เราเป็นเด็กจะจบแล้วแต่เราจบช้ามาหลายปี เรื่องมีอยู่ว่าตอนนี้ความรู้สึกเราย่ำแย่แทบจะลาออกเพราะคนๆนึงในมหาลัยที่พูดจาเหมือนดูถูกและทำร้ายความรู้สึกเราด้วยคำพูด ทำให้เราเสียขวัญ เสียความมั่นใจ เสียself เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อต้นปีเราเครียดมากเลยไปบ่นให้ญาติฟังเรื่องจบ แล้วเราก็ร้องไห้แทบบ้า ไม่ใช่เพราะเราเรียนไม่ดีนะแต่เพราะวิชาmathหรือคำนวนทั้งหลายที่เราไม่ถนัด ทำให้เรายังเรียนไม่จบสักที อยู่ดีๆญาติก็ไปมหาลัยโดยพลการไปคุยกับบราเดอร์คนนึง แล้วไม่ยอมบอกเรา จริงๆเราไม่ต้องการให้ญาติเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องเราแต่สายไปล่ะ มารู้ตอนหลังเพราะคณะโทรมาเรียกเราไปพบ เราก็งงๆ พอมาถึงที่คณะพี่เลขาArtsก็โทรไปหาบราเดอร์ๆก็ให้เราไปพบ อจ.คนนึงที่ดูแลแผนกทุน ชั้นCL14 และแล้วบ่อเกิดแห่งความเครียดจนแทบจะลาออกก็เกิดขึ้นจนได้ มาถึง อจ.คนนี้ก็แค่แนะนำเรื่องลงทะเบียน เขียนpetitionต่างๆนั่นนี่ แล้วเราสังเกตุว่าเราต้องวิ่งวุ่นตลอดๆ หัวปั่นอยู่ตลอด เหมือนเขาแกล้งหรือเปล่าไม่รู้ ที่หนักไปกว่านั้นคือช่วงนั้นเป็นช่วงลงทะเบียน เราเลยไปยืนต่อแถวยาวๆที่MSE แล้วก็ลงทะเบียนแต่เจ้าหน้าที่ทะเบียนทำงานแย่ลงให้เราผิด อจ. จนต้องวุ่นวายเป็นรอบที่2เราเลยกลับมาหาคนนี้ แล้วก็บอกเขาว่าทะเบียนลงผิดsec เขาเลยให้เจ้าหน้าที่ทะเบียนที่อยู่cl14ช่วยแก้ให้เรา แล้วก็วุ่นวายอยู่สักพัก สุดท้าย อจ.คนนี้โทรศัพท์หาทะเบียน แต่ด้วยความที่ใบทรานสริปค์ของเราที่เขาไปเอามาวางอยู่บนโต๊ะเขาพอดี และเป็นจังหวะที่เขากำลังรอโทรศัพท์ เรื่องที่เราเจ็บปวดหัวใจอย่างแรงก็เกิดขึ้น ในระหว่างที่รอโทรศัพท์อยู่นั้นคนๆนี้ก็ไม่มีอะไรทำจึงสอดส่ายสายตาไปมาและบังเอิญเรดาร์ของเขาก็มาตกอยู่ที่transcript เรา เราเรียนอยู่arts Jap และผลการเรียนเราดีมาก ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย แต่ทำไมคนนี้ต้องถามคำถามที่มันทำร้ายความรู้สึกเช่นนี้ จะไม่ขอบอกนะคะว่าเขาถามอะไรแต่มันเป็นคำพูดที่ทิ่มแทงความรู้สึกเรามาก ประเภทที่ว่าคุณจะรู้สึกเสียself ได้เลย เป็นคำพูดที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีเขาอยู่บนหัว เหมือนคนๆนี้พยายามที่จะหาช่องโหว่มาจิกกัดเราให้ได้ แล้วฟังแล้วอึ่งไปเลย คือไม่ใช่แค่คำพูดเขานะคะ เขายังมองtranscriptเราด้วยหางตา ทั้งๆที่ผลการเรียนก็ดี ไม่ได้จะอวดนะคะ คือมันดีมาตลอดจริงๆ เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนๆนี้ต้องทำให้เรารู้สึกเป็นสัตว์ชนิดนึงมีเขาอยู่บนหัว ซื่อบื่อๆ โง่ๆ อ่อเราเรียนมานานแล้วนะคะ น่าจะ6-7ปีได้ แต่ไม่มีอะไรเลวร้ายเท่าไรเลย และเราก็มีความสามารถมากกว่าที่เขาคิดและทุกคนที่เรียนเหมือนเราก็มีความสามารถเท่ากันหมด ตัวเองก็ไม่ใช่ อจ.คณะArtsทำเป็นพูดมาก และเราพึ่งนึกขึ้นมาได้ว่าวันแรกที่เราไปพบเขาที่โต๊ะ พอคุยกันเสร็จเราเดินออกจากโต๊ะเขา ก็ถอนหายใจไล่หลังเราเสียงดังๆ เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นมาจากเจ้าหน้าที่ทะเบียน ถ้าไม่ลงให้เราผิดๆก็คงไม่ต้องกลับมาเจอคนนี้และไม่เกิดเหตุการณ์กระทบใจนี้ขึ้น บราเดอร์ก็ไม่รู้ทำไมให้คนนี้มาแนะนำเรา เหยียบย่ำหัวใจเราเปล่าๆ
ตอนนี้เราเครียดมาก เหลือ2วิชาสุดท้ายแต่เจอคำพูดคนๆนี้เข้าไปมันทำให้เราเสียself และเก็บคำพูดเขามาคิดตลอดเวลา แทบจะลาออกเลยค่ะ
ขอร้องนะคะ เกรียนคีย์บอร์ดทั้งหลายถ้าจะเข้ามาหาเรื่องก็อย่าทำเลยนะคะ เห็นใจเราเถอะค่ะ คุณทำดี เห็นใจคนอื่นคุณก็ได้ดีนะคะ อย่าทำบาปให้คนอื่นทุกข์ใจเลยค่ะ แค่นี้เราก็แย่พอแล้ว ฝากนะคะ สำหรับเพื่อนๆที่ตั้งใจดีก็เข้ามาตอบความเห็นได้เลยค่ะ
ปล.เราไม่ใช่เด็กทุนนะคะ พ่อแม่ล้วนๆค่ะ
และญาติเราเป็นคนไปพบบราเดอร์โดยที่ไม่บอกเราค่ะ ไม่ใช่เรา