Share this:

ลงทะเบียนภาคซัมเมอร์ดีไหม และมีรายละเอียดยังไงบ้าง?

อีกไม่กี่เดือนเราก็จะเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์กันแล้วที่บางคนก็เลือกที่จะขอพักหรือบางคนก็ตัดสินใจที่จะลงทะเบียนเรียนต่อ ว่าแต่… เพื่อน ๆ รู้รายละเอียดทั้งหมดของการเรียนซัมเมอร์แล้วหรือยัง มีอะไรที่เพื่อน ๆ มองข้ามไปมั้ย วันนี้ผมจะมาเล่ารายละเอียดในแง่มุมต่าง ๆ เกี่ยวกับการเรียนซัมเมอร์ที่หลายคนอาจไม่ทราบครับ โดยผมรวบรวมมาได้ 8 อย่างครับ

 

  1. ลักษณะทั่วไปของภาคซัมเมอร์ (หรือเรียกอีกชื่อว่า semester 3/202x )
  • ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ เรียนจบในภาคซัมเมอร์ ก็จะยังถือว่าเพื่อน ๆ เรียนจบในปีการศึกษานั้น และรับปริญญาพร้อมกับคนที่จบ semester 1-2/202x
  • เนื่องจากภาคซัมเมอร์ก็ถือเป็น semester นึงเหมือนกัน จะยังคงมีเก็บค่า university fee ปกติ แต่อาจจะถูกกว่าภาคการเรียนปกตินิดหน่อย
  • ซัมเมอร์จะใช้เวลาเรียนกันแค่ 1 เดือนกว่า ๆ – 2 เดือน (เรียกได้ว่า เรียนแค่ 2-3 สัปดาห์ก็สอบ midterm และ final แล้ว) และปกติวิชานึงจะเรียนคาบนึง 3 ชั่วโมงและอาจเรียนถึง 2-3 คาบต่อสัปดาห์ เรียนหนักเอาเรื่องอยู่
  1. โดยปกติซัมเมอร์จะอนุญาตให้นักศึกษาลงได้มากที่สุดแค่ 6 เครดิต
  • ถ้าต้องการเรียน 9 เครดิตต้องขอ petition ไว้ล่วงหน้า (ซึ่งไม่แนะนำให้ขอเพราะขอได้ยาก และแค่เรียน 6 เครดิตก็เหนื่อยมาก ๆ แล้ว)
  • ถ้าเป็นช่วงซัมเมอร์ก่อนขึ้นปี 1 จะเรียนได้แค่มากสุด 4 เครดิต (1 วิชา + วิชา PE)
  1. วิชาที่เปิดซัมเมอร์ส่วนใหญ่จะมีแค่วิชา General/Business Core/Free Elect
  • ซึ่งเซคเปิดค่อนข้างน้อย อีกทั้งมักให้สิทธิ์นักศึกษาที่ใกล้จบลงทะเบียนก่อน ถ้าต้องการเรียนจริง ๆ ควรขอ petition ไว้
  • ถ้าต้องการรู้ว่าวิชาไหนเปิดในช่วงซัมเมอร์ อย่าเดาหรือรอลุ้นเอง ควรทักไปสอบถามกับอาจารย์ทุกท่านที่สอนวิชานั้นโดยตรง ถ้าปกติอาจารย์ไม่เปิดสอน ลองชี้แจงกับอาจารย์ถึงความจำเป็นเพื่อขอรวบรวมรายชื่อนักศึกษามาเปิดเซคได้ โดยปกติมักต้องรวบรวมรายชื่อ 15-25 คนเป็นอย่างน้อย
  1. เนื้อหาหรือภาระงานบางวิชาจะถูกตัดให้น้อยลงเนื่องจากเวลาเรียนไม่พอ
  • ยกตัวอย่างเช่น วิชา Corporate Finance ที่เนื้อหาจะสั้นลงและเน้นสอบไปที่การคำนวณมากกว่าทฤษฎี หรือแม้แต่วิชา Business Law ที่อ่านสอบแค่ในชีทที่ให้ในคาบช่วงซัมเมอร์ก็พอ
  • ส่วนภาระงานที่น้อยลงจะพบได้ในวิชา Ethics ที่ในช่วงซัมเมอร์ไม่ต้องทำงาน CSR
  1. การแต่งกายไม่บังคับใส่ชุดนักศึกษา ใส่ไปรเวทไปได้เลย
  • นักศึกษาแค่ใส่ชุดที่สุภาพก็พอ ซึ่งมีหลักเกณฑ์คือ เสื้อปิดถึงคอ กางเกงเลยเข่า รองเท้ารัดส้นหรือผ้าใบ (ซึ่งคลาสเรียนวันเสาร์-อาทิตย์ในภาคเรียนปกติก็สามารถใส่ชุดไปรเวทได้)
  • แต่ช่วงสอบหรือควิซก็ยังคงต้องแต่งชุด full uniform ตามระเบียบของมหาวิทยาลัย
  1. ช่วงซัมเมอร์มักใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยลำบาก
  • เนื่องจากช่วงซัมเมอร์มีนักศึกษามาเรียนไม่มาก จึงทำให้มีร้านอาหารเปิดน้อย หรือแม้แต่รอบรถตู้ที่เหลือทั้งวันแค่ 1-2 รอบเท่านั้น อีกทั้งค่าอาหารและค่ารถตู้ก็อาจแพงขึ้นด้วยเนื่องจากคนใช้บริการน้อย
  1. เกรดฉุดแบบปลอม ๆ
  • ถ้าตอนเกรดออกแล้วเปิด AU Spark แต่เจอเกรดเฉลี่ยทั้งภาคซัมเมอร์ที่ต่ำมาก เช่น อาจได้ 2.75 (B- สองตัว) ไม่ต้องตกใจ มันจะไม่ฉุดเกรดเทอมอื่น ๆ เพราะระบบจะนำ 2 วิชานี้ไปบวกรวมกับเกรดตัวอื่น ๆ แบบภาคการเรียนปกติ

 

  1. ควรเลือกเรียนวิชาที่ใช้การจำหรือวิชาที่งานเยอะ
  • วิชาที่คิดว่าจำเยอะ เช่น Managerial Psychology, Introduction to MIS, Ethics, World Civilization แนะนำว่าควรเรียนตอนซัมเมอร์เพราะจะมีเวลาค่อย ๆ ทยอยจำเนื้อหาได้
  • วิชาที่งานเยอะ เช่น Computer Literacy, Quantitative Tools, Business Research, Business Communication ควรเรียนตอนซัมเมอร์อย่างยิ่งยวด เพราะถ้าเรียนตอนภาคเรียนปกติ อาจทำให้เราต้องนอนดึกขึ้น หรือรบกวนเวลาอ่านหนังสือวิชาอื่นได้ เนื่องจากการบ้านที่เยอะมาก ๆ
Share this: