสุภาพเท่าไรค่ะ ช่วยอบรมให้ใหม่นะค่ะพุดจาเสียงแข็งๆนะค่ะ
วันนี้ใด้ทำบุญกับเด็กนักศึกษามีจิตใจที่ดีมาช่วยรับบริจาคช่วยเหลือน้ำท่วมที่บิ๊กซีเชื่อมต่อกับเซ็ลทลันดิแนใด้ร่วมทำกับนอ้งจิตอาสาไป200บาทพอถามว่ามาจากโรงเรียนอะไร มีน้องอาสาตอบว่าสมาจากโรงเรียนโกศลพัทนาวิทอะไรประมาณนี้และค่ะ นอ้งนักศืกษาบอกว่ามาช่วยคนไทยด้วยกัน จากมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลค่ะ ใครเป็นพ่อแม่หน้าภูมใจแทนนะค่ะ อย่างนี้หน้าส่งเสริมใคร้ห็นก็มีแต่คนชมนะค่ะ
ผมก็ใด้ทำบุญกับน้องนักศืกษาไปเหมือนกันครับช่วยน้ำท่วมครับ100บาทนะครับน้องเขาเก่งนะครับผมยังอายเลย ผมไปเที่ยวเซ็ลนะเจอนะก็เลยทำบุญเสียหน่อยนะครับ น้องหน้ารักนะครับใจบุญเก่งดว้ยนะครับคนดีต้องชมคร๊าบๆ
สวัสดีค่ะดิฉันเป็นสมาชิกใหม่วันนี้ใดทำบุญช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมนะค่ะ ดืฉันทำไปก้ไม่ใด้คิดอะไรหรอกค่ะแต่ชอบพี่เขานะค่ะพูดจาประชาสัมพันดีมากเลยค่ะ พี่เขาอธิบายให้ฟังเก่งมากเลยและตั้งโต๊ะในห้างยิ่งแล้วเลยดูโอมากเลยนะทั้งสุภาพสวยเก่งด้วยค่ะ พี่เขายังแนะนำให้ดิฉันไปเปิดในเว็ปมูลนิธิฯ ว่าประธาน ท่านเป็น พลเรือเอก ชื่ออะไรให้ไปเปิดเองนะค่ะ และแนะนำให้ดูเลยค่ะว่ามูลนิธิฯ นี้มีจริงหรือเปล่าและมีอาสาชื่อนี้หรือเปล่านะค่ะแต่คนทำดีมักจะไม่ค่อยมีคนเห็นค่ะ เพราะในหัวข้อชื่ออาสาจะไม่มีชื่อพี่เขาเลยแต่จะมีคนอื่นนะค่ะ ช่างเถอะพี่ทำดีไม่มีใครเห็นแต่พระเจ้าเห็นนะพี่เพราะดิฉันเเป็นคริสนะ ดิฉันจะเอาใจช่วยให้กำลังใจพี่นะค่ะ จาก เเม็กบางพีล
ผมเป็นหนึ่งในลูกประดู่ อย่ จ.ปทุมธานี ที่ผ่านมาเห็นมีแต่คนของมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลมาเดินขอรับบริจาคตามบ้าน แต่ยังไม่เคยเห็นว่าไปช่วยเหลือที่ใดเลย ในช่วงเกิดนำท่วมหนักในขณะนี้ วอนท่านประธานมูลนิธิ ฯ ผ้มีจิตกุศลกรรม กรุณาส่งสิ่งของมาช่วยด่วนที่ศูนย์พักพิงมหาวิทยาลัยรังสิต
ขอบคุณมาก จาก ลูกน้องเลือดราชนาวี
คุณค่ะดิฉันก็ใด้ไปช่วยนะค่ะไปก่อนที่คุรจะโพสมาต่อว่ามูลนิธิดิฉันเสียอีกดิฉันเป็น เสมียนฝ่ายจัดหาทุน ทิพย์สุดา ค่ะไปเมื่อวันวันที่20ตุลาคม2554 เอาข้าวกลอ่ง300กลอ่ง ค่ะไปช่วยแต่ดิฉันเข้าไปไม่ถึง ก็เลยอาศัยให้พี่ทหารเอาเข้าไปให้ค่ะ ที่คุณบอกว่าทางเราไม่เอาไปให้นั้นเพราะดิฉันไม่ใด้ เอารถทางมูลนิธิไปแต่ดิฉันใด้เอา รถเเท็กซีอาสาของพี่อาสามูลนิธิไปค่ะ ชื่อศุภโชติ เพราะรถของหน่วยงานเราต้องไปช่วยหลายที่ค่ะ มูลนิธิฯเราไปช่วย ไม่ค่อยมีใครเห็นหรอกค่ะเพราะเราทำดีไม่จำเป็นจะต้องโฆษนาให้ใครรู้ และอีกอย่างก็ไม่ใด้ออกทางสือ ทีวี ก็เลยไม่ค่อยมีคนเห็นความดี่เราไปช่วยเท่าไร แต่ชาวบ้านที่เราไปช่วยเขารู้เขาเห้น และ27ตุลาคม2554ดิฉันก็จะเอาไปช่วยอีก300กลอ่งเป็นอาหารที่ชาวอิสรามเขาทานใด้ ด้วยค่ะที่บางบัวทองเห็นชาวบ้านบอกกับดิฉันมาว่าคนอิสราม ไม่ใด้ทานข้าวมา1อาทิตย์แล้วแต่ก็คงจะเอาแท็กซีพี่อาสาไปเหมือนเดิม ค่ะ จาก ทิพย์สุดา เสมียนฝ่ายจัดหาทุน
ผมซ้าบซื้งน้ำใจเธอจริงๆครับและผมใด้เคยรวมทำบุญกับเธอมา ผมคิดแล้วผมไม่เสียดายเงินที่ผมรวมทำบุญกับเธอมาเลยครับ1000บาท เพราะเอาไปช่วยเขาโดยที่รถมูลนิธิฯก็ไม่ว่าง เธอยังเอาแท็กซีอาสาไปแทนเธอเป็นผู้ที่เก่งหน้านับถือจริงๆเลยครับเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆแค่นี้ เธอยังมีความพยายามที่จะไปช่วยเขาทั้งๆที่รู้ว่าเขาไปไม่ใด้หน้ายกยอ่งมากครับ แล้วพวกเราทำมัยไม่ช่วยแบบเธอละครับ คนดีเขาไม่ต้องให้คนอื่นเห็นหรอกครับ เขาเรียกตามสุภาษิตว่า ปิดทองหลังพระ นะครับ คุณทิพย์สุดา ผมให้คะแนนคุณเต็ม100 เลยครับจากคนทำบุญสุขาภิบาล3
โอแย้ๆ มากๆ คนรับโทรศัพย์มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์นี้ แย้มากๆ เลยพูดจาไม่สุภาพเอาสะเลย ไม่แท็กแครผู้บริจาคเลยไม่ง้อผู้บริจาคเลยอย่างนี้ตอ้งรอ้งเรียนไปที่ใหนดีละ กรมการปกครองหรือ ภาครัชดี ที่กด1111นะไม่ใหวจบอะไรมา เฮอ
โอ้เพื่อนๆวันนี้เราไปบริจาคข้าวกลอ่งให้กับคนน้ำท่วมที่บางบัวทอง เราใด้ทำบุญวันนี้ดีมากเลย เราไปกับพ่อแม่เราที่อยู่มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์ฯ ตอนแรกเราก็อายนะที่พ่อแม่เราทำงานมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์ฯ แต่พอใด้ไปช่วยเขาแล้วถึงรู้ว่าเขาลำบากขนาดใหน และพ่อแม่เราใด้ไปช่วยเขาจริง การทำความดีมันหน้าภูมใจขนาดนี้เลยนะค่ะ
ดิฉันใด้ทำบุญกับน้องนักศึกษาของมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลที่โลตัสพระราม2วันนี้เมื่อกี้นี้เองนอ้งเค้ายังมีจิตอาสามาช่วยเอาแรงมาช่วยรับบริจาคแล้ว ทำมัยพวกเราที่ยังไม่เดือดร้อนทำมัย ไม่ชว่ยร่วมบริจาคแบบนอ้งเค้ากันละ บุคคลใดที่ใด้มาเปิดอ่านดูก็ขอให้มีจิตเมตาร่วมบริจาคกับนอ้งจิตอาสากันเถอะคนละเล็กลนัอยบาท2บาทก็หลายสิบคนก็หลายบาทนะค่ะถือว่าช่วยคนไทยด้วยกันดิฉันทำงานอยู่โตสพระราม2ก็ช่วยไป100บาทค่ะ
วันนี้ใจอ่อนโดนหลอกอีกแล้ว มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล ชื่อประธานก็เป็นภาษาจีน ต่อไปจะไม่ไห้พวกมาเรี่ยไรเด็ดขาดแล้ว
ปากหมาฉิบหายเลยนะคนที่โพสว่าด่าคนที่เขารู้คววามจริงว่าพวกนี้เป็นพวกหลอกลวงน๊ะ ดูแค่นี้ก็รุแล้วว่าไม่ไช่พวกคนดีแล้ว ต้องรับบริจาคเป็นที่เป็นทางไม่ไช่เดินขอเงินชาวบ้านไปทั่ว ประธานมูลนิธิต้องอยู่ด้วยเท่านั้น
พวกหลอกลวง พวกฉิบหาย เจอพวกนี้ต้องเด็ดขาดเลยไม่ไห้ ทุกคนเข้าใจไว้
เอาซองผ้าป่ายื่นไห้เขาทำบุญดูว่าเขาจะทำยังไง555555555
หน้าเบื่อคนพวกนี้จริงๆเลยค่ะสมบัติผู้ดีนะรู้จักมัยค่ะ มือไม่พายเอาเท้าลาน้ำนะค่ะ เวลาเข้าไปช่วยเหลือน้ำท่วมที่ใหนทำมัย พวกคุณถึงไม่ไปดูละค่ะเขามีจิตอาสาไปช่วยกันตากแดดหน้าดำ แม้แต่นอ้งนักศึกษาเค้าเป็นเด็กยังมีจิตใจที่เมตตามาช่วยเลย ไม่เข้าใจเลยว่าทำมัยประเทศไทยมีคนแบบนี้ด้วยเอาความดีเข้าตัวเอง แล้วประเทสไทยจะเจริญใด้ยังไงเค้าทำความดีไม่จำเป็นจะต้องให้ออกสื่อทางทีวีหรอกคุณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านรู้ท่านเห็น นะค่ะ ทำความดีไม่มีวันตายหรอกค่ะถึงแม้เราไม่มีชีวิตอยู่แต่ความดีที่เราทำคนข้างหลังเค้าก็ยังชมเชยสรรเสริญ
ตำรวจโคราชรวบแก๊งตุ๋นเรี่ยไรเงินอ้างช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
นครราชสีมา 6 พ.ย.-พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สอบปากคำนายวสุคล อุ่นมี อายุ 30 ปี ชาวตำบลศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน และนายประคอง แข้งการ อายุ 40 ปี ชาว อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาที่อ้างตัวเป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยออกเรี่ยไรเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมยึดของกลางเสื้ออาสาสมัครของมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล รถกระบะ โตโยต้า วีโก้ เงินสด 180 บาท และถุงยังชีพ
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจอหอกล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ว่ามีกลุ่มบุคคลแอบอ้าง มาเรี่ยไรบริจาคเงินบ่อยครั้ง โดยจะสวมเสื้อมูลนิธิ และอ้างจะนำเงินบริจาคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เชื่อว่ากลุ่มมิจฉาชีพน่าจะทำเป็นขบวนการและในรูปแบบเดียวกัน คาดได้เงินบริจาคแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 1,000-2,000 บาท ขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากพบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที.-สำนักข่าวไทย
ขอความรู้ว่ากฎหมายอนุญาตให้ทำการเรี่ยไรได้มากน้อยแค่ไหนครับ
อยู่จังหวัดหนองคาย มีบุคคลที่อ้างตัวว่า เป็นคนของ มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล เดินเรี่ยรายรัยเฉพาะ “เงิน” ตามทุกหมู่บ้านในตำบลเมืองหมี อ.เมือง จ.หนองคาย
อยากถามว่ากฎหมายอนุญาตให้ทำการเรี่ยไรได้มากน้อยแค่ไหนครับ
ผมว่าแต่ละจังหวัดก็มีมูลนิธิอยู่แล้ว ไม่น่าจะอนุญาตให้เรี่ยไรข้ามจังหวัด หรือข้ามเขต
แล้วอยากทราบว่าใบแบบในรูปต้องไปขอจากที่ไหน
ผมก็พึ้งจะมีเวลามาโพสตอนนี้เจอจะๆเลยที่สพานข้ามไปเซ็ลมากันเป็น10คนเลยไม่วาคนแกเด็กวัยรุ่น ผู้ใหญ่ มาหมดเลยเต็มสะพานเลยครับดัก2ข้างฝั้งทางเดินเลยตั้งแต่ตีนสะพานถึงข้างบนสะพานเลยตื้อเก่งหน้าดูเลยพอเวลาผ่านไปไม่นานก็มีตำรวจมาไล่ให้ไปพากันวิ่งหนีลงบรรใดกันเป็นแถวเห็นตำรวจบอกว่าเมื่อวานก็มาไล่ไปทีหนึ่งแล้ว เพราะเซ็ลทรัลเค้าแจ้งไปให้มาไล่มันเป็นพื้นที่ของเค้าไม่อนุญาติให้มายื่นแต่พวกเค้ากทำหน้าเกลียดมากๆๆไม่สุภาพเอาสะเลยไม่รู้ว่าอบรมมาหรือเปล่าท่านประธานอยู่ใหนอบรมอาสาหน่อยนะครับชาวบ้านเค้าเดือดร้อนกันอาสาชุดนี้ก็เป็นชุดเดียวกับที่เค้าโพสมาว่าผู้ชายใส่แว่นตาและผู้ชายผอมสูงที่กำลังเดินเรี้ยไรผมรปพเซ็ลครับรับเรื่องร้องเรียนของลูกค้าเซ็ล
ใช้คัดอาสามูลนิธิอินทรบูญฯ หนอ่ยนะ ไม่ใช้สักแต่ว่ารับมาแต่ไม่มีคุณสมบัติผู้ดีเอาสะเลยไม่สุภาพ เอาแต่ปริมาณ แต่คุณภาพไม่มี ผมกู้ภัยท่าข้าม ผมเห้นบ่อยมากเลยไอ้พวกเนี้ย แต่ผมรอจังวะนายสั่งเท่านั้นมานานแล้วเล่นเลย
วันนี้มีนารับบริจาคที่นครสวรรค์ อำเภอชุมแสงมูลฃนิธิลองตรวจสอบดูนะ
ดูแล้วน่าจะหลอกลวงตามสถานศึกษามีใบเสร็จไม่น่าเชื่อถือ มูลนิธิจะนั่งนิ่งเงียบไม่รู้ไม่เห็นคงไม่ๆได้แล้วนะครับ
จากการศึกษาข้อมูลที่แต่คนที่อ้างตัวว่าเป็น พนักงาน มูลนิธิ แต่ละรายนั้น บางทีก็จริง บางครั้งก็หลอกลวง สารพัด รูปแบบสุดที่เขาเหล่านั้น (ผู้ไม่มีความซื่อสัตย์ในการประกอบอาชีพ) แอบอ้าง หาวิธีการล่อ หลอก ลวง
เอาเงิน อย่างมีกุสโลบายแบบแยบยล จนทำให้ตายใจ(ใจอ่อน) โดยเฉพาะคยที่มีจิตใจเมตตาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (หรือจะว่า บรมโง่ ก็ได้) มักจะร่วมทำบุญด้วย แต่ก็มีบางคนที่ ทำไปอย่างไม่เสียดาย
แต่ ก่อนที่พวกเราท่านทั้งหลายจะร่วมบริจาคนั้น พยายามถามเอาข้อมูล และเตรียมกล้องภาพให้พร้อมด้วย จะได้เป็นหลักฐาน ทางหนึ่ง ………………………………………
จากการศึกษาข้อมูลที่แต่คนที่อ้างตัวว่าเป็น พนักงาน มูลนิธิ แต่ละรายนั้น บางทีก็จริง บางครั้งก็หลอกลวง สารพัด รูปแบบสุดที่เขาเหล่านั้น (ผู้ไม่มีความซื่อสัตย์ในการประกอบอาชีพ) แอบอ้าง หาวิธีการล่อ หลอก ลวง
เอาเงิน อย่างมีกุสโลบายแบบแยบยล จนทำให้ตายใจ(ใจอ่อน) โดยเฉพาะคยที่มีจิตใจเมตตาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (หรือจะว่า บรมโง่ ก็ได้) มักจะร่วมทำบุญด้วย แต่ก็มีบางคนที่ ทำไปอย่างไม่เสียดาย
แต่ ก่อนที่พวกเราท่านทั้งหลายจะร่วมบริจาคนั้น พยายามถามเอาข้อมูล และเตรียมกล้องภาพให้พร้อมด้วย จะได้เป็นหลักฐาน ทางหนึ่ง ………………………………………
น่าสงสารมูลนิธิจังเลยที่ถูกใส่ร้าย
วันนี้เวลา 11.30 น.เข้ามาเรี่ยไรที่ เทศบาลตำบลพระซอง อำเภอนาแก จ.นครพนม ให้ดูหนังสือว่าขออนุญาตจากสถานีตำรวจอำเภอนาแกแล้ว ไม่ทราบว่าพวกต้มตุ๋นหรือเปล่า
เดี๋ยวนี้กำลังขอบริจาคที่บุรีรัมย์ ผมว่าวิธีนี้ไม่ค่อยโปร่งใส ตรวจสอบได้ ถึงแม้จะกระทำด้วยใจบริสูทธิ์ก็ตาม
วันนี้มาในเขตอำเภอท่าตะโก จ.นครสวรรค์ มูลนิธิช่วยตรวจสอบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ส่งมาจริงหรือไม่ มิฉะนั้นอาจเกิดความเสียหายแก่มูลนิธิ
เป็นบุคคลตามภาพที่ปรากฏในข้างต้นใช้ใบเสร็จมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลรับบริจาคค่ะ ช่วยตรวจสอบด้วยค่ะ
มีการขายใบเสร็จให้กนัด้วย เล่มละ 350 บาทมูลนิธิพุทธธรรมนิมิตรไม่น่าเชื่อถือ
ไอ้พวกไม่รู้จริงอย่าพูดแก่มีความรู้ทางด้านการเรียไรมากแค่ใหนถึงมาพูดโดยไม่คิดรู้ไม่ว่ามูลนิธิเขาเสียหาย กว่าจะเป็นจิตอาสา เขาได้รับอนุญาตจากกรมการปกครอง(รู้จักไม่กรมการปกครองนะ)เคยเห็นหรือเปล่าหะส่วนมากที่พูดนี่จะไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหรถึงพูดออกมาโดยไม่คิดส่วนมากคนที่เข้าดูเป็นนะมีแต่คนมีความรู้ทั้งนันระดับนายอำเภอ ปลัด ข้าราชการ ตำรวจ เข้าดูตาเดียวก็ดูออกแค่เห็นใบอนูญาตเข้าก็รู้แล้ว นอกจากที่ว่าไปไม่มีความรู้จริงว่าไม่!!!
???
สมาคมธนพร บุญเหลือ เพื่อการกุศล หลอกลวงที่สุด มันไม่มีอยู่จริงเลยสีกนิด ไอ้พวกไม่มีอันจะกินมาหลอกลวงชาวบ้านนิสัยไม่ดี เอาเงินกูคืนมานะ- – มีใบเสร็จให้กูด้วยแหนะ ไอ้ปลวกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
01/03/13 ได้บริจาคไปเหมือนกัน รวมเงินคนในบริษัทได้ 200 บาท แต่ทุกคนเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าจะเป็นมิจฉาชีพ ได้ลองโทรไปเบอร์ในบิลใบเสร็จ ก็ยังไม่อยากเชื่อเลย ถ้าสมาคมมีอยู่จิงก็ดีไป แต่ถ้าเค้าโกหกก็ขอให้เป็นบาญแก่ตัวเองเนอะ สาธุ!!!!!!!!!!!!!1
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ที่รับบริจาคไปว่าไปทำนั้นทำนี่ ล้างป่าช้าวัดพระบาท แต่วัดพระบาท ไม่มีป่าช้า
ถ้าเอาไปทำบุญจริงๆ ก็ดีไป แต่ถ้าเอาไปเลี่ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง ก็คงไม่ไหว
ไม่ได้จะว่าใครหรอกน่ะ แต่ถ้าเอาชื่อคนอื่นมาแอบอ้าง เพื่อผลประโชยน์ส่วนตัว เอาไปเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง มันบาป!
การจะทำบุญจริงๆ ไม่จำเป็นจริงๆ หรอกที่จะต้องมารับบริจาคแบบนี้ เขาก็คงจะไปทำที่วัดเองนั้นแหละ เพราะส่วนใหญ่เราจะไปบริจาคที่วัด แต่พระท่านจะเอาไปทำอะไร ก็เรื่องของท่าน เราก็ถือว่าเราทำบุญไป ไม่ได้หวังอะไรจากการทำบุญ
วันที่ 22 มิถุนายน 2556 มีคนชื่อนายรุจิโรจน์ หาญยุทธ(ไอ้โอ) เบอร์โทร 091-306-1416 มาจากสมาคมธนพร บุญเหลือ เพื่อการกุศล 28/44 ซ.ประชาอุทิศ 54 แยก 4-2 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. 10140เบอร์โทร 02-426-6058, 086-082-5919 ขอเรี่ยไรทำบุญล้างป่าช้าวัดพระบาทน้ำพุช่วยศพผู้ไร้ญาติช่วยทำบุญโรงศพไร้ญาติถ้าทำชุดใหญ่จะได้คุยกับคุณริว(รายการจิตสัมผัส) 30 นาที หนูเห็นว่าได้ทำบุญและหนูได้คุยกับคุณริวเพราะว่าหนูศรัทธาคุณริวดูทุกวันพุธ เงินที่หนูทำบุญไปชุดใหญ่ 2,400.-จะได้คุยกับคุณริว มีใบเสร์จพร้อมลายเซ็นต์ หนูโทรไปที่สมาคมเค้าบอกว่าไม่รู้เรื่อ่งที่จะคุยกับคุณริว พนง.ชื่อโอไม่มี ไอ้โอบอกว่าหัวหน้าสมาคมชื่อจันทร์แรม ไทรไปถามก็ไม่มี หนูก็เลยเปลี่ยนใจไม่ทำบุญแล้ว (หนูไลน์โทรศัพท์กับไอ้โอมีรูปมันด้วย)
วันจันทร์ที่ 24/6/56 หนู+อาโทรไปหาไอ้โอว่าหนูไม่แล้วขอเงินคืน เค้าก็บอกว่าอีก 10 นาทีจะโอนไปให้ ถึงเวาแล้วไม่รับโทรศัพท์เลย จริงๆๆแล้วหนูไม่ใช่เป็นคนมีเงินน่ะเงินส่วนนี้เป็นเงินเก็บส่วนตัวหนูเองสิ้นเดือนมิย.56นี้หนูจะเอาไปฝากท้องแฟนหนูก็ทำงานเงินเดือนไม่เยอะ2คนเราต้องเก็บเงินดูแลปู่ อายุ 84 ปี และลุูกสาวเพิ่ง 8 เดือนเองด้วยเค้าก็งอแงหนูก็สงสารลูกและอาเค้าเลี้ยงให้หนู อาเค้าก็ไม่คิดตังค์และไม่ได้ทำงาน หนูก็สงสารอาเค้าหนูก็ให้เค้านิดหน่อย แฟนหนูไม่รู้เรื่องนี้เลยไนูไม่กล้าบอกแฟน หนูมีความเชื่อและเป็นคนชอบทำบุญ ทำไมเอาความเชื่อและศรัทธาของหนูมาหลอกลวงกัน หลอกลวงคนอื่นชีวิตของคุณสาธุ รู้กันทุกคนน่ะว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป ในสังคมยังมีอีกเยอะไม๊ที่ไม่นึกถึงชีวิตใครเลยว่าเค้าลำบากหรือเปล่าที่เสียเงินไป นึกถึงแต่ตัวเองสังคมมีแต่คนเห็นแก่ตัวและชีวิตเค้าก็คงสาธุๆๆๆๆๆๆอย่าให้เขียนต่อเลยตอนนี้หนูไม่เสียดายแล้วมีแต่เจ็บใจและอยากบอกพี่ๆๆเพื่อนๆๆในสังคมนี้ให้ระวังว่ามีคนที่จะหลอกลวงเราอีกเยอะ
วันที่ 22 มิถุนายน 2556 มีคนชื่อนายรุจิโรจน์ หาญยุทธ(ไอ้โอ) เบอร์โทร 091-306-1416 มาจากสมาคมธนพร บุญเหลือ เพื่อการกุศล 28/44 ซ.ประชาอุทิศ 54 แยก 4-2 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. 10140เบอร์โทร 02-426-6058, 086-082-5919 ขอเรี่ยไรทำบุญล้างป่าช้าวัดพระบาทน้ำพุช่วยศพผู้ไร้ญาติช่วยทำบุญโรงศพไร้ญาติถ้าทำชุดใหญ่จะได้คุยกับคุณริว(รายการจิตสัมผัส) 30 นาที หนูเห็นว่าได้ทำบุญและหนูได้คุยกับคุณริวเพราะว่าหนูศรัทธาคุณริวดูทุกวันพุธ เงินที่หนูทำบุญไปชุดใหญ่ 2,400.-จะได้คุยกับคุณริว มีใบเสร์จพร้อมลายเซ็นต์ หนูโทรไปที่สมาคมเค้าบอกว่าไม่รู้เรื่อ่งที่จะคุยกับคุณริว พนง.ชื่อโอไม่มี ไอ้โอบอกว่าหัวหน้าสมาคมชื่อจันทร์แรม ไทรไปถามก็ไม่มี หนูก็เลยเปลี่ยนใจไม่ทำบุญแล้ว (หนูไลน์โทรศัพท์กับไอ้โอมีรูปมันด้วย)
วันจันทร์ที่ 24/6/56 หนู+อาโทรไปหาไอ้โอว่าหนูไม่แล้วขอเงินคืน เค้าก็บอกว่าอีก 10 นาทีจะโอนไปให้ ถึงเวาแล้วไม่รับโทรศัพท์เลย จริงๆๆแล้วหนูไม่ใช่เป็นคนมีเงินน่ะเงินส่วนนี้เป็นเงินเก็บส่วนตัวหนูเองสิ้นเดือนมิย.56นี้หนูจะเอาไปฝากท้องแฟนหนูก็ทำงานเงินเดือนไม่เยอะ2คนเราต้องเก็บเงินดูแลปู่ อายุ 84 ปี และลุูกสาวเพิ่ง 8 เดือนเองด้วยเค้าก็งอแงหนูก็สงสารลูกและอาเค้าเลี้ยงให้หนู อาเค้าก็ไม่คิดตังค์และไม่ได้ทำงาน หนูก็สงสารอาเค้าหนูก็ให้เค้านิดหน่อย แฟนหนูไม่รู้เรื่องนี้เลยไนูไม่กล้าบอกแฟน หนูมีความเชื่อและเป็นคนชอบทำบุญ ทำไมเอาความเชื่อและศรัทธาของหนูมาหลอกลวงกัน หลอกลวงคนอื่นชีวิตของคุณสาธุ รู้กันทุกคนน่ะว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป ในสังคมยังมีอีกเยอะไม๊ที่ไม่นึกถึงชีวิตใครเลยว่าเค้าลำบากหรือเปล่าที่เสียเงินไป นึกถึงแต่ตัวเองสังคมมีแต่คนเห็นแก่ตัวและชีวิตเค้าก็คงสาธุๆๆๆๆๆๆอย่าให้เขียนต่อเลยตอนนี้หนูไม่เสียดายแล้วมีแต่เจ็บใจและอยากบอกพี่ๆๆเพื่อนๆๆในสังคมนี้ให้ระวังว่ามีคนที่จะหลอกลวงเราอีกเยอะ
มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลมาเรี่ยไร
คนที่คุณอาจรู้จัก
ดูทั้งหมดคนที่คุณอาจรู้จัก
เจ้าหน้าที่มูลนิธิอินทรบุญฟทธิ์เจริญธรรมการกุศลมาขอรับบริจาคที่ทำงานของดิฉัน ดิฉันก็ช่วยสนับสนุน โลงศพของเด็ก 1 โลง เพราะถือว่าเป็นการทำบุญในวันเกิด ไม่ได้คิดอะไรมาก ถ้าทางมูลนิธินำเงินที่บริจาคไปทำประโยชน์แก่ส่วนรวมจริงก็ถือว่าดี แต่ถ้าเค้านำเงินที่ได้ไปเข้ากระเป่าของตนเอง ดิฉันก็คิดว่าเค้ารับเอาเคราะห์กรรมที่มีแก่ตัวดิฉันไปเก็บไว้เอง ……..คิดแบบนี้ก็ทำให้ดิฉันสบายใจในการทำบุญครั้งนี้ สาธุ สาธุ ………..
มูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศลมาเรี่ยไร